โควิดกับโฆษก

โควิดกับโฆษก

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…รุก กลางกระดาน

โควิดกับโฆษก – ยังคงต้องลุ้นกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19

เพราะแม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะพบผู้ติดเชื้อลดลง แต่ก็ยังไม่มีอะไรการันตีว่าประชาชนจะกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติเมื่อใด

และเมื่อถึงวันนั้นจะถูกพิษเศรษฐกิจทำร้ายจนอยู่รอดปลอดภัยได้หรือไม่

เป็นคำถามที่หลายๆ ฝ่ายหวั่นใจ

สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่สำคัญมากพอๆ กับมาตรการด้านสาธารณสุข ก็คือการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนในวงกว้าง

ต้องบูรณาการข้อมูลให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ จนกลายเป็นการสร้างความไม่น่าเชื่อถือที่เกิดจากภาครัฐเอง

ยกตัวอย่างเรื่องเงินเยียวยา 5 พันบาท ที่ระบุจะช่วยเหลือเป็นเวลา 3 เดือน แต่อยู่ๆ รมว.คลังก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงมติครม.ว่าจะขยายเวลาออกเป็น 6 เดือน

แม้จะไม่ใช่เงินที่มากนัก แต่ก็พอช่วยเหลือให้ชีวิตเดินต่อได้บ้าง

แต่เพียงแค่ชั่วข้ามคืน กระทรวงการคลังเองก็ปฏิเสธว่าไม่มีแนวทางดังกล่าว ยังยืนยันความช่วยเหลืออยู่เพียงแค่ 3 เดือน

ก่อนรัฐมนตรีจะชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า การช่วยแค่ 3 เดือนนั้นเพื่อดูก่อนว่าโควิดจะจบหรือไม่ แต่ก็พร้อมจะขยายเป็น 6 เดือนหากโควิดยังไม่จบ ก็เลยงงๆ กันต่อไป

ไม่เพียงแค่นั้น ในการทำงานภายใต้วิกฤตแห่งชาติ ยิ่งเกิดขึ้นในสภาพที่ผู้นำไม่สามารถสื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์

ไม่สามารถทำความเข้าใจกับคนในสังคมได้ จนต้องมีคนเขียนบทให้อ่านในช่วงเวลาที่สำคัญ

การแต่งตั้งโฆษก ขึ้นมาทำหน้าที่แทน จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด

จึงไม่แปลกใจที่ศบค. แต่งตั้ง นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ขึ้นมาทำหน้าที่

แต่ก็น่าเสียดายว่าในภาวะที่สังคมต้องการข้อมูลที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา กลับไม่ได้ตอบสนองเรื่องราวเหล่านี้เท่าที่ควร

กลายเป็นเกินเลยในแนวทางที่แสดงความเห็นอย่างสนุกอารมณ์

จนเวทีการแถลงข้อมูลข่าวสาร กลายเป็นเวทีทอล์กโชว์ หรือโฆษณาชวนเชื่อ

จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะหากประชาชนฝังใจเสียแล้วว่าข้อมูลภาครัฐไม่ตรงไปตรงมา มีประโยชน์อื่นแอบแฝง

จนเลือกไม่เชื่อถือ ไม่ปฏิบัติตาม

จะไม่เป็นประโยชน์เสียเลย ในยามที่เผชิญวิกฤตเช่นนี้