เมื่อส.ส.ประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งเสนอให้พรรคถอนตัวจากรัฐบาล เลิกพายเรือให้โจรนั่ง

หลังมีข่าวคนในคณะทำงานของรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐเข้าไปเกี่ยวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัย

ส.ส.ที่เสนอให้พรรคถอนตัว ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยแถลง “ไม่ไว้วางใจ” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นอกสภาต่อเนื่องจากศึกซักฟอก อาทิ นายเทพไท เสนพงศ์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ เป็นต้น

เพราะเห็นว่าร.อ.ธรรมนัส ตอบข้อ กล่าวหาฝ่ายค้านได้ไม่เคลียร์ ทั้งเรื่องคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย และกรณีวุฒิการศึกษาปริญญาเอก ก่อนออกมาเขย่าซ้ำเรื่องหน้ากากอนามัย

เหตุที่ส.ส.กลุ่มนี้เสนอให้พรรคถอนตัว เพราะเห็นว่ารัฐบาลกำลังกระทำผิดเงื่อนไขในการเชื้อเชิญประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือ การส่อทุจริตคอร์รัปชั่นในการบริหารราชการแผ่นดิน

ขณะที่พรรคคู่ปรับเก่าอย่างเพื่อไทย เห็นด้วยและสนับสนุน มองว่าหากประชาธิปัตย์ไม่อยากสูญพันธุ์ในการเลือกตั้ง ครั้งหน้า ก็ควรรีบถอนตัวออกจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เสียตั้งแต่ตอนนี้

“ก็ถอนไปสิ”

คือปฏิกิริยาตอบสนองแรกของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ดูเหมือนไม่ยี่หระกับคำขู่ของประชาธิปัตย์เท่าไหร่ อาจเป็นเพราะรู้ดีว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไร แกนนำประชาธิปัตย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีอยู่ตอนนี้

ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่

เหมือนตอนก่อนเลือกตั้งสมัยที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศหากใครหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ให้ไปอยู่พรรคอื่น

พล.อ.ประยุทธ์สวนกลับทันทีว่าให้คอยดูวันหน้า เลือกตั้งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น จะเปลี่ยนท่าทีอะไรอย่างไร

สุดท้ายเป็นนายอภิสิทธิ์กระเด็นตกจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคเสียเอง

ใครจะว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนหนึ่งที่รู้เท่าทันพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด

ดังนั้น ใครคาดหวังว่าประชาธิปัตย์จะถอนตัวจากรัฐบาลเพื่อไถ่บาป

แนะนำให้ทำใจรับความผิดหวังเสียตั้งแต่เนิ่นๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• บิ๊กตู่ ไล่ ประชาธิปัตย์ ถอนไปสิ! ป้อง ธรรมนัส เผยตรวจทุกโรงงาน ไม่พบสิ่งผิดปกติ