การระบาดของโรคโควิด-19 ย้ำเตือนให้เราทุกคนเห็นความจำเป็นเร่งด่วนของการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เพราะมันเชื่อมโยงกับสุขภาพของมนุษย์อย่างที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ การที่ผมได้ร่วมเป็น 1 ในทูตให้กับโครงการรณรงค์ ‘ชีวิตดีต้องไร้ฆ่า ไม่พึ่งเขี้ยวงา’ เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผมอยากพูดเรื่องนี้ในมุมมองของผมเอง ว่าทุกๆ คนมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อม และป้องกันการระบาดของโรคติดต่อแบบนี้ในอนาคตได้ ด้วยการเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัว เช่น การไม่สนับสนุนการซื้อ ใช้ และกินผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ป่าทุกชนิด จะช่วยทำให้ทุกชีวิตทั้งสัตว์ป่าและมนุษย์สามารถดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ต่อไปอย่างยั่งยืนได้ครับ
ในอดีต ผมเคยเข้าใจผิดคิดว่าวัตถุมงคลที่ทำจากเขี้ยว หนังเสือ งาช้าง หรือแม้แต่เขี้ยวพะยูน และสัตว์ป่าอื่นๆ จะปกป้อง หางานหาเงิน ทำให้เรามีเมตตามหานิยม แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผมได้ยินมาจากปู่ย่าตายายที่สอนและบอกต่อกันมา ยิ่งสมัยที่เพิ่งเข้าวงการบันเทิง ได้ยินมาว่าสิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ ผมเคยเก็บไว้กับตัว ห้อยคอ หรือแขวนที่เอว แต่ในที่สุด ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ ผมเคยหมดตัวไปกับการเล่นพนันฟุตบอล ทั้งๆ ที่ก็มีของเหล่านี้ติดตัว นึกในใจทำไมของพวกนี้ไม่คุ้มครองเราเลย ผมกำทั้งเขี้ยว ทั้งงา ขอให้ได้เงินได้ทอง ขนาดงาช้างที่ผมเคยเชื่อว่า จะทำให้เราร่ำรวย สุดท้ายเจ้าหนี้ยกไปแล้วครับ
ตอนผมมาช่วยงานเก็บศพ ยิ่งทำให้ผมเห็น เปิดดูเอวแต่ละศพ มีทั้งเขี้ยวหมูตัน เขี้ยวเสือรอบตัวเต็มไปหมด คนใส่ก็ไม่รอดอยู่ดี ไหนว่าศักดิสิทธิ์ ทำไมไม่คุ้มครอง เราเห็นเลยว่า แม้มีเขี้ยวงาติดตัวก็ไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อก่อนผมยอมรับว่าไปหาซื้อสิ่งเหล่านี้มามากมาย แต่ตอนนี้ไม่เอาอีกแล้วครับ
การอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนของทุกชีวิตบนโลก จึงต้องเริ่มจากการไม่เบียดเบียนชีวิตใคร ในที่นี้ ผมหมายถึงการเลิกซื้อ ใช้ และกินผลิตภัณฑ์ที่มาจากซากสัตว์ป่าทุกชนิด โดยเฉพาะซากเสือโคร่ง และงาช้าง เพราะทุกปี มีช้างมากกว่า 20,000 ตัว ถูกฆ่าเพื่อเอางาในแอฟริกา เพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์งาช้างหลายประเทศในเอเชียรวมถึงไทย ขณะที่เสือโคร่งที่เหลืออยู่ในป่าทั่วโลกมีจำนวนน้อยกว่า 4,000 ตัว แต่พวกมันตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกล่าเพื่อเขี้ยว หนังและกระดูก ส่วนในไทยมีเสือโคร่งในป่าราว 150-200 ตัวเท่านั้น ผมยังทราบว่า นกชนหิน และนกเงือกหลายชนิดพันธุ์ก็กำลังถูกล่าในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยความเชื่อผิดๆ เหมือนกับที่ช้างและเสือโดนล่า รวมไปถึงสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิดในบ้านเราก็ยังมีข่าวว่าถูกล่าเพื่อนำชิ้นส่วนไปขายอยู่เรื่อยๆ เพราะความต้องการที่ไม่จำเป็นของมนุษย์ หากยังมีคนซื้อ คนกิน คนใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ป่า จึงเท่ากับว่าคุณมีส่วนทำให้สัตว์ป่าของชาติและของโลกตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกล่าเช่นกัน
ผมทราบดีว่า ความเชื่อของคนเราเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงยาก แต่ผมพูดได้เต็มปากจากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า ทุกวันนี้ผมไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว แต่เชื่อในผลของการกระทำ หากเราคิดดีทำดี ความดีจะคุ้มครองเราเอง
ทุกชีวิตต่างรักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น การเอาเขี้ยว งา หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์เพื่อมาทำวัตถุมงคล นั่นคือการฆ่าชีวิตของพวกเขา หยุด เลิก ความเชื่ออย่างผิดๆ เพื่อรักษาชีวิตสัตว์ป่าให้อยู่กับธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ชีวิตจะดีอยู่ที่การกระทำของเรา ทุกวันนี้สิ่งที่ผมกราบไหว้และยึดถือก็คือพ่อแม่ที่บ้าน และคำสอนของพระพุทธองค์ การทำดี การช่วยเหลือคนและชีวิตสัตว์ ผมว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ถ้าใครยังมีของพวกนี้ ผมขอชวนทุกคนนะครับ ไม่ต้องใส่ ไม่ต้องไปเสาะหา ตัวเราเองเท่านั้นที่จะทำให้ชีวิตมีค่า และเป็นมงคลล็กๆ น้อยๆ อย่างการไม่พึ่งพา ไม่ซื้อ ไม่ใช้ ไม่กินผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าทุกชนิดนะครับ
คลิกฟังทำไม บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ถึงเลิกพึ่งเขี้ยวงา
