ดร.ดาวี แวนแฮม ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยร่วมคณะกรรมาธิการสหยุโรปในประเทศอิตาลี เปิดเผยผลวิจัยล่าสุดซึ่งพบว่าการปรับแนวทางการบริโภคให้มีสุขภาพมากขึ้นนั้น นอกจากจะดีต่อร่างกาย และลดความเสี่ยงของโรคร้ายต่างๆ แล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และลด “รอยย่ำของน้ำ” (วอเตอร์ ฟุตพรินต์) เครื่องชี้วัดการใช้น้ำของผู้บริโภคหรือผู้ผลิตไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับ “รอยเท้าคาร์บอน” (คาร์บอน ฟุตพรินต์) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ ได้มากถึงร้อยละ 55 อีกด้วย
การศึกษาระบุว่า รอยย่ำของน้ำจากการผลิตอาหารต่อคน ต่อวัน มีปริมาณมากถึง 2,757 ลิตรในสหราชอาณาจักร 2,929 ลิตรในเยอรมนี และ 3,861 ลิตรในฝรั่งเศส การเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเป็นมังสวิรัติแบบสุขภาพดี คือไม่กินอาหารประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด และเลือกน้ำมันจากพืชแทนไขมันสัตว์ จะช่วยลดรอยย่ำของน้ำได้ระหว่างร้อยละ 35-55 การปรับเป็นเพสคาเทเรียน หรือมังสวิรัติที่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยกเว้นปลาและอาหารทะเล จะลดรอยย่ำของน้ำลงราวร้อยละ 33-35
ส่วนการเพิ่มการบริโภคพืชผักและผลไม้ในกลุ่มที่ยังกินเนื้อสัตว์นั้น จะช่วยลดรอยย่ำของน้ำได้ร้อยละ 11-33
