แก้ด้วยปัญญาไม่ใช่พละกำลัง
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…มันฯ มือเสือ
แก้ด้วยปัญญาไม่ใช่พละกำลัง : สรุปครม. เห็นชอบตามข้อเสนอ ศบค.ให้ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือนถึง 31 พ.ค.
ส่วนมาตรการต่างๆ มีทั้งที่คงไว้ เช่น มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้าน 4 ทุ่มถึงตี 4 เพื่อประสิทธิภาพควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด
แล้วก็มีที่ผ่อนคลายกิจกรรมบางประเภท อะไรบ้างนั้น จะมีคณะกรรมการศึกษารายละเอียดว่าอะไรบ้างควรผ่อนปรนร้านอาหาร ตลาดนัด ร้านตัดผม คลินิก สนามกีฬา สวนสาธารณะ เป็นต้น
คณะกรรมการคลายล็อกมีตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และมหาดไทยในฐานะหน่วยงานใกล้ชิดประชาชนเป็นกรรมการ
การคลายล็อกแบ่ง 4 ระยะ 1 ถึง 4 แต่ละระยะห่างกัน 14 วัน ตามระยะเวลาบ่มตัวของโควิด เพื่อประเมินว่าหลัง ผ่อนล็อกแล้วมีการแพร่ระบาดของโรค หรือกิจกรรมใดจำเป็นต้องกลับมาใส่ล็อก อีกหรือไม่
การคลายหรือปลดล็อก จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก
ส่วนที่ยากคือ รัฐบาลต้องสร้างสมดุลระหว่างมาตรการควบคุมโควิดกับมาตรการฟื้นเศรษฐกิจให้ได้อย่างเหมาะสม ไม่เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
สภาพเศรษฐกิจไทยก่อนหน้านี้ไม่ดีอยู่แล้ว พอมาเจอโควิดก็เหมือนโดนหมัดน็อกสลบกลางอากาศ
เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้น หลายคน จึงเห็นว่ารัฐบาลน่าจะคลายล็อกได้บ้าง เพื่อให้ผู้คนกลับไปทำมาหากิน ก่อนเศรษฐกิจจะหมดทางเยียวยาฟื้นคืน
การทำอย่างไรคนไทยถึงจะรอดทั้งจากพิษโควิด และรอดจากพิษเศรษฐกิจ ไปพร้อมกัน
คือโจทย์การบ้านข้อใหญ่ของรัฐบาลในตอนนี้
มีคนแนะนำว่า อย่างแรกคือรัฐบาล ต้องเปิดรับฟังความเห็นจากทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ เป็นหลัก เปิดใจรับฟังประชาชนให้มาก ขณะเดียวกันก็รับฟังฝ่ายความมั่นคงให้น้อยลงโดยเฉพาะ สมช.
ตอนนี้ศัตรูของประเทศคือโรคระบาด ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจรวนทั้งระบบ ประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ
เป็นปัญหาที่ต้องแก้ด้วยสติปัญญา ไม่ใช่พละกำลัง หรืออำนาจทางทหาร