ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2562 ว่าปีนี้การเคหะแห่งชาติสามารถทำยอดขายหน่วยอาศัยได้มากถึงระดับ 10,000 หน่วย และปิดการขายได้เร็ว โดยคาดหวังจะมีกำไรถึง 2,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีกำไร 1,700 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปี 2563 ไม่ค่อยเอื้ออำนวยนัก เนื่องจากได้รับอนุมัติขายไม่ถึง 10,000 หน่วย น้อยกว่าจำนวนหน่วยในปีนี้ ดังนั้นการเคหะแห่งชาติจำเป็นต้องหาวิธีการอื่นมาสนับสนุนเพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไร โดยใช้สินทรัพย์ในมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการร่วมทุนกับภาคเอกชนทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ โครงการร่วมลงทุนกับเอกชน (Joint Investment) โครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Operation) และโครงการร่วมสนับสนุนภาคเอกชน (Joint Support)

การร่วมทุนทั้ง 3 รูปแบบได้รับความสนใจจากคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่มี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยเฉพาะรูปแบบการร่วมลงทุน (Joint Investment) ใน 4 โครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3-4 โครงการร่มเกล้า และโครงการลำลูกกา

“การเคหะฯ ได้รับความสนใจมากเมื่อเทียบกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอื่น เพราะมีจำนวนโครงการร่วมทุนขนาดใหญ่ถึง 4 โครงการ วงเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท และอาจขยับเพิ่มเป็นร่วม 1 แสนล้านบาทในท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้าหลายด้าน ทั้งการส่งออกและการลงทุนจากรัฐอย่างเดียว” ดร.ธัชพลกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน