ผมจะรับผิดชอบเอง

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ผมจะรับผิดชอบเอง – นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศกลางที่ประชุมครม.ว่า “ผมจะรับผิดชอบเอง”

กรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ยื่นฟ้องรัฐบาลไทย

ข้อหาละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) หลังหัวหน้าคสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ของ คสช. ในคำสั่งฉบับที่ 72/2559 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 ระงับการอนุญาตให้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ใน จ.พิจิตร

ล่าสุดเรื่องได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการแล้ว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้รายงานความคืบหน้าและข้อสรุปทางออกเรื่องดังกล่าว 4 ข้อ คือ

จ่ายเงินให้กับบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) แล้วให้เลิกกิจการไป

ทำตามข้อเสนอของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะช่วยให้อาจไม่ต้องจ่ายเงิน

รอผลการตัดสินของอนุญาโตตุลาการ แล้วปฏิบัติตาม

และหาช่องจ่ายเงินค่าปรับบางส่วน โดยให้ชดเชยค่าเสียหาย แล้วให้เหมืองทองอัคราดำเนินกิจการต่อ

อย่างไรก็ตามที่ประชุมเห็นว่าเมื่อรัฐบาลสั่งปิดกิจการเหมืองไปแล้ว ไม่เห็นควรให้ดำเนินกิจการต่อไป และควรหาแนวทางอื่นแก้ปัญหา

ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขอเวลาคิดก่อนว่าจะใช้แนวทางใด เวลานี้ยังไม่ขอตัดสินใจ พร้อมระบุว่า “ผมรับผิดชอบเอง” โดยยอมรับว่าเป็นผู้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น

สำหรับการประเมินตัวเลขความเสียโอกาสของเหมืองบริษัท อัคราฯ นั้น วัดจากปริมาณสำรองแร่ทองคำ 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท หากสามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า จะรวมมูลค่าถึง 41,004 ล้านบาท

ข้อมูลเหล่านี้ทางคิงส์เกตได้ยื่นต่ออนุญาโตตุลาการให้พิจารณาแล้ว

จริงอยู่ตอนนี้คดียังไม่ถึงที่สุด รัฐบาลอาจหาทางเจรจาทุเลาความเสียหายให้ผู้ฟ้องได้

แต่ถ้าถึงขั้นต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนมหาศาลจริงๆ

คงไม่มีใครลืมคำพูดที่ว่า ผมจะรับผิดชอบเอง

เภรี กุลาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน