เมื่อ 26 ก.ย. บีบีซีรายงานว่า ซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ มีคำสั่งเลื่อนวันกลับมาวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เรือธงแฟ็บเล็ต ซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 7 (Samsung Galaxy Note 7) อย่างเป็นทางการในเกาหลีใต้อีกครั้ง จากเดิมที่ตั้งใจให้วางขายวันที่ 28 ก.ย. แต่ต้องเลื่อนไปเป็นอย่างเร็วที่สุดคือ 1 ต.ค.
ภาพจาก AFP สินค้าโน้ต 7 ที่ถูกเรียกคืน
ซัมซุงชี้แจงว่า คำสั่งชะลอดังกล่าวมีสาเหตุมาจากทางบิรษัทต้องการเวลาเพิ่มในการเรียกคืนแฟ็บเล็ตล็อตเก่า โดยในเกาหลีใต้ยังเหลือเครื่องที่ยังไม่ได้รับคืนอีกราว 2 แสนเครื่อง
หลังรายงานการระเบิดของแบตเตอรีภายในเครื่องกลายเป็นพาดหัวข่าวทั่วโลกสั่นสะเทือนภาพลักษณ์ของค่าย ทำให้ซัมซุงตัดสินใจเรียกคืนเครื่องที่จำหน่ายไปแล้วทั่วโลกกว่า 2.5 ล้านเครื่อง
ขณะที่กำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการรอบใหม่ในสิงคโปร์และออสเตรเลีย คาดว่า จะเป็นเดือนต.ค.นี้
ส่วนไทย ทางบริษัท ไทย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด มีแถลงการณ์ว่าพร้อมส่งมอบกาแล็กซี โน้ต 7 ล็อตที่ผลิตใหม่ให้ลูกค้าที่สั่งจองล่วงหน้าภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ พร้อมตอบแทนลูกค้าด้วยการมอบของขวัญพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่ หูฟังไร้สาย ซัมซุง เลเวล แอ๊กทีฟ สีดำ มูลค่า 2,990 บาท
ทั้งเพิ่มจากสิทธิพิเศษเดิมที่ได้รับก่อนหน้านี้ ได้แก่ ส่วนลด 2,000 บาท และกาแล็กซี โน้ต 7 แวลู แพ็ก มูลค่า 3,190 บาท แบ๊กแพ็ก แบตเตอรี่ มูลค่า 2,590 บาท รวมทั้งการรับประกันจอแตกสำหรับลูกค้ากาแล็กซี โน้ต 1-5 ที่กดรับสิทธิในแอพพลิเคชั่นกาแล็กซี กิฟต์
ส่วนลูกค้าที่ต้องการยกเลิกสั่งจอง สามารถยกเลิกได้ภายใน 10 ต.ค.นี้ โดยติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ลูกค้าสั่งจองไว้ เพื่อรับเงินมัดจำคืนและรับบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 2,000 บาท
กาแล็กซี โน้ต 7 ที่ได้รับการผลิตขึ้นใหม่จะมีความแตกต่างจากเดิม คือ นอกจากแก้ไขปัญหาข้างต้นแล้ว จะมีสีของไอคอนแบตเตอรี่ภายในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เป็นสีเขียว (จากเดิมทีเป็นสีขาว) หลังทางซัมซุงได้รับอนุญาตจากทางกูเกิ้ลเป็นกรณีพิเศษ (แถบสเตตัสบาร์ หน้าจอ Always On และหน้าจอยืนยันการปิดเครื่อง) ผู้ใช้ยังสังเกตตราสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมบนกล่องของผลิตภัณฑ์กาแล็กซี โน้ต 7
นอกเหนือจากนั้น กาแล็กซี โน้ต 7 ล็อตใหม่ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยนั้น จะไม่มีสัญลักษณ์ DUOS ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เพื่อยืนยันว่าเป็นเครื่องผลิตใหม่จริง
กำหนดการวางจำหน่ายล็อตใหม่ในไทยอย่างเป็นทางการ ซัมซุงไทยระบุว่า น่าจะภายในสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า
