มหาประยุทธภัย มูลค่า 20 ล้านล้าน

: คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

 

มหาประยุทธภัย มูลค่า 20 ล้านล้าน : คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม – ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท

ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯ วาระแรก ขั้นรับหลักการเป็นที่เรียบร้อย หลังอภิปราย 3 วันเต็ม

เนื้อหาอภิปรายมีหลายประเด็นน่าสนใจ

แต่โดยรวมๆ ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต เป็นการจัดทำงบที่ไม่ตอบโจทย์วิกฤตเศรษฐกิจยุคโควิด

พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การก่อหนี้ของผู้นำรัฐบาลตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา

เพื่อไทยเคยตั้งฉายาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็น “นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา”

รอบนี้ตั้งให้อีก “บิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ ผู้นำแห่งการก่อหนี้”

งบจัดซื้ออาวุธกองทัพโดยเฉพาะเรือดำน้ำ ยังเป็นประเด็นให้ฝ่ายค้านหยิบขึ้นมาพูดถึงตั้งแต่พ.ร.บ.โอนงบฯ จนถึงพ.ร.บ.งบประมาณฯ

ฝ่ายรัฐบาลชี้แจงแบบชักแม่น้ำทั้งห้า อ้างเหตุผลเดิมๆ สรุปยังไงก็ต้องซื้อ

“ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยได้รับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ มีแต่ของเก่าเกิน 70% ก็ต้องจัดซื้อมาทดแทนเพื่อไม่ให้ไปเสียค่าซ่อมบำรุง วันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปก้าวไกล หากเทคโนโลยีเราไม่ทันสมัยก็อาจจะเป็นปัญหากับเราในอนาคต

ขอความเข้าใจกันบ้าง หลายคนก็มีลูกหลานเป็นทหาร ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันก็จะทำให้เกิดความสูญเสียลูกหลานของท่านได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ครั้งก่อนไม่ได้เข้าประชุมพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 4 ฉบับและพ.ร.บ.โอนงบฯ เพราะต้องผ่าตัดและพักฟื้นร่างกาย

รอบนี้เลยจัดหนัก นายพิธาอภิปรายตอนหนึ่งระบุ ปี 64 นอกจากประชาชนทุกข์สาหัส ยังต้องจารึกไว้เป็นปีที่พล.อ.ประยุทธ์ใช้งบประมาณแผ่นดินครบ 20 ล้านล้านบาท ตั้งแต่ยึดอำนาจมาในปี 57

เป็นนายกฯที่ใช้งบประมาณมากที่สุดแต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้น้อยมาก เศรษฐกิจไทยดื้อยาขนาดหนักถือเป็น “มหาประยุทธภัย”

ยิ่งเพิ่มงบประมาณความเชื่อมั่นยิ่งลด ถมเท่าไหร่เศรษฐกิจก็ไม่กระเตื้อง

20 ล้านล้านกับสภาพบ้านเมืองในเวลานี้ คุ้ม-ไม่คุ้มดูกันเอาเอง

โดย มันฯ มือเสือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน