น้อง “อัศนี” เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน บ้างก็พูดกับครอบครัวของน้องว่า ลูกเธอไม่สมประกอบ หรือลูกเธอเกิดมาไม่ครบ 32 แม้พ่อและแม่ของน้องอัศนี จะมองบวกว่าเป็นการพูดเล่น แต่คำพูดไม่คิดของบุคคลอื่นได้ทำร้ายจิตใจพวกเขาเหลือเกิน แต่เหนือสิ่งอื่นใด หากมีหนทางใดจะรักษาน้องอัศนีได้ พ่อแม่ก็พร้อมทำทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้น้องเติบโตมากับคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น ต้องการให้ลูกเติบโตโดยมีความมั่นคงทางอารมณ์และมีความมั่นใจในตัวเอง

กระทั่งเมื่อพ่อแม่ของอัศนี ได้ทราบข่าวของ “มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม” จากการประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลและแผ่นประกาศที่ติดอยู่ที่ศูนย์ใกล้บ้าน จึงได้เข้าร่วมโครงการ กระทั่งเมื่อโครงการออกหน่วยพ่อและแม่จึงได้พาน้องอัศนีมารับการรักษา และยิ่งจะเป็นประโยชน์มากขึ้นเมื่อน้องอัศนียังเด็ก แพทย์ให้คำแนะนำว่าการได้รับการผ่าตัดเร็วขึ้นเท่าไรก็จะได้ไม่ต้องให้เด็กน้อยจดจำการถูกวิจารณ์หรือถูกมองว่าแตกต่างจากเด็กคนอื่น

การเข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม และได้พบผู้ป่วยรายอื่นๆ ทำให้พ่อและแม่ของอัศนียอมรับความจริงได้ว่าภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ และสามารถเกิดกับครอบครัวอื่นๆเช่นกัน

เช่นเดียวกับ “ศุภนัฐ” หรือน้อง “โฟล์คซอง” เด็กชายจาก จ.อำนาจเจริญ ที่เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ แต่เพราะสภาพฐานะของครอบครัวที่ทำให้พ่อแม่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลราคาสูงได้ พ่อและแม่น้องโฟล์คซอง ตัดสินใจติดต่อมูลนิธิฯ และขับรถระยะทางไกลกว่า 100 กิโลเมตร ด้วยความหวังว่ามูลนิธิฯจะช่วยเหลือได้ เมื่อครอบครัวน้องโฟล์คซองมาถึงโรงพยาบาลในวันคัดกรอง ได้พบกับเด็กๆ ที่มารับการรักษาเช่นกัน และได้เปิดอีกมุมมองให้ครอบครัวได้เห็นว่า มีเด็กในประเทศไทยมากมายที่เป็นเหมือนลูกชายของเขา

“โฟล์คซอง” ได้รับการผ่าตัดแก้ไขภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ในที่สุด ลูกชายอาการหายดีและแทบไม่เห็นแผลเป็น พ่อและแม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าภารกิจทางการแพทย์ เพื่อมนุษยธรรมเช่นนี้ทั้งจากความร่วมมือของทีมแพทย์อาสา และมูลนิธิสร้างรอยยิ้มจะส่งต่อให้เด็กคนอื่นๆในประเทศไทยต่อไป

น้ำใจทางการแพทย์ที่ส่งต่อทั่วประเทศนั้น ทำให้ “ทิพยรัตน์” เด็กหญิงที่เกิดมาในครอบครัวยากจน แม่ของเธอเป็นแม่บ้าน ส่วนพ่อทำงานที่โรงงานเย็บผ้าได้เงินเดือนเพียง 3,000 บาท ทิพยรัตน์เกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่ง ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กหญิงคนนี้จะมีโอกาสได้เข้ารับการผ่าตัด

ชีวิตของทิพยรัตน์เปลี่ยนไปเมื่อครอบครัวเห็นป้ายของมูลนิธิสร้างรอยยิ้มที่แขวนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลศรีสะเกษ พวกเขายอมจ่ายเงิน 500 บาทเป็นค่าเดินทางด้วยความหวังที่อยากให้ลูกสาวมีชีวิตใหม่…และชีวิตใหม่ของน้องทิพยรัตน์ก็เกิดขึ้นจริง เมื่อทางมูลนิธิผ่าตัดรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ…มอบอนาคตที่สดใสให้กับน้อง

ในแต่ละปีประเทศไทยจะพบเด็กทารกที่เกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ประมาณ 1 ใน 700 คน เด็กเหล่านี้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะประสบปัญหาการหายใจ การดื่มนม การรับประทานอาหาร และการพูด และจะส่งผลต่อพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของพวกเขาต่อไปในอนาคต

แม้ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด แต่ทั่วประเทศไทยยังมีเด็กๆ จากครอบครัวที่ยากจน บ้างก็อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ไม่สามารถเดินทางมายังโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดได้ มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย (Operation Smile Thailand) จึงได้เข้ามาทำหน้าที่อุดช่องว่างนี้ เข้ามาช่วยเหลือให้เด็กๆ ที่ขาดโอกาสได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม และให้การดูแลต่อเนื่องไปจนหายเป็นปกติ

“ปัจจุบันเราได้มอบการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนชีวิตให้กับเด็กๆ และผู้ป่วยไปแล้วกว่า 13,000 ครั้ง” เควิน เจ บูเวส์ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย เล่าให้ฟังถึงการที่มูลนิธิฯเข้ามามีส่วนช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่ายกับผู้ป่วยมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน

“เควิน” เล่าว่าที่ผ่านมามีองค์กรธุรกิจของประเทศไทยอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ และทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เข้ามาสนับสุนกิจกรรมของมูลนิธิฯ ตั้งแต่ปี 2552 และเช่นกันในปีนี้ที่เขาหวังว่า โครงการ “เติมรอยยิ้มไปด้วยกัน” ที่จัดโดยเครือซีพี ร่วมกับทรู คอร์ปอเรชั่น จะได้รับการสนับสนุนจากทุกคนและช่วยให้เราสามารถสร้างรอยยิ้มให้แก่เด็กๆ และผู้ป่วยได้ครบ 1,000 คน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ขณะที่ “นพปฏล เดชอุดม” ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และรองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทุกปีมีเด็ก 2,000 คนเกิดมาพร้อมภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ปัจจุบันมีเด็กอีกจำนวนมาก ยังไม่มีโอกาสได้รับการผ่าตัดแก้ไข อีกทั้งเป็นกลุ่มเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก เครือเจริญโภคภัณฑ์และทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนานกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย ได้เปิดโครงการ “เติมรอยยิ้มไปด้วยกัน” เพื่อระดมทุนรับบริจาคเงินภายใต้แนวคิด “บาทเดียวของคุณ สร้างรอยยิ้มของน้อง” ซึ่งมีที่มาจากมุมมองที่จะเชิญชวนลูกค้าของบริษัทในเครือ มีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม

“หากบริจาคเงินเพียงคนละ 1 บาท ก็จะได้เงินรวมเป็นจำนวนมากพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายผ่าตัดรักษาน้องๆ ที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ได้ โดยการผ่าตัดรักษาเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ 1 คน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 30,000 บาท ซึ่งโครงการครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะร่วมผ่าตัดรักษาเด็กให้ได้ครบ 1,000 คนภายในปี 2562”

เข้าสู่ช่วงปลายปีเทศกาลแห่งความสุข ช่วงเวลาที่เราต่างมอบของขวัญให้กันและกัน หากเราจะส่งต่อความสุขให้ผู้อื่นโดยเฉพาะเด็กๆ ด้อยโอกาสในประเทศไทย เพื่อให้พวกเขาได้รับ “ของขวัญ” ชิ้นพิเศษ ได้รับการผ่าตัดแก้ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ให้น้องๆเหล่านี้มีรอยยิ้มที่สดใส มอบชีวิตที่มีคุณภาพและอนาคตที่ดีให้กับพวกเขา เป็น “สิ่งเล็กๆ” ของน้ำใจแห่ง “การให้” และการ “ส่งต่อ”

….คือสิ่งที่เราทำให้ได้กับสังคมและโลกใบนี้

ผู้สนใจและมีจิตศรัทธาสามารถบริจาคผ่าน SMS ระบบทรูมูฟ เอช หรือใช้ทรูพอยท์ 100 พอยท์ แทนเงินบริจาค 10 บาท รวมทั้งขอเชิญชวนประชาชนชาวไทย บริจาคผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท หรือเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล แอมบาสซี ชื่อบัญชี Operation Smile Thailand เลขที่ 009-8-00444-3 โดยเปิดรับบริจาคได้ถึง 31 ธันวาคม 2562

วิธีการร่วมบริจาคกับทรูมูฟเอฟ หรือใช้ทรูพอยท์

  1. ส่ง SMS ในระบบทรูมูฟ เอช ไปที่หมายเลข 96555 โดย
    – พิมพ์ 1 เพื่อบริจาค 1 บาท
    – พิมพ์ 10 เพื่อบริจาค 10 บาท
    – พิมพ์ 100 เพื่อบริจาค 100 บาท
  2. ใช้ทรูพอยท์ 100 พอยท์ ร่วมบริจาค 10 บาท
  3. บริจาคผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยการสแกน QR Code ดังนี้
  4. บริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล แอมบาสซี ชื่อบัญชี Operation Smile Thailand เลขที่ 009-8-00444-3

Source : ภาพและข้อมูลมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม https://operationsmile.or.th/smile-stories

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน