ยื้อต่อพ.ร.ก.หรือไม่ : คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย…เภรี กุลาธรรม

ยื้อต่อพ.ร.ก.หรือไม่ – ศบค.ด้านความมั่นคง ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสมช.เป็นประธาน ประชุมวิเคราะห์สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และเตรียมเปิดผ่อนปรนให้ดำเนินกิจการกิจกรรมในระยะที่ 4

คาดว่าเกือบทุกประเภทที่ปิดไปก่อนหน้านี้ จะให้กลับมาเปิดอีกครั้ง

ยกเว้นผับ บาร์ และสถานบันเทิง โดยระบุว่ามีความเสี่ยงสูง โดยเอาบทเรียนการระบาดรอบ 2 ที่เกาหลีใต้มาเป็นเหตุผล

นอกจากนี้ ยังมีกรณีเคอร์ฟิวที่ยังห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนดด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก เสนอแนวคิดว่าให้ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวไปก่อน 15 วัน ในส่วนพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นให้ยกเว้นเกี่ยวกับการชุมนุม

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปศึกษากฎหมายที่จะใช้รองรับ หากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะนำบทบัญญัติใดมาใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคระบุว่าการยกเลิกเคอร์ฟิวจะฟังแต่ฝ่ายกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้

จะต้องฟังความเห็นของแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขด้วย โดยส่วนตัวยังเห็นว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมาะสมที่สุดในการป้องกันการระบาดของโควิด-19

รองนายกฯระบุว่าที่สุดแล้วเรื่องนี้คงออกได้ 3 แนวทาง คือ คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้, ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ผ่อนคลายมาตรการหลายอย่างออกไป

หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้วสถานการณ์รุนแรง ก็สามารถประกาศใหม่ได้ ไม่ยากอะไร

เมื่อถามว่ามีกฎหมายพิเศษอื่นที่สามารถรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคใช่หรือไม่

นายวิษณุกล่าวว่า มี แต่หนักกว่า คือ กฎอัยการศึก ซึ่งประกาศไม่ได้ และ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่ที่จะประกาศได้ไม่ใช่เกี่ยวกับโรคระบาด ต้องเป็นเรื่องของการสู้รบปรบมือ

ส่วนกฎหมายพิเศษที่เบากว่านี้ ไม่มีแล้ว จะมีก็แต่กฎหมายปกติคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อเท่านั้น

น่าสนใจว่ารัฐบาลใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวจะย่างเดือนที่ 4 แล้ว

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของโรคก็อยู่ในสภาวะควบคุมได้

การคงไว้ซึ่งยาแรง แต่ชาวบ้านกำลังจะค่อยๆ ตาย ก็ต้องเลือกแล้ว

ถ้าไม่กังวลและหวาดระแวงเรื่องการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน