เฟซบุ๊กเมินสมาชิกแห่ลาออก เดินหน้าผุดเงินคริปโตลิบรา/ พบผู้ใช้วินโดวส์ 7 ถูกโจมตีพุ่ง / อินเทลผุดไฮเปอร์เธรดดิ้งในซีพียู Core i3 บนพีซี

คอลัมน์ แวดวงไอที

เฟซบุ๊กเมินสมาชิกแห่ลาออก เดินหน้าผุดเงินคริปโตลิบรา

เฟซบุ๊ก

บีบีซีรายงานว่า เฟซบุ๊ก ผู้พัฒนาแพล็ตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังก้องโลก ยืนยันว่าจะยังเดินหน้าสร้างสกุลเงินออนไลน์ใหม่ลิบรา” (Libra) โดยจะเริ่มใช้ในช่วงต้นปีหน้า ภายหลังสมาชิกกลุ่มผู้ก่อตั้งทยอยถอนตัวส่งผลให้เหลือสมาชิกสมาคมเงินคริปโตลิบราเพียง 21 องค์กร จากเดิม 28 องค์กร ท่ามกลางคำเตือนจากบรรดาสถาบันการเงินของกลุ่มชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 7 ชาติ หรือจี 7 ที่ระบุว่ามีความเสี่ยงที่สกุลเงินไซเบอร์ดังกล่าวอาจทำลายเสถียรภาพของสกุลเงินหลักทั่วโลก

บรรดาองค์กรที่ประกาศถอนตัวออกจากสมาคมเงินคริปโตลิบรา ได้แก่ วีซ่า มาสเตอร์การ์ด สไตร์ป อีเบย์ เปย์ปอล เมอร์ ซาโด และปาโก โดยการประกาศเกิดขึ้นก่อนหน้าการประชุมครั้งแรกของสมาคมที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้นักวิเคราะห์มองว่า สกุลเงินคริปโตใหม่ที่ไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเสรีจาก เฟซบุ๊กอาจไปไม่รอด

อินเทลผุดไฮเปอร์เธรดดิ้งในซีพียู Core i3 บนพีซี

เฟซบุ๊ก

เอ็กซ์ตรีมเทครายงานว่า อินเทล ผู้พัฒนาหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเตรียมเปิดตัวซีพียูตระกูล Core series รุ่นที่ 10 สำหรับคอมพิวเตอร์พีซี มีรหัสพัฒนาสถาปัตยกรรม ภายในว่า คอเม็ต เลก (Comet Lake) จะมีเทคโนโลยี Hyper-Threading (HT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เทียบเท่าการจำลองปริมาณแกนประมวลผล ส่งผลให้ 1 คอร์ของซีพียูสามารถประมวลผลได้เกือบเทียบเท่า 2 คอร์ มาไว้ในรุ่นคอร์ ไอ 3 ซึ่งเป็นซีพียูในตลาดคอมพิวเตอร์ระดับล่าง ใช้พิมพ์งาน เล่นอินเตอร์เน็ตทั่วไป

รายงานเกิดขึ้นหลังภาพสเป๊กจากแอพพลิเคชั่น SiSoft Sandra ที่ระบุถึงซีพียู Core i3-10100 จะมีแกนประมวลผล 4 คอร์ แต่สามารถรันได้ 8 เธรด สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงไอที เนื่องจากเทคโนโลยีเอชทีนั้นปกติแล้วจะมีอยู่ในซีพียูระดับ Core i5 ขึ้นไปเท่านั้น โดยเว็บไซต์ Gadget360 คาดว่าจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าซีพียูระดับ Core i7-7700K (รุ่น 7)

พบผู้ใช้วินโดวส์ 7 ถูกโจมตีพุ่ง

เฟซบุ๊ก

มายบรอด แบนด์ราย งานว่า บริษัทศึกษาด้านความปลอดภัยโลกไซเบอร์ เว็บรูต (Webroot) ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยข้อมูลพบผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ซึ่งทางไมโครซอฟท์เตรียมยุติให้บริการอัพเดตและสนับ สนุนภายในต้นปีหน้ามีอัตราการถูกโจมตีสูงกว่าผู้ใช้วินโดวส์ 10 โดยการโจมตีต่อวินโดวส์ 7 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71 ตั้งแต่ปี 2561 เช่นเดียวกันกับเว็บไซต์ที่พุ่งเป้าโจมตีด้วยไวรัสต่อวินโดวส์เวอร์ชั่นดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ทั่วไปร้อยละ 64 ส่วนคอมพิวเตอร์ของสำนักงานมีเพียงร้อยละ 36

รายงานระบุว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้โอเอส วินโดวส์ 7 มีอัตราการติดไวรัสสูงกว่าวินโดวส์ 10 เป็นสองเท่า ขณะที่ทางไมโครซอฟท์นั้นแนะนำให้ผู้ใช้อัพเกรดไปเป็นวินโดวส์ 10 ก่อนวันที่ 14 .. 2563 ซึ่งจะเป็นวันยุติการบริการทางเทคนิคทั้งหมดจากไมโครซอฟท์ต่อโอเอสยอดนิยมรุ่นนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน