คสช.ไม่ได้ทำผิด อย่ากลัวถูกซักฟอก
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
คสช.ไม่ได้ทำผิด อย่ากลัวถูกซักฟอก – เป็นเกมการเมืองน่าจับตา กรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลรวม 6 คน
พุ่งเป้าจัดหนักไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รมว.กลาโหม และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐงัดหมากการเมืองขึ้นสู้
ทั้งการบีบให้วันอภิปรายอยู่ใกล้วันปิดสมัยประชุมสภามากที่สุด ป้องกันฝ่ายค้านฉวยโอกาสลากยาว
มีการตั้งทีมองครักษ์ไว้รับมือตอบโต้
ยื่นหนังสือร้องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาว่าญัตติฝ่ายค้าน กล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ด้วยถ้อยคำรุนแรงและเป็นเท็จ จึงอยากให้สั่งฝ่ายค้านนำญัตติกลับไปทบทวนแล้วเขียนมาใหม่
ก็ต้องรอดู ประธานสภาจะตัดสินชี้ขาดอย่างไร
รวมถึงประเด็นถกเถียงกันมาก ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายย้อนหลังไปในยุครัฐบาล คสช.ได้หรือไม่
รัฐบาลอยู่ในฝ่ายที่บอกว่าไม่ได้ การอภิปรายต้องจำกัดอยู่แค่ 6 เดือนของรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” เท่านั้น ขู่ว่าถ้าฝ่ายค้านล้ำเส้นจะต้องโดนประท้วงแหลก
ขณะที่ฝ่ายค้านและอีกหลายคนเห็นแย้งด้วยเหตุผลหลายข้อ
ข้อแรก คือ รัฐบาลคสช.กับรัฐบาลประยุทธ์2 มีนายกฯ คนเดียวกัน
ข้อต่อมา ผู้มีชื่อถูกอภิปราย 4 คน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายวิษณุ เครืองาม รอง นายกฯ ฝ่ายกฎหมาย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ล้วนนั่งตำแหน่งเดียวกันนี้ต่อเนื่อง 5 ปีในรัฐบาล คสช.
ยกเว้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่จะถูกอภิปรายเรื่องคดีความในอดีต
ตลอด 5 ปีรัฐบาล คสช. นอกจากไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้แต่ครั้งเดียวเพราะไม่มีพรรคฝ่ายค้าน
ช่วงเปลี่ยนผ่านหลังเลือกตั้งก่อนมีรัฐบาลประยุทธ์ 2 รัฐบาล คสช.ก็ยังมีอำนาจเต็ม ไม่ได้เป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้น ระหว่างรัฐบาล คสช.กับประยุทธ์ 2 จึงถือเป็นการสานงานแบบไร้รอยต่อ
และข้อสุดท้ายที่รัฐบาล คสช.สมควรถูกฝ่ายค้านเช็กบิลย้อนหลังได้ น่าจะอยู่ตรงประโยคที่ว่า
“ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะกลัวทำไม”
มันฯ มือเสือ