สาวกแอปเปิ้ลกางเต๊นท์หน้าร้านแอปเปิ้ลสตูดิโอในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รอซื้อ “ไอโฟน 7” กันแล้ว ตามกำหนดเปิดขายวันแรกในวันที่ 16 ก.ย. ใน 25 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รวมถึงจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ฯลฯ
การเปิดตัวของไอโฟน 7 ในครั้งนี้ เอเอฟพีรายงานว่า บริษัทแอปเปิลมุ่งหวังจะฟื้นความคึกคักและจุดเทรนด์ใหม่ในวงการสมาร์ตโฟนและเทคโนโลยี เพราะไอโฟนรุ่นใหม่นี้ ต้องการชนะใจผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีของกล้อง การกันน้ำ มีพลังงานมากขึ้น รวมถึงลูกเล่นอื่นๆ
ที่สำคัญ ผู้คนในวงการก็อดไม่ได้ที่จะมองว่า แอปเปิ้ลคงจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์ไม่เป็นใจของซัมซุง ที่ปล่อยเรือธง โน้ต 7 ออกมาแล้วเกิดวิกฤตเกี่ยวกับแบตเตอรี่ จนต้องเรียกคืนสินค้า 2.5 ล้านเครื่อง
ในงานเปิดตัวไอโฟน 7 ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิ้ล ขนานนามให้ไอโฟน 7 เป็นรุ่นสะท้อน “ความกล้าหาญ” ของแอปเปิ้ลในฐานะผู้นำตลาด สมาร์ตโฟน ด้วยความพิเศษหลายอย่าง
รูปร่างหน้าตาภายนอกของไอโฟน 7 ขนาดยาว 138.3 กว้าง 67.1 และหนา 7.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 138 กรัม และไอโฟน 7 พลัส มีขนาด 158.2 x 77.9 x 7.3 ม.ม. น้ำหนัก 188 กรัม อาจดูไม่พิเศษอะไร
แต่ที่โดดเด่นต้องส่องกันลึกๆ ข้างใน ไม่ว่าใช้ซิมการ์ดแบบนาโนซิม ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำ เป็นรุ่นแรกที่ผ่านมาตรฐานไอพี 67 ทำให้กันน้ำและฝุ่นละอองเข้าสู่ภายในเครื่อง แบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานขึ้น
สเป๊กภายในที่ได้รับการอัพเกรดมา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้ที่ ลื่นไหล ไร้สะดุด สไตล์แอปเปิ้ล พร้อมลำโพงสเตอริโอกล้องถ่ายภาพใหม่หมดจด ที่ทางแอปเปิ้ลโหมโปรโมตว่าเป็นกล้องบนสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดในโลกแล้วในตอนนี้
และที่เกรียวกราวเป็นประเด็นข่าวในวันเปิดตัวก็คือ ช่องเสียบไลต์นิ่งพอร์ต ที่เหลืออยู่เพียงพอร์ตเดียวในไอโฟน 7 หลังแอปเปิ้ลตัดสินใจเอามินิแจ๊ก 3.5 ม.ม. ออกไปเรียบร้อย
ไอโฟน 7 ความจุข้อมูล 32 กิกะไบต์ (GB) ราคาอยู่ที่ 649 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 22,000 ไปจนถึง 37,000 บาท และไอโฟน 7 พลัส ความจุข้อมูล 32 GB ราคาเริ่มที่ 769 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26,000 ไปจนถึง 42,000 บาท
ทั้งสองรุ่นมี 3 ความจุให้เลือก ได้แก่ 32,128 และ 256 GB มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ เจ็ตแบล็ก (สีดำใหม่) แบล็ก โกลด์ ซิลเวอร์ และโรส โกลด์ แต่สีเจ็ตแบล็ก มี 2 ขนาดคือ 128 และ 256 GB
สำหรับไฮไลต์แรกของไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส ได้แก่ ปุ่มโฮม ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดตั้งแต่ต้นให้รวมเอาฟีเจอร์อย่าง “ฟอร์ซ ทัช” (Force Touch) เข้าไปด้วยทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นได้ อาทิ ข้อความ การเตือน ริงโทน และการค้นหาด้วยแรงกดปุ่มที่ต่างกัน ควบรวมกับความรู้สึกตอบสนองจำลองที่ทำให้รู้สึกเหมือนกดปุ่มจาก “แท็ปติก เอ็นจิ้น” ของแอปเปิ้ล
ส่วนมาตรฐานไอพี 67 (IP 67) ที่ว่านั้นหมายความว่า ไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส สามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึกไม่เกิน 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที ทั้งยังต่อต้านฝุ่นละออง ไม่ให้เข้าไปสะสม ในตัวเครื่อง ทัดเทียมกับ สมาร์ตโฟนเรือธงบางเครื่องจากค่ายระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิ้ล
ด้านกล้องถ่ายภาพของไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส ที่แอปเปิ้ลภูมิใจเสนอนั้น ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน มาพร้อมฟีเจอร์อย่าง ออพติคอล อิมเมจ สเตเบไลเซชั่น (OIS) และรูรับแสงขนาด เอฟ/1.8 ทำให้รับแสงได้มากขึ้นร้อยละ 50 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีความเร็วโฟกัสเพิ่มร้อยละ 60 และใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นร้อยละ 30 พร้อมแฟลชแบบทรูโทนด้วยแอลอีดี 4 จุด และฟลิกเกอร์ เซ็นเซอร์ เพื่ออ่านแสงกะพริบและทำให้ภาพคมชัดขึ้น
ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานฝ่ายการตลาด แนะนำไอโฟน 7 AFP PHOTO / Josh Edelson
ที่เจ๋งกว่านั้นไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส มีหน่วยประมวลผลภาพตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็น 2 เท่า สามารถตั้งค่าต่างๆ ให้เสร็จภายในเวลาเพียง 25 มิลลิวินาที (0.025 วินาที) พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านพิกเซล หลากและหลายคาดว่ามันจะต้องเป็นกล้องมือถือที่ถ่ายได้มันส์มาก และถ่ายได้ชัดมากขึ้นในที่แสงน้อย
ยังไม่หมดแค่นี้ ไอโฟน 7 พลัส โดดเด่น กว่าไอโฟน 7 ตรงนี้ด้วย เพราะไอโฟน 7 พลัส มาพร้อมกับกล้องหลังแบบคู่ที่ได้รับการติดตั้งเลนส์มา 2 แบบ เป็นเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้าง (เลนส์ไวด์) และเทเลโฟโตเลนส์ (เลนส์ซูม) ให้ผู้ใช้เลือกถ่ายภาได้ตามความเหมาะสม และหากเปิด Portrait mode ทั้งสองเลนส์จะทำงานคู่กันเพื่อคุณภาพสูงสุดด้านมิติของภาพด้วย (โอ้วจอร์จ)
ฟีเจอร์นี้ถือว่าทำให้เทคโนโลยีดูอัลเลนส ในไอโฟนทัดเทียมแล้วกับเรือธงฝั่ง แอนดรอยด์อย่าง ออเนอร์ 8 และพี 9 จากค่ายหัวเหว่ย วี 20 และจี 5 จากแอลจี ที่เหลือคือต้องรอถ่ายภาพมาเคียงกันจริงๆ เท่านั้น
