เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ เขตหนองจอก ทรงเปิดชมรมและศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ซึ่งโรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเขตหนองจอก ด้วยตระหนักถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียนที่มีนักเรียนชาย-หญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่1ถึง 6 จำนวน 1,400 คน เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอบายมุข โดยการส่งเสริมให้ร่วมกิจกรรมชมรม TO BE NUMBER ONE ทั้งด้านวิชาการและการพัฒนาทักษะตามความสนใจ ร่วมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดกับชุมชนและหน่วยงานอื่นๆให้สมาชิก คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ได้แสดงความสามารถในสิ่งที่สมาชิกชอบ และร่วมกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสาธารณประโยชน์ ส่วนศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ดำเนินการภายใต้แนวคิด “ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนาอีคิว” ทำให้สมาชิกเกิดทักษะการคิดเป็นระบบ การทำงานเป็นทีม มีความคิดสร้างสรรค์และมีความภาคภูมิใจในตนเอง มีกิจกรรมสร้างสุข ได้แก่ การจัดสวนแก้ว, หนังสือเล่มเล็ก, โครงงานวิทย์พิชิตสิ่งแวดล้อม, STEM ศึกษาพัฒนาชุมชนและกิจกรรมธรรมชาติสร้างสรรค์ ในขณะที่“เขตหนองจอก” ได้สนองพระดำริดำเนินโครงการTO BE NUMBER ONE เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รณรงค์สร้างกระแสค่านิยม “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” จัดกิจกรรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้างและพัฒนาเครือข่ายครอบคลุมทั้งในชุมชน โรงเรียนและสถานประกอบการ โดยเขตหนองจอกมีผู้สมัครใจเข้าร่วมโครงการใครติดยายกมือขึ้น 63 คน, บังคับบำบัด 152 คน และที่ต้องโทษ 5 คน

นายเลิศศักดิ์ นันนวน “ครูตี๋” ครูที่ปรึกษาศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ เล่าว่า กิจกรรมภายในศูนย์เพื่อนใจฯจะให้เด็กเป็นหลักในการนำเสนอ ชอบกิจกรรมแบบไหนคิดแล้วนำมาปรึกษาพัฒนาร่วมกัน ในฐานะเป็นครูที่ปรึกษาจะรับฟังเด็กและคอยสนับสนุนในเรื่องนั้นๆ การมีศูนย์เพื่อนใจฯเหมือนเปิดโอกาสให้เด็กได้มีพื้นที่มาทำกิจกรรมที่อยากทำร่วมกัน และได้ใช้เวลารวมตัวทำกิจกรรมที่ดี เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตัวอย่างเช่น กรณีของเด็กนักเรียนชายมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ วันหนึ่งเพื่อนๆชักชวนเขาเข้ามาร่วมกิจกรรม ทั้งเขาและเพื่อนได้ทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ร่วมกัน เขาจึงมีความคิดใหม่ เลิกบุหรี่ มีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ตั้งใจเรียน สอบติดมหาวิทยาลัยที่อยากเรียน และมีอนาคตที่ดีขึ้น ครูเชื่อว่าหลายๆอย่างทั้งตัวเขาเอง ทั้งทางศูนย์เพื่อนใจฯของเรา เป็นแรงผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จได้ ซึ่งเสียงตอบรับจากพ่อแม่ผู้ปกครองดีมาก เพราะอยากสนับสนุนลูกๆอยู่แล้ว ทางศูนย์เพื่อนใจฯของเราก็มีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความสามารถ

นางสาว ดลวีร์ คงกัน “ครูปอ” ครูสอนศิลปะศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ “กลุ่มกิจกรรมภาพพิมพ์” เล่าว่า ที่เลือกกิจกรรมภาพพิมพ์มาสอนในศูนย์เพื่อนใจฯเพราะอยากให้เด็กๆได้ฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์ เด็กจะได้พัฒนาทางด้านความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานและคิดเนื้อหาที่ต้องการแสดงออกมา รู้จักวางแผนการทำงาน การลำดับขั้นตอน ซึ่งในการทำภาพพิมพ์มีขั้นตอนต่างๆที่น่าสนใจ อย่างเช่น ในขั้นตอนการแกะแม่พิมพ์ จะต้องแกะผ่านกระจกภาพสะท้อน ไม่สามารถแกะโดยตรงได้ เพราะพิมพ์ออกมาแล้วภาพจะกลับด้าน เด็กก็จะตื่นเต้น และรู้สึกสนุกที่ได้นำแม่พิมพ์ของตนเองมาแชร์กับเพื่อนๆในการสร้างภาพร่วมกัน การเปลี่ยนแปลงของเด็กเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมภาพพิมพ์ที่สังเกตได้คือ เด็กใจเย็นขึ้น มีสมาธิมีความรับผิดชอบมากขึ้น เมื่อทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ทุกคนจะรู้ว่าต้องเก็บอุปกรณ์ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เพื่อที่เพื่อนๆกลุ่มอื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้ เด็กจะลดการเล่นเกมลง ส่งผลให้มีผลการเรียนดีขึ้น เกรดติดศูนย์น้อยลง ผลดีของการมีศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ทำให้เรามีสถานที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างเด็กๆด้วยกันเอง หรือครูกับเด็ก เด็กก็จะเข้ามาหาเราง่ายขึ้นโดยมีตัวกิจกรรมเป็นตัวเชื่อม

น.ส.พาขวัญ นวลคำ “น้องขวัญ” วัย 17 ปี นักเรียนชั้นม.5 หัวหน้า “กลุ่มกิจกรรมหนังสือเล่มเล็ก” ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ เล่าว่า ได้แนวคิดในการทำหนังสือเล่มเล็กมาจากความไม่ชอบอ่านหนังสือของเยาวชนในปัจจุบัน จึงเลือกทำหนังสือนิทานเพราะมีภาพประกอบช่วยดึงความสนใจ ได้การถ่ายทอดเรื่องราวลงในหนังสือแต่ละเล่ม เราจะเน้นเรื่องคติสอนใจ เช่น เรื่องความสามัคคี ความรับผิดชอบและเรื่องยาเสพติดซึ่งหนังสือเล่มนี้มีชื่อเรื่องว่า”เก่งกาจ” เนื้อเรื่องในหนังสือมีความเชื่อมโยงกับโครงการ TO BE NUMBER ONE และเป็นเล่มที่จะถวายให้กับทูลกระหม่อมวันนี้ได้ด้วย เนื้อเรื่องได้สะท้อนถึงชีวิตของเยาวชนคนหนึ่งที่ชื่อว่า “เก่งกาจ” ที่บ้านฐานะดี เพียบพร้อมทุกอย่าง แต่ขาดความรักจากครอบครัว พ่อกับแม่แยกทางกัน เก่งกาจอาศัยอยู่กับพ่อซึ่งวันๆทำแต่งาน เก่งกาจจึงไม่สนใจเรียน เที่ยวเล่น กินเหล้า ติดเพื่อนและเข้าไปอยู่ในสังคม ที่ติดยา ทำให้พ่อแม่เสียใจมาก ในที่สุดเก่งกาจจึงคิดได้และได้เข้ารับการบำบัดใน“โครงการใครติดยายกมือขึ้น” จนสามารถเลิกยาได้เด็ดขาด ส่วนพ่อก็ปรับตัว แบ่งเวลาให้กับลูกมากขึ้น ชีวิตครอบครัวจึงกลับมามีความสุขอีกครั้ง

นายศิรเชษฐ์ กิติกรโรจนนิภัทธิ์ “นัส” วัย15 ปี นักเรียนชั้นม.1 “กลุ่มกิจกรรม STEM ศึกษาพัฒนาชุมชน และกิจกรรมธรรมชาติสร้างสรรค์” ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ บอกว่า การมีศูนย์เพื่อนใจฯช่วยให้พวกเรามีสถานที่ทำกิจกรรมและได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์มากขึ้น นำความรู้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้ได้ และเนื่องจากตัวเองเรียนสายวิทย์-คณิต จึงได้ประดิษฐ์ “ถุงเพาะรักษ์”ซึ่งเกิดจากความคิดที่จะใช้วัสดุธรรมชาติทำเป็นถุงเพาะชำแทนถุงพลาสติกที่ย่อยสลายยากและเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนการทำ “ถุงเพาะรักษ์” เริ่มจากนำเปลือกหอยแครงมาผ่านความร้อนบดให้ละเอียดและนำมาผสมกับน้ำแป้งมัน จากนั้นนำมาขึ้นรูปกับแม่พิมพ์ เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถนำลงหลุมปลูกต้นไม้ได้เลย ประโยชน์ก็คือเป็นปุ๋ยด้วยในตัว และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งสามารถนำกิจกรรมนี้ไปถ่ายทอดให้เพื่อนๆและสามารถสร้างเป็นอาชีพได้ด้วย

“บอย” (นามสมมุติ) เยาวชนวัย 25 ปี ผู้ที่เคยมีปัญหาติดยาเสพติดแต่ปัจจุบันสามารถเลิกยาได้อย่างเด็ดขาดเพราะได้เข้าร่วม “โครงการใครติดยายกมือขึ้น” กับศูนย์บริการสาธารณสุข 44 ลำผักชีหนองจอก เล่าว่าตนเองอาศัยอยู่กับพ่อและย่า เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกัน โดยได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด(ยาบ้า) ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นม.3 ตอนนั้นอายุ15 ปี เพราะอยากลองและติดเพื่อนมากไม่ค่อยเชื่อฟังผู้ปกครอง ไม่เคยช่วยงานที่บ้าน พอเพื่อนชักชวนให้ลองจึงลองจนติดและเสพมาตลอด ต่อมาพ่อกับย่ารู้และท่านเสียใจมาก ตนเองจึงรู้สึกผิดสงสารพ่อและย่า จึงตัดสินใจเลิกตอนอายุ 22 ปี โดยสมัครเข้าร่วม“โครงการใครติดยายกมือขึ้น”ของเขตหนองจอก แรกๆพอไม่ได้เสพจะรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่ปัจจุบันนี้สามารถเลิกได้เด็ดขาดแล้ว ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำงานดูแลธุรกิจของครอบครัว ซึ่งทำเกี่ยวกับเลี้ยงแพะให้ดีที่สุด ตนเองรู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมที่ห่วงใยประชาชนตัวเล็กๆ ตนได้รับโอกาสเข้าร่วม“โครงการใครติดยายกมือขึ้น”ที่ทรงประทานมาให้ จนสามารถเลิกยาได้อย่างเด็ดขาดและขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกตลอดชีวิต


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน