“พัชรี” ปลัดกระทรวง พม. พร้อมรอง ผอ. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ยืนยัน “จุติ” ไม่เคยล้วงลูก หรือแทรกแซงการทำงาน ย้ำตลอด 2 ปี มุ่งช่วยเหลือคน ไม่ทอดทิ้ง

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานแถลงผลงาน 2 ปี ของกระทรวง พม. ภายใต้การนำของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัด พม. ในฐานะโฆษกกระทรวง พม. และนางสาวพรรณทิพย์ เพชรมาก รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมแถลงข่าว

นางพัชรี กล่าวว่า จากกรณี เครือข่ายองค์กรชุมชนและองค์กรภาคประชาสังคมทั่วประเทศได้มีแถลงการณ์ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของกระทรวง พม. จึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน เนื่องจากมีหลายข้อที่ไม่เป็นความจริงและเป็นข้อมูลบิดเบือนความเป็นจริง อาทิ

  1. กระทรวง พม. มีทัศนคติเชิงลบต่อองค์กรภาคประชาสังคม องค์กรชุมชน และงานด้านสวัสดิการชุมชน จากท่าทีการเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรไม่แสวงรายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน อันเป็นกฎหมายที่มีเจตนาควบคุม ปิดกั้นและจำกัดสิทธิเสรีภาพการรวมกลุ่มขององค์กรภาคสังคม นั้น ข้อเท็จจริงคือพระราชบัญญัติดังกล่าว มีการเสนอโดย 2 กระทรวง ไม่ใช่กระทรวง พม. เพียงกระทรวงเดียว ซึ่งการแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวของกระทรวง พม. ไม่ได้ปิดกั้นประชาชน
  2. กระทรวง พม.ไม่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกลุ่มเปราะบางทางสังคม สะท้อนจากการลดงบประมาณส่วนนี้ลง ขอชี้แจงว่า กระทรวง พม. ได้เสนอของบประมาณประจำปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้องเสนอขอความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบกรรมาธิการและวุฒิสภา โดยมีการปรับลดงบประมาณลงในส่วนของงบการฝึกอบรม งบลงทุน การก่อสร้าง งบประมาณจ้างเหมาบริการ ซึ่งงบประมาณเหล่านี้ ไม่ได้กระทบถึงภาคประชาชน ในขณะที่งบประมาณที่ถึงภาคประชาชนไม่ได้ถูกปรับลดแต่อย่างใด

    “เราได้รับงบเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เงินปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุ และเงินค่าจัดการศพผู้สูงอายุ” นางพัชรี กล่าว
  1. มีการแทรกแซงหรือส่อเจตนาที่จะเข้าไปมีบทบาทในการกำหนดการแต่งตั้งผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจและองค์กรมหาชนในกำกับของกระทรวง พม. ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร และการดำเนินงานของของขบวนองค์กรชุมชนทั้งประเทศ เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ขอชี้แจงว่า พอช. และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. โดย รมว.พม. ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานแต่อย่างใด อาทิ บอร์ด พอช. ยังคงเป็นชุดเดิม

นางสาวพรรณทิพย์ ได้ชี้แจงในประเด็นนี้เพิ่มเติม โดยยืนยันว่างบประมาณ พอช. ในการแก้ไขปัญหาชุมชนได้ลงสู่ชุมชนโดยตรง ทั้งโครงการบ้านมั่นคง บ้านพอเพียงชนบท สวัสดิการชุมชน ตลอดจนสนับสนุนชุมชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่ง รมว.จุติ ไม่เคยเข้าแทรกแซงไม่ว่าเรื่องบุคลากรและงบประมาณ นอกจากนี้ ในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้าย ยังเป็นหน้าที่ของบอร์ด พอช. โดยเร็วๆ นี้ จะมีการสรรหา ผู้อำนวยการ พอช.คนใหม่ ซึ่ง รมว.จุติ ได้กำชับให้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย

นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับการช่วยเหลือประชาชน ในแถลงการณ์ข้อหนึ่งระบุว่า ช่วงโควิด-19 กระทรวง พม.และ รมว.จุติ ไม่ได้ดูแลประชาชน หรือไม่เคยลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ในความเป็นจริงรมว.จุติ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เสมอว่า ประชาชนคือคนในครอบครัวต้องเข้าช่วยเหลือในเวลาที่รวดเร็ว ให้ช่วยเหลือเสมือนญาติพี่น้อง ภายใน 3 ชั่วโมง โดยกระทรวง พม. เป็นหนึ่งในกระทรวงที่ผู้บริหารได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการเรา มีเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน พม.จะตามไปช่วย ฯลฯ

“กระทรวง พม. มีผลงานมากมายเด่นชัดในรอบ 2 ปีที่ผ่าน โดยการนำของนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เราดูแลประชาชนในทุกมิติ ตลอดช่วงระยะเวลา ซึ่ง รมว.จุติ ให้ความสำคัญกับภาคประชาชน และกระทรวง พม.ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ หากอะไรที่กระทรวง พม.ทำไปแล้วไม่ตอบสนองความต้องการประชาชน ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่ เราพร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือเท่าเทียมกันโดยเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้นขอความร่วมมือภาคประชาชน หากไม่เข้าใจการทำงานอะไร เรายินดีจะรับฟัง และพร้อมปรับเปลี่ยน เพื่อเดินไปด้วยกัน” นางพัชรี กล่าวทิ้งท้าย


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน