ทิ้งหมัดเข้ามุม : ทรยศประชาชน
ทรยศประชาชน : เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่าง กว้างขวาง
สำหรับกรณีที่สภาผู้แทนฯ มีมติ 244 ต่อ 5 ไม่เห็นด้วยกับญัตติการตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาศึกษาผลกระทบที่เกิดจากคำสั่งของ คสช.
ซึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากก็เพราะเรื่องนี้มันมีที่มาที่ไป
เพราะก่อนหน้านี้ในการอภิปรายและลงมติในญัตตินี้ครั้งแรก ฝ่ายค้านเอาชนะไปด้วยคะแนนเสียง 236 ต่อ 231
เท่ากับว่าที่ประชุมมีมติให้ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบคำสั่งของ คสช.
แต่แล้วก็ถูกฝ่ายรัฐบาลตีรวนให้นับคะแนนใหม่
สุดท้ายกลายเป็นการวินิจฉัยให้ลงคะแนนใหม่ แบบมึนๆ งงๆ
จนฝ่ายค้านต้องใช้อาวุธสุดท้ายเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้พวกมากลากไปด้วยการวอล์กเอาต์
เป็นเหตุให้สภาล่มซ้ำซากถึง 2 หน ใน 2 วัน
ในที่สุดรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องจัดงานเลี้ยงกระชับสัมพันธ์ ซึ่งไม่รู้ว่าภายในงานเลี้ยงดังกล่าวมีการโชว์ฝีมือกระตุ้นเศรษฐกิจกันอย่างไร
ในการประชุมสภา ถึงมีเสียงฝ่ายค้านงอกมาเป็นองค์ประชุมให้รัฐบาลอีก 10 เสียง
ส่วนจะเรียกว่างูเห่า หรือสารพัดสารเพอะไร จะอธิบายเหตุผลนั่นนี่ ก็สุดแล้วแต่
เพราะประชาชนก็มีหัวคิด รู้อยู่ว่าอะไรคือคำอธิบาย อะไรคือข้ออ้าง
แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่มีเพียง ส.ส.ฝ่ายค้าน 10 คนที่ควรจะถูกตั้งคำถาม
เพราะบรรดา ส.ส.ทั้ง 244 คนที่ร่วมโหวตให้ไม่ตั้ง กมธ. แม้จะเป็น ส.ส.จากฝั่งรัฐบาล ได้ดิบได้ดีมาจากพื้นฐานของ คสช.
ก็ควรจะถูกตั้งคำถามเช่นกัน ว่าทำไมเมื่อมีที่มาจากประชาชน เหตุใดจึงต้องอุทิศตัวปกป้องกฎหมายที่มาจากการใช้อำนาจเผด็จการ รวมทั้งที่ผ่านมาไม่ทราบเลยเหรอว่าคำสั่งตาม ม.44 หรือการใช้อำนาจของ คสช. ล้วนเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างรุนแรงที่สุด
ก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศในระยะยาวอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้
การเฉยเมยกับเรื่องเหล่านี้ แล้วอ้างเรื่องประชาธิปไตยที่กินได้ ทั้งที่คนอิ่มหมีพีมันเป็นคนกลุ่มไหนก็เห็นๆ กัน ขณะที่คนส่วนใหญ่ในประเทศกำลังจะอดตาย โดยที่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติมองไม่เห็นหัว
สิ่งเหล่านี้ไม่เรียกว่า ‘ทรยศประชาชน’ ก็ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเทียบเคียงจริงๆ
รุก กลางกระดาน
