ภายใต้คอนเซปต์ “การบริโภคอย่างมีจิตสำนึก” พร้อมเดินทางค้นหาความหมายของอาหารในอนาคต

22 – 26 กันยายนนี้ ณ​ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำโดย นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และ Kolenmesse เยอรมนี เชิญเยี่ยมชมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ตอกย้ำประเทศไทยคือศูนย์กลางของอาหารโลก สนับสนุนให้ผู้ประกอบการภายในประเทศสามารถยกระดับสินค้า และผลิตภัณฑ์ของตนเองให้ได้มาตรฐานสากล ระหว่างวันที่ 22-26 กันยายน 2563 ณ​ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์, อาคาร 1 – 3, ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

ภายในงานยังมีนิทรรศการที่จะพาท่านออกเดินทางค้นหาความลับของนวัตกรรมอาหารและเบื้องหลังวัตถุดิบอาหารไทยที่ให้มากกว่าคุณประโยชน์ต่อร่างกาย การมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อโลกในทุกมิติ ผ่าน 8 โซนนิทรรศการ ภายใต้ คอนเซปต์ Eat Responsibly “การบริโภคอย่างมีจิตสำนึก” นิทรรศการที่นำเสนอแนวคิดการบริโภคอาหารของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ถ่ายทอดแนวคิดมาตรฐานใหม่ new normal ของการบริโภค และยังเป็นการรวมผู้ประกอบการไทยกว่า 100 แบรนด์ ที่ผลิตสินค้าคุณภาพและได้มาตรฐานเพื่อการส่งออกมาร่วมจัดแสดงในแต่ละโซน ได้แก่

  1. โซน Future Food เปิดโลกนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต หนึ่งในเทรนด์อาหารที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีแบรนด์ผู้ประกอบการทั้งหมด 24 ราย ร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่าน 4 แนวคิด ได้แก่
  • Functional Food อาหารที่มีส่วนประกอบเสริมสุขภาพ หรือให้คุณค่าอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย พบเห็นได้ในอาหารทั่วไป เช่น นมถั่วเหลืองผสมงาดำ นมอัดเม็ดสูตรโพรไบโอติก
  • Medical Food อาหารที่ผลิตมาเพื่อผู้ป่วย หรือผู้ที่ไม่สามารถกินอาหารปกติได้ เช่น ซุปปั่น ผงพุดดิ้งโภชนาการ
  • Novel Food อาหารที่มีนวัตกรรมหรือขั้นตอนกระบวนการในการผลิตแบบใหม่ๆ เช่น กระบวนการเร่งหมักน้ำปลาโดยใช้เอนไซม์ โยเกิร์ตกรอบ ไข่ขาวผง
  • Organic Food อาหารอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัยจากสารเคมีตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ เช่น นมวัวออร์แกนิค ไข่ไก่ออร์แกนิค และพืชต่างๆ
  1. โซน Free From Food มาร่วมเรียนรู้ ลงลึกเกี่ยวกับ กลูเตนฟรี แลคโตสฟรี และชูการ์ฟรี ผ่านแนวคิดการบริโภคอาหารที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการแพ้สารบางอย่างในอาหาร นำเสนออาหารที่ปราศจากสารปรุงแต่งหรือปราศจากการเพิ่มสารอาหารต่างๆ เข้าไป เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงกลุ่มอาการแพ้ที่ส่งผลต่อคนยุคปัจจุบัน และเป็นประเด็นที่ผู้ผลิตอาหารต้องให้ความสำคัญ รวมถึงอาหารที่กระตุ้นอาการของโรคประจำตัว เช่น อาหารปราศจากกลูเตน หรือแลคโตส อาทิ นมแลคโตสฟรี และสารจากธรรมชาติที่ใช้ทดแทนนความหวานจากน้ำตาล เช่น หญ้าหวาน น้ำตาลช่อดอกมะพร้าว และหล่อฮั่งก้วย เป็นต้น
  2. โซน Food Ingredient ชวนคุณไปทำความเข้าใจเครื่องปรุงรสของไทยในมุมใหม่ให้เข้าใจตรงกันว่า น้ำปลา ซอสพริกศรีราชา และกะทิ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย ภายในโซนจะมีประวัติความเป็นมาของเครื่องปรุงรสที่เราคุ้นเคยจนเกือบจะลืมเลือนไปว่านี่คือเครื่องปรุงรสฝีมือคนไทยมาอย่างช้านาน สร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ที่แท้จริงของเครื่องปรุง ลบล้างความเชื่อแบบเดิมๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักเครื่องปรุงรสเหล่านี้มากยิ่งขึ้น
  3. โซน Asia’s Herbs to the World โลกรู้และยอมรับว่าสมุนไพรไทยถือเป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่กับคนไทย แต่โซนนี้จะพาทุกคนลงลึกถึง 3 สมุนไพรไฮไลท์ ขมิ้นชัน กระชายดำ ใบบัวบก นำเสนอผ่านคุณประโยชน์ที่หลากหลาย ทั้งในแง่การนำมาใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วย บำรุงร่างกาย เสริมความงาม หรือแม้กระทั่งนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการประกอบอาหาร ผสานภูมิปัญญากับนวัตกรรมแปรรูปให้ใช้งานง่าย เพื่อยกระดับคุณภาพของสมุนไพรไทย อาทิ ผงขมิ้นชัน, น้ำมันรำข้าวสกัดผสมสมุนไพร
  4. โซน New Protein Sources ด้วยแนวคิดการกินโปรตีนทดแทนกำลังถูกพูดถึงทั่วโลก พาคุณไปสำรวจแหล่งโปรตีนทนแทนใหม่ๆ ที่นานาชาติให้การยอมรับ อาทิ แมลง พืชตระกูลถั่ว และพืชชนิดอื่นๆ เช่น ขนุนอ่อนที่นำไปใช้แทนเนื้อสัตว์ หรืออะโวคาโดที่ให้โปรตีนสูง พร้อมข้อมูลที่น่าสนใจ เหตุใดเราจึงควรหันมาบริโภคโปรตีนทดแทนและสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดการทำลายทรัพยากรโลกได้อย่างไร พบผู้ผลิตและทดลองชิมโปรตีนทดแทน อาทิ แมลงอบกรอบ, ขนุนอ่อนกระป๋อง และ ข้าวหอมควินัว
  5. โซน Thailand Trust Mark เชิญชมสินค้าตราสัญลักษณ์ T Mark ภายใน ตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก ว่าสินค้าทุกชิ้นจะผ่าน อย. และต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า การใช้แรงงานที่เป็นธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ รวมไปถึงโรงงานผู้ผลิตอุตสาหกรรมอาหารเหล่านั้นต้องผ่านมาตรฐานโครงการอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) จาก กรมอุตสาหกรรม อาทิ ผลไม้ฟรีสดราย , น้ำจิ้มไก่
  6. โซน STYLE Bangkok Pop up Showcase ที่พร้อมพาไปชมอีกหนึ่งความสามารถของผู้ประกอบการไทย กับการออกแบบสินค้าเครื่องครัวไทย (Kitchenware) เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร (Tableware) และของใช้ในครัวเรือนอื่นๆ ที่มานำเสนอตัวอย่างสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารผ่านการจำลองโต๊ะอาหารและห้องครัวเสมือนจริง เปิดไอเดียให้กับผู้ประกอบการมองหาสินค้าดีไซน์เก๋ คุณภาพดี อาทิ กล่องพลาสติกใส่อาหาร, ภาชนะจากฟางข้าว และเตรียมพบกับงานเต็มรูปแบบในเดือนมีนาคม 2564 เยี่ยมชมสินค้าและข้อมูลผู้ประกอบการไทยเพิ่มเติมได้ที่ www.stayinstylebangkok.com
  7. โซน Halal to The World พบกับสินค้าที่ได้รับเครื่องหมายฮาลาล ตอกย้ำความเข้าใจว่าสินค้าฮาลาลเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ คำนึงถึงความสะอาด และคุณค่าตามหลักโภชนาการเป็นสำคัญ มีการควบคุมการปนเปื้อนของสิ่งสกปรกตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือก การเตรียมวัตถุดิบ การผลิต การบรรจุ การเก็บรักษา การกระจายสินค้า จนถึงขั้นตอนการวางจำหน่าย ตามนโยบายที่จะให้อาหารฮาลาลในประเทศไทยสู่ครัวโลก

นอกจากจะได้ความรู้จากโซน Eat Responsibly “การบริโภคอย่างมีจิตสำนึก” ในวันเปิดงานยังมีกิจกรรมพิเศษ จาก เชฟนิค – ณัฏฐพล ภวไพบูรณ์ จาก ‘วังหิ่งห้อย’ เปิดเวทีครีเอทเมนู “ขนมครก” ยกระดับขนมไทยที่คุ้นเคยโดยหยิบเอาวัตถุดิบและจุดเด่นของ 8 โซนภายในงาน ให้กลายเป็นเมนูคาว-หวาน ยกระดับอาหารไทยสู่เวทีโลก รวมถึงการนำ ผลิตภัณฑ์ของ กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ มาตกแต่งใหม่ให้กลายเป็นขนมหวานสุดอินเตอร์ โดยไม่ลืมหยอดความเป็นไทยลงไปอย่างมีสไตล์

 

กิจกรรมสนุกๆ ในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับถุงผ้าเมื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงาน พร้อมพาสปอร์ตตามเก็บ STAMP จากโซนต่างๆ รวมลุ้นรับสินค้าตัวอย่างเพื่อสัมผัสประสบการณ์ผ่านการชิมอาหารโดยผู้ผลิตกว่า 50 ราย แต่ต้องรีบหน่อยเพราะถุงผ้า พาสปอร์ต และสินค้าตัวอย่างมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน

THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” มีวันเจรจาธุรกิจในวันที่ 22-26 กันยายน 2563 และวันจำหน่ายปลีก 25 – 26 กันยายน 2563 ณ​ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.thaifex-anuga.com

Facebook: Thaifexanugaasia

Instagram: @Thaifexanugaasia

Youtube: THAIFEX – Anuga Asia

Linkedin: THAIFEX – Anuga Asia


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน