ในโลกที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา การเตรียม “ชีวิต” ให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันแต่ไม่แน่นอนนับว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มเยาวชนทั้งหญิงชายกว่า 150 คนที่ได้เข้ามาเรียนทักษะวิชาชีพในแต่ละปีภายใต้หลังคาโรงเรียนพระดาบส

แม้ว่าทักษะงานฝีมือที่ร่ำเรียนไปจะเป็นความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน คำถามคือแค่นั้นเพียงพอหรือไม่ อะไรจะเป็นแต้มต่อให้เด็กกลุ่มนี้สามารถแข่งขันกับคนอื่นๆ ได้ในสังคม หนึ่งในคำตอบที่เกิดขึ้นคงจะต้องเป็นเรื่อง “ทักษะชีวิต” ที่จำเป็นที่จะเป็นส่วนเสริมให้เด็กๆ กลุ่มนี้ครบเครื่องและกลมกล่อมมากขึ้น

คำตอบต่อคำถามนี้จึงน่าจะเป็นที่มาของกิจกรรม “ทักษะชีวิตกับโรงเรียนพระดาบส” ที่ดำเนินการโดยธนาคารยูโอบี โดยเป็นกิจกรรมเสริมทักษะใน 6 วิชาสำคัญในยุคนี้ ได้แก่ ทักษะภาษาอังกฤษกับชีวิตประจำวัน (English for Life), ทักษะการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการตลาด (Digital for Life), ทักษะการออมเงินและการลงทุนเบื้องต้น (Saving & Investment for Life), ทักษะการสร้างแบรนด์ (Branding for Life) ทักษะศิลปะเพื่อการสร้างสรรค์ (Art for Life) และทักษะการทำอาหาร (Cooking For life)

คุณแตน ดุจฤทัย คงคาเจริญ เจ้าของร้านน้ำผักสกัดเย็น “Veggiology” หนึ่งในวิทยากรอาสาที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์จริงในส่วนของวิชา Digital for Life โดยนอกจากจะมาเล่าให้ฟังถึงความคิดและจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากแรงบันดาลใจของตัวเองอย่าง Veggiology ที่วันนี้มียอด followers ใน IG มากกว่า 14,000 คน และยอดขายน้ำมากกว่า 350 ขวดต่อวัน คุณแตนยังได้แบ่งปันและให้เทคนิคการทำการการตลาดให้กับน้องๆ ในโรงเรียนพระดาบสอีกด้วย

“การมาแชร์ประสบการณ์ของเราในการทำธุรกิจวันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ เราเล่าตั้งแต่ที่มาที่ไป เริ่มต้นอย่างไรตั้งแต่ยังไม่มีสินค้าจนถึงออกมาเป็นสินค้าขาย ที่สำคัญเราทำการตลาดในโลกออนไลน์อย่างไร ที่วันนี้การมีหน้าร้านไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป ซึ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในหลักสูตรที่น้องๆ ได้เรียน แต่จะเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ในชีวิตจริงที่เรามาเล่าให้ฟัง”

ม่อน-ภัทรพงษ์ วัฒนวงศ์ เล่าว่าตัวเองชอบเวิร์กชอปการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการตลาด ได้เรียนรู้การขายของออนไลน์ ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาเป็นอาชีพเสริมที่เป็นเจ้านายของตัวเองได้ “กิจกรรมนี้ตอบโจทย์ชีวิตผมหลายด้าน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอยากก้าวไปทำอาชีพอื่นนอกเหนือจากอาชีพที่ตรงกับสายงานที่เรียนมา โดยการเรียนวิชาต่างๆ ช่วยให้ผมได้พัฒนาตัวเองและชีวิตให้เติบโตไปอีกขั้น เพราะสิ่งที่ผมไม่เคยทำ ก็กล้าที่จะลองทำ ซึ่งจะกลายเป็นทักษะชีวิตที่ติดตัวผมไปตลอด และนำไปต่อยอดกับการทำงานในอนาคตได้”

อีกหนึ่งวิทยากรอาสาในกิจกรรมนี้คือ เชฟแอน-ภาวิตา แซ่เจ้า เชฟหญิงผู้คร่ำหวอดในวงการอาหาร และเป็นเชฟผู้ช่วยคนสำคัญของเชฟเอียน – พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย แห่ง Iron Chef Thailand ซึ่งมาสอนนักเรียนทำอาหารพร้อมจัดกิจกรรมแข่งขันสร้างสรรค์สลัดโรล โดยเชฟแอนบอกว่า อาชีพเชฟอยู่ในเทรนด์ของอาชีพที่น่าสนใจ เพราะธุรกิจอาหารในไทยกำลังเติบโตอย่างมาก และไม่สามารถมี AI (Artificial Intelligence) เข้ามาทำงานทดแทนได้ ดังนั้น อาชีพเชฟจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกอาชีพในอนาคตให้กับเด็กๆ เพราะเมื่ออยู่ในวิชาชีพนี้ไปนานๆ จะทำให้ยิ่งมากประสบการณ์ สามารถสร้างเส้นทางชีวิตที่ดี และสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเองได้อีกด้วย

“การมาร่วมกิจกรรมนี้เชฟได้มาสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ผ่านการเรียนรู้และทดลองทำอาหาร แม้ตอนนี้พวกเขาอาจไม่ได้คิดจะทำอาชีพเชฟ แต่เมื่อถึงวันที่เด็กๆ ออกไปใช้ชีวิตเอง พวกเขาอาจเริ่มคิดออกว่าเคยเรียนหรือมีความสุขกับการทำอาหารมาก่อน ตอนนั้นเขาก็อาจนำความรู้จากกิจกรรมครั้งนี้ไปทำเป็นอาชีพได้ เหมือนเราปูทางอาชีพให้พวกเขาด้วยความสุข ซึ่งการใช้ความสุขเป็นตัวนำจะทำให้งานออกมาดี”

จ๋า-ประภาภัทร ขาวคง นักเรียนโรงเรียนพระดาบส หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม เล่าว่า ตนได้เข้าร่วมเวิร์กชอปภาษาอังกฤษ และการทำอาหาร ซึ่งชอบทั้งสองกิจกรรม อย่างการเรียนภาษาอังกฤษนั้นมีความสนุก ไม่เครียด และไม่เหมือนกับที่เรียนมา ทำให้ตัวเองมีทัศนคติที่ดีขึ้นจากเดิมที่มองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยาก รวมถึงทำให้กล้าแสดงออก และกล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น

“ในส่วนของการเรียนทำอาหารที่ได้ฝึกทำสลัดโรล มองว่าสามารถนำสูตรที่ได้เรียนรู้ไปทำเองได้เลย หรืออาจดัดแปลงสูตรใหม่ ส่วนตัวแล้ววางไว้ว่าจะทำเป็นอาชีพเสริม เพราะเราเรียนด้านวิชาการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งต้องมีการเข้าเวร เมื่อเราว่างหรือออกจากเวรแล้วก็ทำสลัดโรลไปขายได้ ถือว่าเป็นการเพิ่มเติมรายได้ให้กับตัวเองอีกทางหนึ่ง”

สัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและสนับสนุนธุรกิจ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กิจกรรมทักษะชีวิตกับโรงเรียนพระดาบส เป็นการต่อยอดจากกิจกรรมเดิน-วิ่ง UOB Heartbeat Run/Walk เพื่อระดมทุนสำหรับนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตและมอบโอกาสให้กับเยาวชนในภูมิภาคเอเชีย โดยยูโอบีประเทศไทยได้นำเงินบริจาคไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม พร้อมทั้งมอบให้กับโรงเรียนพระดาบส และกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ที่เพิ่มเติมมาในปีนี้

“หลังจากที่เราสนับสนุนโรงเรียนพระดาบสติดต่อกันมาหลายปี ก็ได้คิดต่อยอดกิจกรรมเพิ่มเติมเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมมากขึ้น จึงเกิดกิจกรรมนี้ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตให้กับนักเรียนโรงเรียนพระดาบส ด้วยการมอบความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ อันเป็นการจุดประกายให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อาชีพที่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน และอาจนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน หรือเป็นอาชีพเสริมได้ โดยกิจกรรมได้เดินทางมาถึงปีที่ 2 แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากเด็กๆ เป็นอย่างดี กิจกรรมเวิร์คชอปที่จัดขึ้นก็มาจากการสอบถามความสนใจของพวกเขาว่าอยากเรียนรู้อะไรบ้าง เพื่อเราจะได้จัดกิจกรรมที่สอดรับกับสิ่งที่เด็กอยากรู้จริงๆ”

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมทักษะชีวิตกับโรงเรียนพระดาบสในแต่ละครั้ง จะมีพี่ๆ จิตอาสายูโอบีกว่า 20 คนมาร่วมกิจกรรม ซึ่ง ณาตยา วงศ์เจริญสถิตย์ หนึ่งในจิตอาสายูโอบี บอกว่า ตนได้เข้าร่วมกิจกรรมติดต่อกันเป็นปีที่ 2 เพราะอยากมาทำความดีกับยูโอบี และชอบบรรยากาศของเด็กๆ ที่มีความสุขกับการทำกิจกรรม ซึ่งปีนี้ก็ได้มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ ในการเรียนรู้และการทำกิจกรรมต่างๆ

“ส่วนตัวแล้วมองว่ากิจกรรมนี้ช่วยเสริมทักษะชีวิตให้กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก นอกจากความรู้ด้านวิชาชีพแล้ว พวกเขายังได้ฝึกทักษะด้านอื่น อย่างการทำกิจกรรมที่ต้องมีการนำเสนอผลงาน เขาอาจไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้กับคนแปลกหน้า ซึ่งน้องหลายคนทำได้ดีแม้จะเป็นครั้งแรก เหมือนพวกเขาสามารถก้าวข้ามความท้าทายหรือสิ่งที่เป็นครั้งแรกของเขา โดยเชื่อว่าพวกเขาจะนำทักษะหรือประสบการณ์จากการทำกิจกรรมไปต่อยอดได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาชีพ การเข้าสังคม หรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งจะเสริมสร้างให้พวกเขาเป็นคนคุณภาพในการร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน