ดร.ร็อกโก พาลัมโบ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา แบ่งกลุ่มนักเรียนหญิงระดับมัธยมศึกษาจำนวน 186 คน ออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อทำกิจกรรมที่เชื่อว่าสามารถปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปในทิศทางบวก กลุ่มแรก ฟังเพลงที่ชอบ กลุ่มสอง ระบายสีรูปวาดใบหน้าผู้คน และ กลุ่มสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้ทาลิปสติก หรือ ลิปมันตามต้องการ จากนั้นทำข้อสอบเกี่ยวกับจิตวิทยา และนำผลมาเปรียบเทียบกัน
ปรากฏว่ากลุ่มนักเรียนที่ทาลิปสติกมีคะแนนสูงสุดในการประเมินอารมณ์เชิงบวก ทั้งทัศนคติ ลักษณะนิสัย มุมมองต่อสิ่งรอบตัว และระดับความมั่นใจในตัวเองที่มากกว่าเพื่อนๆ กลุ่มอื่นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นปฏิกิริยา “ลิปสติก เอฟเฟ็กต์” ช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ในกลุ่มนี้เปิดรับการเรียนรู้ และทำคะแนนสอบวัดผลความรู้พื้นฐานได้มากกว่าคะแนนเฉลี่ย รวมถึงมากกว่ากลุ่มที่ฟังเพลง และระบายสี
การศึกษากรณีลิปสติก เอฟเฟ็กต์ ก่อนหน้านี้ ยังระบุว่าการใช้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะลิปสติก สามารถลดความตึงเครียดจากภาวะเศรษฐกิจทรุดตัว ซึ่งมีอัตราการจ้างงานที่ต่ำลง และการทาลิปสติกทำให้ผู้ใช้มีความสุข และความมั่นใจมากกว่าได้ใส่รองเท้าราคาแพง หรือผ้าพันคอผืนสวนผืนใหม่เสียอีก
