‘โปรเจ็กต์สการ์เล็ตต์’เอ็กซ์บ็อกซ์ภาคต่อจากไมโครซอฟท์

‘โปรเจ็กต์สการ์เล็ตต์’เอ็กซ์บ็อกซ์ภาคต่อจากไมโครซอฟท์

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ไมโครซอฟท์ ผู้พัฒนาคอนโซลเกมตระกูลเอ็กซ์บ็อกซ์ประกาศกำหนดวันเปิดคอนโซลภาคต่อของค่ายภายใต้รหัสพัฒนา โปรเจ็กต์ สการ์เล็ตต์ เป็นช่วงปลายปี 2563 โดยมีประสิทธิภาพทางฮาร์ดแวร์สูงกว่า เอ็กซ์บ็อกซ์ วัน เอส เป็น 4 เท่า

ฟิลล์ สเป็นเซอร์ รองประธานบริหารฝ่ายเกมมิ่งของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “คอนโซลเกมควรถูกสร้างและเน้นประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ เกม” ขณะที่เทรลเลอร์ชิมลางของคอนโซลรุ่นใหม่ดังกล่าวบ่งชี้ว่า ประสิทธิภาพที่มากขึ้นจะส่งผลให้เวลาที่ใช้ในการโหลดเปลี่ยนฉากเร็วขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังระบุถึงการสนับสนุนเกมทั้งหมดในคอนโซลตระกูลเอ็กซ์บ็อกซ์รุ่นก่อนๆ ด้วยว่า “เกมนับพันๆ เกม ที่อยู่ในคอนโซลรุ่นก่อนหน้า 4 รุ่น จะเล่นได้ดีที่สุดบนโปรเจ็กต์ สการ์เล็ตต์”
โปรเจ็กต์ สการ์เล็ตต์ จะมีหน่วยความจำแรมที่มากขึ้น และสนับสนุนกราฟิกที่สวยงามบนเรโซลูชั่นที่สูงกว่าเดิม

ถือเป็นความพยายามของไมโครซอฟท์ในการต่อยอดคอนโซลเกมของทางค่าย หลังเอ็กซ์บ็อกซ์ วัน เปิดตัวตั้งแต่ปี 2556 แต่ได้รับความนิยมน้อยกว่าเครื่องเพลย์ สเตชั่น 4 ของโซนี่ จากประเทศญี่ปุ่น
รายงานระบุว่า การประกาศดังกล่าวของไมโครซอฟท์เกิดขึ้นก่อนหน้ามหกรรมความบันเทิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ E3 ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ขณะที่ค่ายโซนี่นั้นสร้างความแปลกใจด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมงาน E3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของค่าย

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ ระบุด้วยว่า โปรเจ็กต์ สการ์เล็ตต์ จะเปิดตัวพร้อมกันกับเกม Halo Infinite และมาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีแบตเตอรี่อยู่ได้นานถึง 40 ชั่วโมง สนนราคาที่ 179.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,600 บาท สามารถสั่งจองทางเว็บไซต์ได้แล้ววันนี้

สาวกไม่ปลื้มไอโฟน11ชี้ดีไซน์ประหลาด

ฟอร์บส์รายงานว่า เกิดกระแสความไม่พอใจจากบรรดาสาวกแอปเปิ้ลบางส่วน ภายหลังเครื่องสมาร์ตโฟนที่คาดว่าเป็น ไอโฟน 11 และไอโฟน 11 แม็กซ์ รั่วไหลออกมาในโลกโซเชี่ยล ทำให้มีผู้เข้าไปโจมตีการออกแบบใหม่ของแอปเปิ้ลจำนวนมาก

ภาพของสมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ของ เบ็น เกสกิน นักออกแบบชื่อดัง ที่สร้างภาพกราฟิกไอโฟนดังกล่าวขึ้นมาจากการพิมพ์เขียว และภาพเร็นเดอร์อย่างละเอียดที่รั่วออกมาก่อนหน้านี้

นายเกสกินถามว่า “ว่าไงทุกท่าน ทำความคุ้นเคยกันกับดีไซน์ใหม่กันรึยังเอ่ย” ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากกว่า 900 คอมเมนต์ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับทิศทางการออกแบบของแอป เปิ้ล และต่างล้อเลียนกันไปต่างๆ นานา

โดยคอมเมนต์ที่มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นต่อมากที่สุดเป็นของ Irfan Abdul Khaliq ระบุว่า “ออกแบบได้แย่มาก รูปร่างประหลาดสุดๆ” และของ Brandon._init_() ระบุว่า “เป็น สตีฟ จ็อบส์ คงไล่ออกทั้งบริษัท” รายงานระบุว่า จุดที่โดนวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดเป็นกล้องหลังของไอโฟน 11 ที่ถูกมองว่ายื่นออกมาจากตัวเครื่องมาก

ทั้งยังมีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก เป็นผลมาจากการอัพเกรดเซ็นเซอร์ถ่ายภาพใหม่ไอโฟน 11 ยังถูกคาดการณ์ว่าจะมาพร้อมกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากขึ้น และยกเลิกระบบ 3D-Touch และยังคงดีไซน์ “ติ่ง” (notch) ที่จอภาพด้านหน้าไว้ แม้บรรดาคู่แข่งจากฟากแอนดรอยด์จะทยอยใช้ดีไซน์จอเต็มสมบูรณ์กับเกือบหมดแล้วก็ตาม

กูเกิ้ล-ทำเนียบขาว บี้ทรัมป์เลิกแบนหัวเว่ย

ไชน่าเดลี่รายงานว่า กูเกิ้ล ผู้พัฒนาเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และกองงบประมาณทำเนียบขาว อยู่ระหว่างพยายามให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ยุติการกีดกันหัวเว่ย ผู้พัฒนาเทคโยโลยีจีน เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง โดยกูเกิ้ล ยื่นหนังสือต่อผู้นำสหรัฐเพื่อของดเว้นไม่ต้องทำตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ห้ามไม่ให้เอกชนอเมริกันค้าขายกับหัวเว่ย

กูเกิ้ลแสดงความกังวล ว่าการกีดกันหัวเว่ยออกจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จะส่งผลให้หัวเว่ยพัฒนาโอเอสของตัวเองขึ้นมาซึ่งมาจากพื้นฐานแอนดรอยด์ ซึ่งยิ่งเป็นการเปิดช่องความไม่ปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ และยิ่งเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐมากขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่นายรัสเซล ที วอจต์ รักษาการผู้อำนวยการกองงบประมาณทำเนียบขาวเขียนจดหมายถึงรองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 9 คน โดยเตือนว่า ขอให้ยืดระยะเวลาผ่อนปรนออกไปสำหรับเอกชนที่ทำธุรกิจกับหัวเว่ยและกับรัฐ

โดยวอจต์ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้เอกชนอเมริกันที่สามารถทำธุรกิจกับรัฐได้ลดจำนวนลง และกระทบขีดความสามารถของเอกชนอเมริกันในพื้นที่นอกเมือง ซึ่งหัวเว่ยนั้นได้รับความนิยมด้วย