นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประชุมหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ในพื้นที่ภาคกลาง 21 จังหวัด มอบนโยบายการดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co – payment) พร้อมเชิญนายจ้าง/สถานประกอบการพื้นที่

ภาคกลาง 235 บริษัท ร่วมประชุมรับฟังปัญหา/ข้อเสนอแนะ

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co – payment) แก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ในพื้นที่ภาคกลาง 21 จังหวัด โดยมี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และการกำกับดูแลของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพแรงงานและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยได้รับผลกระทบจากโควิด -19 กระทรวงแรงงานจึงมุ่งมั่นส่งเสริม และขยายโอกาสมีงานทำของผู้ที่จบการศึกษาใหม่ ประชาชนทั่วไป และผู้ว่างงาน เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว

นายสุชาติฯ กล่าวต่อไปว่า การรับทราบสภาพปัญหาข้อเท็จจริงจากการปฏิบัติงานในพื้นที่ และรับฟังข้อเสนอแนะจากมุมมองนายจ้าง/สถานประกอบการ ในการดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co – payment) เป็นเรื่องที่กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการส่งเสริมให้ผู้จบการศึกษาใหม่กับนายจ้าง/สถานประกอบการบรรลุข้อตกลงร่วมกัน และนำไปสู่การจ้างงานตามโครงการฯโดยเร็วที่สุดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จำนวน 260,000 อัตรา จึงได้เชิญนายจ้าง/สถานประกอบการที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 235 บริษัท เข้าร่วมประชุม พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานภาคกลาง ทั้ง 5 หน่วย ประกอบด้วยสำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สถาบันหรือสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด รวม 21 จังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง เพื่อมอบนโยบายการดำเนินโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co – payment) ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน (Co – payment) นั้น คาดหวังให้ผู้จบการศึกษาใหม่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานใหม่ มีงานทำ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีทักษะและประสบการณ์ในการทำงาน และสามารถดำรงชีวิตในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งช่วยสนับสนุนและส่งเสริมภาคเศรษฐกิจ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการให้สามารถเปิดดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ลดต้นทุนการดำเนินกิจการ และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้ประเทศ

โครงการนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและซื้อประสบการณ์ให้แก่เด็กจบใหม่ ซึ่งในปีนี้มีเด็กจบใหม่ 5.7 แสนคน โดยตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม 2563 มีเด็กจบใหม่เข้าทำงาน 1.8 แสนคน กระทรวงแรงงาน มีเป้าหมายตำแหน่งงานว่างตามโครงการจ้างเด็กจบใหม่ (Co -Payment) จำนวน 2.6 แสนคน ขณะนี้ได้รับการบรรจุงาน

ไปแล้ว 4,000 กว่าคน สาเหตุที่ตัวเลขการบรรจุงานยังน้อย เนื่องจากพบว่า สถานประกอบการที่มีศักยภาพไม่เข้าร่วมโครงการ เพราะต้องการคัดเด็กเก่งๆ เข้าทำงานในระยะยาว ประกอบการโครงการดังกล่าวยังมีเงื่อนไขต่างๆ

เช่น เด็กจบใหม่ต้องไม่เคยเข้าเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาก่อน และการประชาสัมพันธ์โครงการยังไม่ทั่วถึง รวมทั้งปัญหาการจ่ายเงินเดือนอีกด้วย นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ผู้ที่กำลังมองหางานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com หรือติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน