เมื่อวันที่ 26 ก.ค. บีบีซีรายงานว่ารัฐบาลอังกฤษเตรียมแผนห้ามจำหน่ายรถยนต์และรถตู้ที่ใช้น้ำมันดีเซลตั้งแต่ปี 2583 เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหามลภาวะทางอากศ
รัฐบาลอังกฤษเตรียมงบประมาณจำนวนกว่า 225 ล้านปอนด์หรือประมาณกว่า 11,114 ล้านบาทเพื่อรับมือกับแผนการปล่อยไอเสียจากยานพาหนะที่ใช้พลังงานดีเซล และทางรัฐบาลก็จะมีการตีพิมพ์แผนยุทธศาสตร์ในการรักษาสภาพอากาศ ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และอาจประกาศแผนยุทธศาสตร์ได้ในเดือนพฤษภาคมของปีหน้า
ชาร์ตแสดงการลงทะเบียนรถใหม่ในอังกฤษปี 2553-2559 สีเขียวเข้มคือรถใช้น้ำมันดีเซล / BBC
นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังสั่งการให้ศาลออกแผนเตรียมรับมือกับการดำเนินกฎหมายด้านการทำลายสภาพอากาศที่เกิดจากการละเมิดกฎหมายปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดอ็อกไซด์เกินระดับที่กำหนด
ส่วนท่าทีต่อหน่วยงานรัฐท้องถิ่นที่จะต้องจัดหารถบัสโดยสารที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของถนนไม่ว่าจะเป็นลูกระนาดชะลอความเร็ว และการจัดโปรแกรมสัญญาณไฟจราจรใหม่เพื่อให้รถยนต์เคลื่อนตัวได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัดเกินไป
ระดับไนโตรเจนออกไซด์จากรถใช้ดีเซลชนิดต่างๆ บนท้องถนน / BBC
ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษ อย่างสมาคมผู้ผลิตยานยนต์และผู้ค้าระบุว่ายังมีความจำเป็นอย่างยิ่งจากรัฐบาลที่ต้องหลีกเลี่ยงการสั่งห้ามโดยฉับพลับในการใช้รถยนต์ดีเซล ซึ่งหากมีการสั่งห้ามจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมยานยนต์
นายไมก์ ฮาวส์ ผู้บริหารสมาคมระบุว่า ปัจจุบันความต้องการในการใช้ยานพาหนะพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ
“ในอุตสาหกรรมยานยนต์เราต้องการมาตรการแง่บวกสำหรับการส่งเสริมให้ผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์ ซึ่งเราอาจจะเป็นตัวถ่วงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษก็ได้ หากรัฐบาลให้เวลาเราไม่เพียงพอต่อการปรับตัว” นายฮาวส์กล่าว
ทั้งนี้การประกาศของรัฐบาลอังกฤษเกิดขึ้นหลังจากมีสัญญาณในการกระตุ้นให้เปลี่ยนจากการใช้รถยนต์พลังงานน้ำมันเป็นพลังงานไฟฟ้า หลังจากที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้มีท่าทีก่อนหน้านี้ว่าจะสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำภายในปี 2583
