ความฝันหนุ่มสาววิศวะมหิดล
สร้างนวัตกรรม งานวิจัยช่วยสังคม
ความฝันหนุ่มสาววิศวะมหิดล สร้างนวัตกรรม งานวิจัยช่วยสังคม – อาเซียนเป็นพลังของความหลากหลายของผู้คน เชื้อชาติ วัฒนธรรม และทรัพยากร ผนึกมิตรภาพความสัมพันธ์ และการเชื่อมต่อ 10 ประเทศ มีมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก
คาดกันว่าในอีกไม่นานเศรษฐกิจดิจิตอลของอาเซียนจะติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ในด้านการศึกษาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างคน พัฒนาประเทศในอาเซียน เชื่อมต่อกัน ในแต่ละปีจึงมีหนุ่มสาวชาวอาเซียนเดินทางมาศึกษาต่อในประเทศไทยจำนวนมาก
ลองไปฟังความฝันของ 4 หนุ่มสาว หลักสูตรวิศวกรรมโยธา นานาชาติ ในรั้วคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เริ่มที่ นายธนายุต วัฒนประเสริญกูล หรือ แคมป์ หนุ่มเมืองชลบุรี วัย 25 ปี ผู้มีฝันที่จะเปลี่ยนสังคมด้วยนวัตกรรม เผยว่า รู้สึกภูมิใจครับที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนและได้จัดประชุมผู้นำอาเซียนซัมมิต ต้อนรับ 10 ประเทศ ผมชอบคำพูดหนึ่งที่ว่า วิศวกรรมเปลี่ยนโลก อาเซียนวันนี้และอนาคตจะขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยี
จากเดิมเราเดินทางด้วยรถทางถนนกับเครื่องบิน แต่เดี๋ยวนี้ระบบรางเข้ามาช่วยพัฒนาระบบขนส่งเมืองและระหว่างเมืองมากขึ้น ในอนาคตจะมีไฮเปอร์ลูปเป็นอีกทางเลือก
ที่นี่ผมได้รับทุนการศึกษา 60 ปี ของรัชกาลที่ 9 ตลอดการศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทวิศวกรรมโยธา นานาชาติที่คณะวิศวะมหิดล ชีวิตช่วงศึกษาที่คณะวิศวะมหิดล ผมรู้สึกอบอุ่นด้วยมิตรภาพจากเพื่อนนานาชาติในอาเซียน Eco-System ที่นี่ช่วยกระตุ้นให้เราคิดสร้างสรรค์และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ในอนาคตผมอยากเป็นวิศวกรออกแบบอาคารสูงที่เด่นด้วยดีไซน์ ใช้พลังงานสะอาดและวัสดุใหม่ๆ ที่ทำให้อาคารและเมืองน่าอยู่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายซัมดานี่ อาซาด หนุ่มวัย 25 ปี จากบังกลาเทศ ดินแดนริมอ่าวเบงกอลที่กำลังก้าวเป็นฮับผลิตอุปกรณ์แก๊ดเจ็ตแห่งหนึ่งของโลก เผยว่า “มุ่งมาเรียนที่ประเทศไทย เพราะได้ยินมาแต่เด็กจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นวิศวกรอยู่บริษัท เชฟรอน พูดถึงประเทศไทยว่าเป็นแดนแห่งรอยยิ้ม คนไทยมีน้ำใจอารี
ผมเลือกมาเรียนวิศวกรรมโยธาที่วิศวะมหิดล เพราะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยและมีความเป็นสากล ถึงจะเป็นสังคมที่แตกต่างจากบ้านผมทั้งศาสนา ภาษา และวัฒนธรรม แต่ถือเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ดีที่สุดของผมเลยครับ แวดล้อมด้วยอาจารย์ที่ดี เพื่อนคนไทยและหลายประเทศ ผมยังได้ไปร่วมงานประชุม-สัมมนาระดับนานาชาติ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักวิจัย
ตื่นเต้นที่ได้เจอตัวจริงนักวิชาการชื่อดัง ที่ผมเคยอ่านผลงานของเขา อย่างเช่น ศาสตราจารย์ไลน่า (Leina), ศาสตราจารย์คาร์ลอส เกอเดส โซอาเรส ความประทับใจอีกอย่าง คือได้ร่วมทีมทำวิจัย กับมหาวิทยาลัยในเครือ European Union เรื่องการประเมินอายุการใช้งานของโครงสร้างฐานรากเสาเดี่ยวนอกชายฝั่งเมื่อพิจารณาผลการกัดกร่อนร่วมกับความล้า แล้วนำผลงานไปเสนอในงานประชุมแผ่นดินไหวแห่งเอเชีย(Asian Earthquake)
โดยได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น และเป็นประโยชน์ต่อการทำฟาร์มพลังงานลมในชายฝั่งทะเล และแท่นสำรวจขุดเจาะก๊าซ-ปิโตรเลียมในเอเชียด้วย ประสบการณ์ที่ได้รับจากเมืองไทย ผมจะนำไปใช้พัฒนาสังคมและประเทศครับ”
นายวาย เพียว ลิน หรือ สตีเฟน หนุ่มน้อยจากประเทศเพื่อบ้านเมียนมา วัย 23 ปี ที่มาใช้ชีวิตในเมืองไทยตั้งแต่ปริญญาตรี คุยให้ฟังถึงการใช้ชีวิตและศึกษาในประเทศไทยว่า มองว่าในอนาคตอาเซียนจะยิ่งเจริญก้าวไกล ด้วยคนรุ่นใหม่ จากความเข้าใจกันและกัน ผสมผสานความแตกต่างอย่างลงตัว ให้เป็นพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่
การมาศึกษาต่อป.โทที่วิศวะมหิดล ผมสนุกกับการทำโครงการที่สร้างสรรค์ร่วมกับเพื่อนๆ มีชาวไทย 3, ภูฏาน 1, เมียนมา 4, บังกลาเทศ 1 และเนปาล 1 ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ผมทำวิจัยเรื่อง การคำนวณต้นทุนโครงการก่อสร้างทางหลวงชนบทในประเทศไทย ที่นี่สอนให้ผมใช้เทคโนโลยีดิจิตอลทางวิศวกรรมที่ก้าวหน้า
อย่างเช่น ซอฟต์แวร์ BIM ช่วยในการจำลองออกแบบ โปรแกรม PRIMAVERA วางแผนและทดสอบ และโปรแกรม คำนวณ ต่างช่วยประหยัดเวลาและมีประสิทธิภาพมาก
ด้าน นางสาวสุภานี จริตไทย หรือ อิน นักศึกษาสาวไทยในบุคลิกสดใสและเปี่ยมพลัง มองว่าวิศวกรยุคใหม่ต้องมี Life-Long Learning เรียนรู้ตลอดชีวิต และไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาทักษะความรู้ เพราะการสร้างนวัตกรรมต้องใช้พหุศาสตร์มาเปลี่ยนแปลงพัฒนาแทบทุกธุรกิจอุตสาหกรรม อินได้ร่วมทำวิจัยโครงการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าศาลายา ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก สวทช.เป็นเมืองในฝันที่จะนำความเจริญก้าวหน้า การคมนาคมขนส่งและสิ่งแวดล้อม ที่ดีสู่ชุมชนศาลายา
ในอนาคตอินอยากจะทำงานบริหารงานก่อสร้าง ซึ่งในบ้านเราและภูมิภาคอาเซียนยังต้องมีโครงการก่อสร้าง ทำอย่างไรจะดีไซน์อาคารให้เข้ากับลักษณะของพื้นที่ ประหยัดพลังงาน ทันสมัยและปลอดภัย สอดคล้องวิถีชีวิตชุมชนและมิติความยั่งยืน มหิดลเป็น กรีน ยูนิเวอร์ซิตี้ Green University ที่ร่มรื่น ทันสมัย มีการศึกษาที่เปิดกว้าง ทำให้คนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหา
“อยากใช้พลังเล็กๆ ของเราและเพื่อนๆ ช่วยเหลือสังคมค่ะ อินเคยไปสอนหนังสือเด็กกำพร้าบ้านหทัยรักษ์ ใกล้คลองสามวา รู้สึกได้เลยว่าการศึกษาจะช่วยสร้างชีวิตและอนาคตที่ดีให้กับเด็กๆ อีกมากค่ะ”
“ขอเป็นกำลังใจให้หนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ไปให้ถึงฝัน”