การเมือง-โควิด19 คนละเรื่องเดียวกัน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

การเมือง-โควิด19 คนละเรื่องเดียวกัน – ประเทศไทยมาถึงจุดที่ส.ส.งูเห่าหาซื้อง่ายกว่าหน้ากากอนามัย

การเมืองกับโควิด-19 ถูกรวมเข้าด้วยกัน อย่างที่เห็นป้ายข้อความประท้วงของนิสิต-นักศึกษา ประมาณว่าไวรัสก็กลัว เผด็จการก็ต้องไล่

ยุบพรรคอนาคตใหม่ต่อด้วยศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

กลายเป็นพรรคภูมิใจไทยของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ได้ประโยชน์สูงสุด

ไม่มีรัฐมนตรีพรรคถูกอภิปราย แถมได้ส.ส.อดีตอนาคตใหม่เข้ามาเสริมทัพ 9 คนอย่างน้อย

ขยับขึ้นพรรคอันดับ 2 ฝั่งรัฐบาล ทิ้งห่างประชาธิปัตย์ ความหวังได้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มจึงสมเหตุสมผล โดยเฉพาะหากเทียบกับรวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง ชาติพัฒนา 3 เสียง ยิ่งน่าคิด

แต่แล้วโควิด-19 ก็ทำสะดุด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สบจังหวะตัดบทเรื่องปรับ ครม.ขอพักไว้ชั่วคราว รัฐบาลขอแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาดก่อน เนื่องจากสถานการณ์อันตรายสุ่มเสี่ยงมากขึ้นหลังจากมีชายไทยในประเทศเสียชีวิตเป็นรายแรก

ที่แทรกซ้อนเข้ามา นอกจากเรื่อง “ผีน้อย” กว่า 5 พันคน ที่เตรียมอพยพกลับจากเกาหลีใต้

นายอนุทินบอกต้องถูกกักตัว 14 วันเหมือนคนไทยกลับจากอู่ฮั่น แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดจะเอาไปกักที่ไหน อย่างไรเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

ยังมีปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนตอนนี้ไม่ใช่ประชาชนหาซื้อไม่ได้ ทั้งร้านขายยา รพ.รัฐ-เอกชนก็หาซื้อไม่ได้เช่นกัน

ผลคือนอกจากไม่มีแจกให้คนไข้แล้วยังไม่มีแจกให้หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่ต้องคลุกคลีกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอีกต่างหาก

ส่งคนไปติดต่อซื้อหน้าโรงงานก็ถูกกรมการค้าภายในตัดหน้า ขอซื้อต่อจากกรมการค้าภายในก็บอกปัดให้ไปรอคิว

สองพรรครัฐบาล ภูมิใจไทย-ประชา ธิปัตย์ เคยฟัดกันเรื่องแบน 3 สารพิษ

งานนี้ต้องกลับมาฟัดกันต่อเรื่องหน้ากากอนามัย เป็นทั้งโจทย์การบ้านและโจทย์การเมืองข้อใหญ่พิสูจน์ฝีมือ “อนุทิน”

จะไปได้ไกลกว่าตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ในจังหวะการเมืองกับโควิด-19 ผสมผสานเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน