“น้ำ” คือสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิต ในขณะที่ยังมีประชากรกว่า 2 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด และต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (United Nation หรือ UN) โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้น้อยจนถึงปานกลางทั้งยังมีผู้คนที่ต้องเสียชีวิตจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารจากการดื่มน้ำที่ขาดสุขอนามัย
สำหรับ การประปานครหลวง (กปน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำประปาสะอาดปลอดภัยบริการประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีกระบวนการผลิตน้ำประปาตามแผนน้ำประปาปลอดภัย (Water Safety Plan : WSP) ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อดูแลคุณภาพของน้ำตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
แม้ว่าต้นปีที่ผ่านมา กปน. จะมีความท้าทายในการบริหารจัดการน้ำจากปัญหาภัยแล้ง โดยปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักมีน้อย จึงไม่เพียงพอในการผลักดันน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาถึงสถานีสูบน้ำดิบสำแล จ.ปทุมธานี ส่งผลให้คุณภาพน้ำประปาในพื้นที่ กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีค่าคลอไรด์ในน้ำประปาเกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร ในบางวันและบางช่วงเวลา
อย่างไรก็ตาม กปน. ได้ร่วมมือกับกรมชลประทาน (ชป.) และกรุงเทพมหานคร เพื่อบริหารจัดการน้ำในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยปฏิบัติการที่ชื่อว่า Water Hammer of Chao Phraya River Flow Operation (กระแทกลิ่มความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา) ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการไป 7 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อ 19 – 22 มีนาคมที่ผ่านมาสามารถไล่ความเค็มลงไปไกลกว่าสำแลกว่า 16 กิโลเมตร เพื่อให้คุณภาพน้ำได้มาตรฐานตามโครงการแผนน้ำประปาปลอดภัย (Water Safety Plan) ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาทุกขั้นตอนโดยประชาชนยังสามารถติดตามคุณภาพน้ำประปาทุกวันได้ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน MWA onMoblie ในหัวข้อคุณภาพน้ำ เว็บไซต์ https://twqonline.mwa.co.th/ และช่องทางออนไลน์ของ การประปานครหลวง อาทิ Facebook / Instagram / Twitter และ Line Official Account ในชื่อ MWAthailand
ในส่วนของประชาชนเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำโดยการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้เท่าที่จำเป็น ปิดก๊อกทุกครั้งเมื่อไม่ใช้ ไม่เปิดน้ำทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ร่วมมือกันปิดน้ำแค่เพียงคนละ 1 นาที ก็จะสามารถประหยัดน้ำต้นทุนได้ถึง 9 ลิตร เพื่อทุกชีวิตจะได้มีน้ำประปาใช้อย่างทั่วถึงอย่างยั่งยืนตลอดไป