มาถึงหน้าจอแสดงผลเรติน่าของไอโฟน 7 มาพร้อมกับจอเรติน่า ความละเอียด 750 x 1,334 พิกเซล บนขนาดจอ 4.7 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 326 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) ส่วน ไอโฟน 7 พลัส ความละเอียด 1,080 x 1,920 พิกเซล ขนาดจอ 5.5 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 401 ppi โดยทิม คุก ระบุว่า เป็นจอที่ดีที่สุดบนสมาร์ตโฟน เพราะเป็นจอเรติน่าให้ความสว่างมากขึ้นเป็นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับจอของไอโฟนรุ่นก่อน ทั้งยังให้สีสันได้มากขึ้น
ความร่วมมือกับแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรม ทำให้ยืนยัน ได้ว่า ภาพที่ปรากฏในอินสตาแกรมจะสวยงามที่สุดบนจอไอโฟน 7 ด้วย
นอกจากนี้ ไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส ยังเป็นไอโฟนรุ่นแรกที่มีลำโพงแบบสเตอริโอ อยู่ที่ด้านบนและล่างของจอภาพ แอปเปิ้ลระบุว่า ให้เสียงดังกระหึ่มกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า แต่หลากและหลายมองว่า คงต้องรอทดสอบเอาไปจุ่มน้ำก่อนว่าเสียงจะเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะบรรดาสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์กันน้ำทั้งหลายก็มักมีปัญหานี้
สําหรับจุดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนและเหล่าสาวกอำกันแหลก นั่นคือ การนำพอร์ตเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไป เหลือเพียงพอร์ตไลต์นิ่ง
ทางแอปเปิ้ลให้เหตุผลว่า เชื่อมั่นในเทคโนโลยีไร้สายซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐาน ในอนาคต ผู้ใช้ที่ต้องการฟังเพลงแจ่มๆ หรือเป็นพวกหูทอง เตรียมควักกระเป๋าซื้อหูฟังไร้สายไว้ได้เลย
แต่ทางแอปเปิ้ลระบุว่า อย่าเพิ่งตกใจ เพราะแอปเปิ้ลแถม อแด็ปเตอร์แปลงพอร์ตมาให้ฟรี เปลี่ยนจากพอร์ตไลต์นิ่งเป็นมินิแจ๊ก 3.5 ม.ม. และยังแถมหูฟัง “เอียร์พ็อด” ที่เป็นหัวเสียบไลต์นิ่งมาให้ด้วย พอร์ตไลต์นิ่งที่เหลือนี้เป็นออล-อิน-วัน โซลูชั่น ไม่ว่าจะโอนข้อมูล เสียบสายชาร์จ และเสียบหูฟังจากพอร์ตนี้พอร์ตเดียว
แต่สำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายจากแอปเปิ้ลก็หายห่วง “แอร์พ็อด” มาถึงแล้ว สนนราคาที่ 159 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,500 บาท ใช้ได้นานราว 5 ชั่วโมง พร้อมเคสชาร์จไฟที่ต่อเวลาได้อีกราว 24 ช.ม. โดยหูฟังนี้จะทำงานต่อเมื่อใส่ไว้ในหูเท่านั้น
แอปเปิ้ลยังเปิดตัว “แอปเปิ้ล วอตช์ ซีรีส์ ทู (Apple Watch Series Two) มุ่งเน้นให้เป็นอุปกรณ์ครบวงจรสำหรับผู้รักการออกกำลังกาย มีคุณสมบัติกันน้ำเข้าที่ระดับความลึกไม่เกิน 50 เมตร ภายในเพิ่มอุปกรณ์บอกพิกัด หรือจีพีเอส หน่วยประมวลผลที่ทรงพลังมากขึ้น และจอที่สว่างมากขึ้น
ภายในงานเปิดตัวยังมีแขกรับเชิญพิเศษ คือ นายชิเงรุ มิยาโมโตะ ผู้ออกแบบตัวละคร มาริโอ จากค่ายนินเท็นโด ประเทศญี่ปุ่น ประกาศว่า เกมมาริโอจะมาสนับสนุนระบบปฏิบัติการไอโอเอสภายในสิ้นปีนี้ ถือเป็นเกมแรกของค่ายนินเท็นโดบนไอโอเอส ส่งผลให้หุ้นของนินเท็นโดดีดตัวขึ้นทันทีจากการขานรับของนักลงทุน
…ต้องรอชมต่อไปว่า ไอโฟน 7 จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด