สอดแนม-ติดกล้อง
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
โดย…เภรี กุลาธรรม
สอดแนม-ติดกล้อง – เป็นอีกครั้ง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บ่นว่ารับไม่ได้
ก่อนหน้านี้ ก็เคยบ่นลักษณะเดียวกัน เมื่อครั้งประชาชนพากันแย่งยื้อซื้อเหล้าเบียร์ในห้างใหญ่ หลังปลดล็อกมาตรการ เปิดให้ซื้อขายได้
พร้อมกำชับห้างต่างๆ ว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ไม่เช่นนั้นจะไม่ขาย
ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ตำหนิประชาชนที่ยื้อแย่ง กวาดของจาก “ตู้ปันสุข” ที่ ชาวบ้านร่วมกันจัดทำขึ้นมา เพื่อแบ่งปันอาหารในยามยาก
ระหว่างลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโรงทานวัดระฆังโฆสิตาราม ก็พูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า
ขอฝากเรื่องการจัดตั้งโรงทานและจัดตั้งตู้ปันสุขหรือตู้แบ่งปันให้มีจำนวนมากขึ้น ที่เป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีระหว่างกัน คนที่มีศักยภาพก็นำของมาบริจาคช่วยเหลือกัน
พร้อมระบุว่าได้สั่งการให้ดูแลเรื่องตู้แบ่งปันให้มากขึ้น ให้มีคนเฝ้าและติดกล้อง เพื่อบันทึกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร ยืนยันไม่อยากลงโทษใคร เพียงแต่วันนี้เราต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องนึกถึงคนอื่น นำของไปใช้แต่พอดี เพียงพอ
พอพล.อ.ประยุทธ์กลับมาพูดและให้สัมภาษณ์แบบนี้ เล่นเอาชาวบ้านส่ายหัวไปตามๆ กัน
ขณะเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงทัศนะของพล.อ.ประยุทธ์ในกรณีนี้ ถือเป็นการดูถูกประชาชน และสะท้อนว่านายกรัฐมนตรีไม่เคยมองย้อนกลับไปดูการบริหารจัดการ ของตนเองว่ามีปัญหา
นายพิธากล่าวอีกว่า ถึงแม้รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารเงินเยียวยา 5 พันบาท อย่างมีประสิทธิภาพได้ แต่อย่างน้อย ควรทำโครงการธนาคารอาหาร หรือฟู้ดแบงก์เพื่อให้ประชาชนมีทางออก ไม่อดตาย เพราะประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ไม่สมควรต้องมีคนมากมายต้องหิวโหย
โครงการธนาคารอาหารนี้ เคยเสนอให้รัฐบาลทำตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ประชาชนต้องมองหาวิธีการช่วยเหลือดูแลกันเอง และหากต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลแบบนี้ไว้ทำไม
ต้องยอมรับว่าทัศนะและวิธีคิดของพล.อ.ประยุทธ์ เข้าสไตล์ที่เรียกว่าเจ้าขุนมูลนาย มองชาวบ้านคือผู้ที่ถูกปกครอง ต้องเชื่อฟังคำสั่งสอน หรือไม่ก็มองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
ล้าหลังอย่างยิ่งในสังคมยุคใหม่ ที่ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน