ตัวอย่างของคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…มันฯ มือเสือ

ตัวอย่างของคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง : เป็นข่าวดีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในไทยลดลงต่อเนื่อง

เมื่ออังคารที่ผ่านมาลดเหลือแค่ 19 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตยังมีอยู่ แต่ห่างวันมากขึ้น

มีการตั้งข้อสังเกตโดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมาเริ่มมีรถยนต์ออกมาวิ่งเพ่นพ่านหนาตาเป็นสัญญาณบอกว่าคนเริ่มกล้าออกจากบ้านมากขึ้น

หลายคนเริ่มกลับเข้าทำงานออฟฟิศ หลังเวิร์ก ฟรอม โฮม นานเกือบเดือน

เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อลดก็คลายใจ ทดลองกลับมาใช้ชีวิตวิถีปกติ

ถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะยังมีเคอร์ฟิว แต่ก็ช่วยคลายความอึดอัดที่ต้องอุดอู้อยู่บ้านได้พอสมควร

พฤติกรรมนี้ ศบค.ผู้ยึดหลักสุขภาพต้องมาก่อนเสรีภาพ อาจไม่ชอบใจ

มองว่าตราบใดที่ผู้ติดเชื้อยังไม่เป็น 0 หรือต่ำสิบต่อเนื่อง ก็ต้องคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันโควิดระดับเข้มข้นต่อไป ไม่ว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ปิดห้าง ปิดร้านอาหาร ร้านตัดผม ห้ามซื้อขายเหล้าเบียร์ ฯลฯ

ซึ่งตรงนี้หลายคนเห็นต่าง เชื่อว่ารัฐกำลังทำลายสมดุลระหว่างมาตรการป้องกันโควิด กับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จนเป็นที่มากระแสประชดประชัน

โควิดก็กลัว แต่กลัวอดตายมากกว่า

ในขณะที่รัฐร้องขอแกมบังคับให้คน อยู่บ้าน แต่รัฐเองก็สร้างกฎเกณฑ์ลดแรงดึงดูดใจ

อากาศร้อน ค่าไฟก็แพง เงินเยียวยายังไม่ได้ เหล้าเบียร์ก็ไม่มี แล้วใครมันจะอยากอยู่บ้านโดยสมัครใจ

ที่น่าสลดหดหู่ ขณะที่รัฐปลื้มใจยินดีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดต่ำ

กลับปรากฏข่าวสาวแม่ลูกอ่อนตกงานเพราะพิษโควิด ยื่นขอเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้วยังไม่ได้ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก น้อยกิน

เมื่อชีวิตไร้ทางออกจึงตัดสินใจผูกคอตาย

นี่ก็คือตัวอย่างคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ถูกกลบหลุมฝังด้วยมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องความสลับซับซ้อน มากด้วยเงื่อนไข เข้าถึงยาก ล่าช้า ไม่เป็นจริง

และไม่เสมอภาคถ้วนหน้า