เผาป่าล่าหนู-ระวังไฟลาม!

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

เผาป่าล่าหนู-ระวังไฟลาม!เป็นมรสุมที่กระหน่ำซ้ำเติม พรรคอนาคตใหม่ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างต่อเนื่องและรุนแรง

ซึ่งเรื่องทั้งหมดคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองและลงสมัครรับเลือกตั้ง

เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงเล่นการเมือง แม้จะชนะใจประชาชนกว่า 6 ล้านคนที่ทุ่มคะแนนเสียงให้พรรคอนาคตใหม่

เส้นทางของ ‘ธนาธร’ และ ‘พรรคอนาคตใหม่’ก็ไม่ได้สดใสกาววาวในสายตาของผู้มีอำนาจ หรือที่เห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นภัยคุกคาม

ตั้งแต่คดีความที่มากมายร่วม 20 คดี จนกระทั่งแม้ ‘ธนาธร’ ได้เป็นส.ส. ก็ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนไม่มีโอกาสเข้าไปทำงานสภาในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย

หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน สถานะส.ส.ก็สิ้นสุดลง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่าขาดคุณสมบัติสมัครส.ส. โดยตีความว่าถือหุ้นสื่อมวลชนในวันลงรับสมัครเลือกตั้ง

โดยมีเหตุผลหลักคือไม่เชื่อ

น่าเสียดายที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้อธิบายพฤติกรรมให้เห็นได้ว่าการถือหุ้นบริษัทที่ปิดกิจการไปแล้ว 2 ปี ไม่มีเอกสารสิ่งพิมพ์ใดๆ มาแล้วร่วม 2 ปี จะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ครอบงำสื่อได้อย่างไร และที่ผ่านมามีเหตุการณ์ใดที่สื่อเหล่านี้มีบทบาทต่อคะแนนนิยมของ ‘ธนาธร’ หรือ ‘พรรคอนาคตใหม่’

จึงกล่าวได้ว่า อารมณ์ความรู้สึกของคนจำนวนมาก หลังการหลุดจากเก้าอี้ส.ส.ของธนาธร แทบไม่รู้สึกเลยว่า ธนาธรมีพฤติการณ์ทุจริต หรือทำผิดคิดร้ายใดๆ

และแน่นอนยังต้องมีเรื่องของการพิจารณายุบพรรคตามมาติดๆ

เรื่องทางกฎหมายก็ส่วนหนึ่ง แต่ในทางการเมืองนั้นวิจารณ์กันมาก

กลายเป็นคำถามว่าเหตุใดคนที่เข้าสู่การเมืองตามกติกา ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นธรรม ถึงกลายเป็นหนามตำใจ จนถึงขั้นต้องระดมสรรพกำลังกวาดล้างกันอย่างยกใหญ่

โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายที่จะตามมา กลายเป็นปรากฏการณ์‘เผาป่าล่าหนู’

จึงต้องระวังอย่างยิ่งว่าหากการเมืองในระบบไม่สามารถพึ่งพาได้ ความขัดแย้งจะต้องยกโขยงลงไปบนพื้นถนนอีก

แล้วคราวนี้จะอยู่ในสภาพที่ควบคุมอะไรไม่ได้ คนที่จุดเพลิงอาจจะถูกไฟลาม จนถึงขั้นคลอกตายกันยกคณะ

อะไรก็เกิดขึ้นได้!??

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน