‘กาแล็กซีโน้ต 10’ ที่สุดของมือถือซัมซุง : ข่าวสดหลากหลาย

โดย จันท์เกษม รุณภัย

‘กาแล็กซีโน้ต 10’ ที่สุดของมือถือซัมซุง – มาตามความคาดหมายของเหล่ากูรูไอที ซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อก้องโลกจากประเทศเกาหลีใต้เพิ่งเปิดตัวเรือธงแฟ็บเล็ตตัวใหม่ กาแล็กซี โน้ต 10 ที่ศูนย์ประชุมบาร์กเลย์ ย่านบรู๊กลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยถือเป็นครั้งแรกที่กาแล็กซีโน้ตซีรีส์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของผลิตภัณฑ์ระดับโอเวอร์คิลล์จากซัมซุงจะวางจำหน่ายพร้อมกันถึง 3 รุ่น

กาแล็กซี โน้ต 10 ซีรีส์ แบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่ กาแล็กซี โน้ต 10 (Galaxy Note 10) กาแล็กซี โน้ต 10 พลัส (Galaxy Note 10+) และ กาแล็กซี โน้ต 10 พลัส 5จี (Galaxy Note 10+ 5G) คาดว่าจะมีวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 2 รุ่นแรกก่อน บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดให้เริ่มจองกันแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ส.ค. 2562

ดีเจ โคห์ ประธานและซีอีโอ ซัมซุงอิเลคทรอนิกส์

หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED

เว็บไซต์เทคเรดาร์ ระบุว่า ซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 10+ มีหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED ขนาดใหญ่โตถึง 6.8 นิ้ว ออกแบบสไตล์ Infinity-O คือ มีเจาะรูไว้ที่ส่วนบนของจอภาพเพื่อเป็นที่อยู่ของกล้องเซลฟี่

โน้ต 10+ และโน้ต 10 พร้อมปากกาเอส-เพ็น

ความละเอียดสูงสุดระดับ QHD+ (1,440×3,040 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซล 498 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 19:9 และสัดส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องมากถึงร้อยละ 91

จอภาพนั้นขอบบนและขอบล่างเหลือเพียงนิดเดียว รวมทั้งจอภาพยืดไปจนแทบจะถึงมุมของเครื่อง ผสานกับขอบโค้งมน ที่ด้านข้าง แลดูแทบจะกลมกลืนไปกับตัวเครื่องมาก

กาแล็กซี โน้ต 10 มีหน้าจอแบบ Dynamic AMOLED แต่ลดขนาดลงเหลือ 6.3 นิ้ว ออกแบบสไตล์ Infinity-O เช่นเดียวกัน และมีความละเอียดลดลงเหลือ FHD+ (1,080×2,280 พิกเซล) ความหนาแน่นพิกเซลเหลือ 401 ppi อัตราส่วนภาพเท่ากัน

บรรยากาศครึกครื้น

และสัดส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องร้อยละ 90.9 รองรับระบบภาพ HDR10+ เหมือนกันทั้งคู่ พร้อมเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือแบบเทคโนโลยีอัลตราโซนิกในจอภาพ

สําหรับวัสดุที่ใช้นั้นยังคงเป็นกระจกกอริลลากลาสกับอะลูมิเนียมเกรดอากาศยานที่มีความทนทานสูงตามแบบฉบับแฟ็บเล็ตระดับพรีเมียม โดยโน้ต 10+ มีขนาดกว้าง 77.2 ยาว 162.3 และหนา 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม และโน้ต 10 มีขนาดกว้าง 71.8 ยาว 151 และหนา 7.9 ม.ม. เท่ากัน แต่มีน้ำหนักเบากว่าอยู่ที่ 168 กรัม ทั้งสองรุ่นผ่านมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น

ที่ขอบล่างเป็นที่อยู่ของ USB-C ลำโพงสเตอริโอรองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos/AKG sound และปากกา S-Pen

ใช้งานแบบเขียน

ปุ่มด้านขวาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และด้านซ้ายหากกดสั้นๆ จะทำหน้าที่เปิด-ปิดเครื่อง แต่หากกดแช่ไว้จะเรียกปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ Bixby ขึ้นมา

ส่วนช่องใส่ซิมการ์ดนั้นรองรับ 2 ซิมแบบนาโน และการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1 เทร่าไบต์ (TB) เฉพาะในรุ่นโน้ต 10+ เท่านั้น

แต่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คือ การที่ กาแล็กซี โน้ต 10 ซีรีส์ ไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบมินิแจ๊กขนาด 3.5 ม.ม. ด้วยข้อจำกัดทางวิศวกรรมจากการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ในโน้ต 10+ เป็น 4,300 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) และโน้ต 10 เป็น 3,500 mAh

สีต่างๆ

เทคเรดาร์ ระบุว่า กาแล็กซี โน้ต 10+ เมื่ออยู่ในมือนั้นให้ความรู้สึกจับถือได้ง่ายและมีความพรีเมียมสูง โดยหนึ่งในความประทับใจต่อเรือธงแฟ็บเล็ตจากซัมซุงในปีนี้เป็นการออกแบบสีที่ทางซัมซุงจะปล่อยออกมาช่วงแรก 3 สี ได้แก่ ออร่า โกลว์ (Aura Glow) ออร่า ไวต์ (Aura White) และออร่า แบล็ก (Aura Black) โดยเฉพาะสีออร่า โกลว์นั้นโดดเด่นอย่างมาก เพราะเป็นการไล่สีแบบเกรเดียนต์จากฟ้าไปขาวเมื่อโดนแสงจะเปล่งประกายเฉดสีออกมาหลายสี แลดูตื่นตาตื่นใจมาก

สีออร่า โกลว์ สวยสะดุดตา

หน้าจอแสดงผลของโน้ต 10+ นั้นมีขนาดใหญ่ สว่างไสว คมชัด และให้สีสันที่เปล่งปลั่งฉูดฉาด มีคอนทราสต์สูง ตามสไตล์จอ AMOLED จากซัมซุง ทำให้การรับชมคอนเทนต์ ผ่านจอของโน้ต 10+ ดูงดงามตระการตายากที่จะหาสมาร์ตโฟน รุ่นไหนมาแข่งได้

ยูเอสบี ไทป์-ซี

ด้านขุมพลังของกาแล็กซี โน้ต 10+ รุ่นที่จะจำหน่ายในไทยจะใช้ชิพประมวลผล (SoC) รุ่น Exynos 9825 จากค่ายซัมซุง ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ Octa-core ความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2.73 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 2 คอร์ 2.4 GHz จำนวน 2 คอร์ และ 1.9 GHz สำหรับที่เหลืออีก 4 คอร์ หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น Mali-G76 MP12

หน่วยความจำแรม 12 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 256/512 GB แต่สำหรับโน้ต 10 จะมีแรมสูงสุด 8 GB และ ROM เพียง 256 GB เท่านั้น โดยสนับสนุนการชาร์จแบบ 45W Super Fast Charge ที่ผู้ใช้ต้องซื้อปลั๊กชาร์จต่างหาก สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลา 1 ชั่วโมง และสามารถชาร์จไร้สายได้ทั้งมาตรฐาน Qi และ PMA

กล้องถ่ายภาพ

กาแล็กซี โน้ต 10+ มีกล้องถ่ายภาพที่คล้ายคลึงกันกับสมาร์ตโฟนเรือธงปัจจุบันใน เอส ซีรีส์ ได้แก่ กล้องอัลตราวายความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (MP) ขนาดรูรับแสง f/2.2 กล้องหลักความละเอียด 12MP f/2.2 และกล้องเทเลโฟโต้ 12M f/2.1 ทำงานผสานกัน แต่โน้ต 10+ นั้นมีความพิเศษกว่าโน้ต 10 ตรงที่มีเทคโนโลยี DepthVision โดยมีเซ็นเซอร์วัดค่าความลึกที่มากกว่า อาทิ เซ็นเซอร์ ToF (Time-of-flight) ทำให้ภาพที่ได้จากเทคนิค Bokeh (เลนส์ละลาย) และการแยกภาพหน้าหลังมีความสมจริงมากกว่า

ทั้งสองรุ่นยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Live Focus Video ทำให้ผู้ใช้ปรับเทคนิค Bokeh ในคลิปวิดีโอได้ และ Zoom-In Mic ซึ่งจะบังคับให้ไมโครโฟนของเครื่องโฟกัสการจับเสียงไปที่จุดที่กล้องโฟกัสอยู่ขณะอัดคลิปวิดีโอด้วย

เคสหลากสี

ไฮไลต์สำคัญของ กาแล็กซี โน้ต 10 ซีรีส์ อยู่ที่ปากกา S-Pen รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่อง โดยปีนี้สร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชนไอทีด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า แอร์ แอ๊กชันส์ (Air Actions) โดยเดอะเวิร์จ เปรียบเทียบว่าเป็นการเปลี่ยนปากกาให้กลายเป็นไม้กายสิทธิ์ ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้ด้วยการ กวัดแกว่ง S-Pen แบบไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธพลังงานต่ำ (BLE)

ปากกา S-Pen

ปากกา S-Pen ใหม่นี้มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่เพิ่มขึ้น อาทิ six-axis motion sensor, accelerometer และ gyroscope ทำให้ปากกาสามารถรับรู้ทิศทางและลักษณะการหยิบจับกวัดแกว่งได้อย่างแม่นยำ นำไปสู่การควบคุมหน้าจอและแอพพลิเคชั่นพื้นฐานต่างๆ เช่น การสะบัดขึ้นลงของปากกาเบาๆ เพื่อสลับไปมา ระหว่างกล้องหลังกับเซลฟี่

ปากกาเอส-เพ็น

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างการเปลี่ยนอักษรที่ผู้ใช้เขียนลงไปด้วย S-Pen ไปเป็นอักษรระบบดิจิตอล ทำให้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งอักษรได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ทั้งยังสามารถบันทึก และเปลี่ยนนามสกุลไฟล์เป็นฟอร์แมตอื่นๆ อย่างไมโครซอฟท์ เวิร์ด ได้ด้วย!

