สสวท.โชว์ศักยภาพ “บัณฑิต พสวท.” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยงานวิจัย และนวัตกรรม ครั้งที่ 3 ขณะที่รัฐบาลหนุนนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ขับเคลื่อน ตั้งเป้าสร้างนักวิทย์ฯ รุ่นใหม่ ให้ได้ 60 คนต่อประชาชน 1 หมื่นคน
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดงาน พสวท.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 8-9 ก.ย. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ร่วมเปิดงาน
ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานว่า สสวท.ได้ดำเนินการพัฒนา และส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ฯ ตั้งแต่ปี 2527 เพื่อเตรียมกำลังคนที่มีคุณภาพสูง และมีองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐานที่เข้มแข็ง ให้เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนวัตกร เพื่อศึกษาวิจัย ประดิษฐ์ และคิดค้นผลงานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้ขับเคลื่อนและเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ เพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ผอ.สสวท. กล่าวอีกว่า กว่า 30 ปีที่ผ่านมา สสวท.ได้ผลิต “บัณฑิต พสวท.” ที่มีศักยภาพสูงประมาณ 1,200 คน เข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานต่างๆ โดยสร้างผลงานวิจัย และผลิตผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคุณภาพสูงเป็นที่ประจักษ์ รวมถึงได้รับรางวัลต่างๆ ที่สำคัญทั้งในระดับนานาชาติที่มากขึ้นเป็นลำดับ 
จากนั้น พล.อ.อ.ประจิน กล่าวปาฐกถาพิเศษในการเปิดงาน หัวข้อ “ระดมนักวิทย์ฯ ขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนา พาไทยก้าวหน้าสู่ Thailand 4.0” ว่า หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์ฯ รัฐบาลจึงตั้งเป้าว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า จะต้องสร้างนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ให้มีสัดส่วน 60 คนต่อประชาชน 10,000 คน
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า สิ่งที่จำเป็นคือต้องเพิ่มทุนการศึกษาเข้ามาสู่ระบบมากขึ้น และกำหนดงานให้นักวิทยาศาสตร์ที่เรียนจบออกมามีงานทำชัดเจน สามารถบรรจุในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ที่มีความสอดคล้องกับทุนต่างๆ ของรัฐบาลด้วย
“รัฐบาลจะช่วยปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น อาทิ ขั้นตอนกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม การลดเวลาในการพิจารณาคุณสมบัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) กระบวนการจดสิทธิบัตรต่างๆจะต้องรวดเร็วขึ้น เป็นต้น ” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
