กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศอย่างคึกคัก กับงานใหญ่ “จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ที่เปิดเวทีสัมมนา นิทรรศการ และห้องเจรจาธุรกิจ ระดมผู้ซื้อจับคู่ธุรกิจผู้ขาย พร้อมเปิด 7 แพ็กเกจสุดพิเศษ กระตุ้นการจัดประชุมสัมมนา และงานแสดงสินค้า รวมถึงงานเมกะอีเวนต์และเฟสติวัล ปลุกกระแสร่วมจัดงานทั่วไทยก้าวสู่ยุควิถีใหม่ (New Normal)
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เผยว่า “ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในทุกภาคส่วน ทีเส็บจึงสานต่อนโยบายของรัฐบาลในการเร่งส่งเสริมให้เกิดการจัดงานประชุมและนิทรรศการในประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน สร้างการจ้างงาน พร้อมกระจายรายได้สู่ชุมชน ผ่านการจัดงานครั้งนี้”
โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลกับการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการของประเทศไทย” ที่ได้กล่าวย้ำให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลังร่วมกันวางอนาคตประเทศไทย ผลักดันให้ไมซ์มีบทบาทสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมมอบตราสัญลักษณ์เมืองไมซ์ซิตี้ให้กับ 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และอีก 2 เมืองไมซ์ซิตี้ใหม่ ได้แก่ นครราชสีมา และสงขลา อย่างเป็นทางการ รวมถึงมีพิธีมอบเกียรติบัตรแสดงความขอบคุณ เพื่อเป็นเกียรติแก่ 5 หน่วยงานที่ประกาศเจตนารมณ์ร่วมจัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ ภายในเดือนธันวาคม 2563 โดยใช้แพ็กเกจ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” และยังมีกิจกรรม MICE Talk เสวนา 8 หัวข้อจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดงานไมซ์ถึง 24 ท่าน อาทิ การบรรยาย หัวข้อ “ไมซ์ไทยรวมใจเป็นหนึ่ง” โดยนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ทีเส็บ ที่เน้นถึงบทบาทของทีเส็บในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน และเสวนาในหัวข้อ “จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ดำเนินรายการโดย นายบัญชา ชุมชัยเวทย์ โดยมีผู้ร่วมเสวนา คือ นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ ทีเส็บ ดร.บวรนันท์ ทองกัลยา นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย และนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ นายกสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดงานมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย
ในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน ทางทีเส็บเลือกบริการอาหารกลางวันโดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่นำอาหารขึ้นชื่อของครัวการบินไทยมาบริการให้ผู้เข้าร่วมงานถึงที่นั่ง พร้อมรับฟังการบรรยายพิเศษจาก นายภัทรพล ศิลปาจารย์ (พอล) ในหัวข้อ “ประสบการณ์การจัดงานประชุมสัมมนาและอินเซนทีฟขององค์กร และแนวทางการปรับตัวในการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน”
อีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน คือ กิจกรรมไมซ์มาร์ท (MICE Mart) เวทีเจรจาซื้อขายธุรกิจการจัดงานไมซ์ โดยมีตัวแทนผู้ขายเข้าร่วม 132 ราย จากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม บริษัทจัดนำเที่ยว กลุ่มขนส่ง สายการบิน บริษัทจัดงานจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมีผู้ซื้อเข้าร่วม 305 ราย ทั้งกลุ่มบริษัท ห้างร้าน หน่วยราชการ ซึ่งพร้อมใจกันแสดงพลังความร่วมมือร่วมใจ เตรียมจัดงานทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Pavilion) และยังมีกิจกรรมเสวนาและบรรยายพิเศษ บริเวณเวทีกิจกรรม อาทิ “ประวัติศาสตร์กับการจัดงานของประเทศไทย” โดย ศาสตราจารย์ ดร. สุเนตร ชุตินธรานนท์ และ “รีเซ็ตความคิดสู่คุณภาพชีวิตการเดินทางที่ดีกว่า” โดย นายจอห์น รัตนเวโรจน์
ในงานนี้ ทีเส็บยังได้ประกาศเปิดตัว 7 แพ็กเกจสุดพิเศษ สนับสนุนการจัดงานสำหรับตลาดในและต่างประเทศ ประกอบด้วย “ตลาดไมซ์ในประเทศ” จัดทำ 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 1. “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” แพ็กเกจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ (Meetings & Incentives) 2. “ประชุมเมืองไทย ร่วมใจขับเคลื่อนชาติ” แพ็กเกจการจัดประชุมภายในประเทศ (Conventions) 3. “งานแสดงสินค้าในประเทศ นำเศรษฐกิจไทยไปไกลกว่า” แพ็กเกจสำหรับการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ (Exhibitions)
“ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” สนับสนุนแพ็กเกจ 4 กลุ่มตลาด ประกอบด้วย 1. “Ease Up” แพ็กเกจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลนานาชาติ (Meetings & Incentives) 2. “Convene Plus” แพ็กเกจการจัดประชุมนานาชาติ (Conventions) 3. “Re-Energizing” แพ็กเกจการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) 4. “Thailand Power Up” แพ็กเกจสนับสนุนการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ (Mega Events & World Festivals)
“การจัดงานครั้งนี้ได้รับผลตอบรับในวงกว้าง มียอดผู้เข้าร่วมงานและผู้ชมงานผ่านสื่อออนไลน์กว่า 6,000 คน เป็นการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนครั้งสำคัญในประเทศไทย เพื่อเดินหน้าฟื้นฟูและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ในยุควิถีใหม่ รวมถึงช่วยกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาค สร้างงาน สร้างโอกาส ได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” นายจิรุตถ์ กล่าวทิ้งท้าย