ยังไม่หมดเท่านั้นปากกา S-Pen ได้รับการอัพเดตใหม่ให้ใช้งานกับการตัดต่อวิดีโอได้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดต่อ โดยทางซัมซุงระบุว่า ปากกา S-Pen นั้นสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานประมาณ 1 ชั่วโมง ภายในมีซูเปอร์ คาปาซิเตอร์ที่สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 40 วินาที หลังใส่เข้าไปในเครื่อง

แกเร็ธ บีวิส ผู้เชี่ยวชาญจากเทคเรดาร์ ระบุว่า แอร์ แอ็กชันส์ แม้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่เสียทีเดียว แต่ถือเป็นการเปิดประตูไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ที่น่าตื่นเต้นของสมาร์ตโฟน โดยเฉพาะในช่วงที่เทคโนโลยีอักเมนต์ เรียลลิตี้ หรือเออาร์ กำลังมาแรง โดยการเปลี่ยน S-Pen เป็นไม้กายสิทธิ์เพื่อใช้ควบคุมสมาร์ตโฟนนั้นสามารถเป็นพื้นฐานไปสู่การปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับเทคโนโลยีเออาร์

อย่างไรก็ดี ซัมซุง จำเป็นที่จะต้องผลักดันให้บรรดาผู้พัฒนาทั่วโลกมาเข้าร่วมมากกว่านี้เกี่ยวกับ S-Pen เพื่อจุดระเบิดกระแสใหม่ทางเทคโนโลยีดังกล่าวให้เกิดขึ้น

แอนดรอยด์อูธอรีตี มองว่า ซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 10 ซีรีส์ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทางค่ายมุ่งหวังให้มากอบโกยกำไรชดเชยให้บริษัท หลังซัมซุงประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สองปีนี้ มีกำไรหดตัวลงมากถึงร้อยละ 55.6 คิดเป็นมูลค่า 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.7 แสนล้านบาท เทียบกับเมื่อไตรมาสสองของปี 2561 ที่ซัมซุงมีกำไรถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.8 แสนล้านบาท

สาเหตุมาจากยอดจำหน่ายของเรือธงกาแล็กซี เอส 10 ลดลง สวนทางกับรายจ่ายค่าโฆษณาสูงขึ้น

เคาน์เตอร์ รีเสิร์ช บริษัทด้านการตลาดชื่อดัง คาดการณ์ว่า ยอดจำหน่ายของเครื่องแฟ็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ของซัมซุงจะอยู่ที่ราว 9.7 ล้านเครื่องภายในสิ้นปีนี้ ใกล้เคียงกันกับรุ่นกาแล็กซี โน้ต 9 และต่ำกว่ารุ่นโน้ต 8 ที่มียอดจำหน่ายกว่า 10 ล้านเครื่อง

แต่ถูกมองว่าเป็นผลมาจากความอัดอั้นของบรรดาสาวกหลังกรณีแบตในโน้ต 7 หลายเครื่องระเบิดเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก

ซัมซุงไทยเปิดให้จองล่วงหน้า ราคาเริ่มต้น 15,900 บาท พร้อมรับสิทธิ์ประกันจอแตกนาน 1 ปี เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย และเลือกเพิ่มความจุเป็น 512 GB เมื่อจองกาแล็กซี โน้ต 10 พลัส รุ่นความจุ 256 GB หรือเลือกรับหูฟังไร้สาย กาแล็กซี บัดส์ มูลค่า 4,990 บาทฟรีเมื่อจองกาแล็กซี โน้ต 10

สำหรับกาแล็กซี โน้ต 10 สนนราคาที่ 32,900 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura Pink และ Aura Black ถัดมา เป็นกาแล็กซี โน้ต 10 พลัส ความจุ 256 GB ราคา 37,900 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura White และ Aura Black

สุดท้ายเป็นกาแล็กซี โน้ต 10 พลัส ความจุ 512 GB ราคา 40,900 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Aura Glow, Aura White และ Aura Black สำหรับรีวิวฉบับเต็มจากข่าวสด ติดตามได้ ที่นี่ เร็วๆ นี้