“มัธธาณะ รอดยิ้ม”

ไทยแลนด์ 4.0 อีกหนึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลพูดถึงตลอดกับการพัฒนาชาติด้วยนวัตกรรม ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว.จัดงาน 25 ปี สกว. สร้างคน สร้างความรู้ สร้างอนาคต ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ 2 ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ

เวทีเสวนา “ปฏิรูปประเทศด้วยนวัตกรรม” มีผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิมาพูดในงานสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมพัฒนาประเทศ เป็นหนึ่งในงานนี้

นายจาง ควายทอง ประธานบริษัทควายทอง นิวเอ เนอร์จี จำกัด ผู้ประกอบการสัญชาติจีนที่ย้ายมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่วัยเด็กจนก้าวเข้ามาสู่การทำธุรกิจด้านเครื่องมือการเกษตร เล่าถึงประสบการณ์และแนวทางการทำธุรกิจลักษณะ 4.0

เริ่มต้นจากการที่ไม่มีโรงงานของตัวเอง แต่ใช้โรงงานจีนในการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง แล้วเข้ามาทำธุรกิจด้านเครื่องมือการเกษตรเนื่องจากเห็นช่องทางในการทำตลาด และอยากยกระดับเกษตรกรให้สร้างผลผลิตได้ดีมากขึ้น พร้อมกับมองว่าประเทศจะพัฒนาได้หากพื้นฐานมั่นคง อย่างประเทศที่พัฒนาแล้วเกษตรกรมักจะร่ำรวย

“เริ่มเอาจากหญ้าก่อน รากหญ้าคือรากแก้ว หากไม่ดีคนที่อยู่ข้างบนก็จะมีความทุกข์” ประธานบริษัทควายทองกล่าวและว่า หากเกษตรกรยังใช้นวัตกรรมลักษณะเช่นเดิม ผลผลิตก็ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เพิ่มพูนขึ้น ดังนั้นการใช้นวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนจึงจำเป็นต้องนำมาปรับใช้

นายจางย้ำว่าส่วนสำคัญที่สุดคือ “หากไม่มีการใช้นวัตกรรม ประเทศก็จะไม่เปลี่ยนแปลง”

เฉลิมพล ปุณโณทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท CT Asia Robotics Co.,Ltd. ธุรกิจซอฟต์แวร์และทำ “ดินสอ” หุ่นยนต์สัญชาติไทยบุกตลาดญี่ปุ่น โดยมีฐานคิดมาจากที่เยาวชนไทยเก่งทำหุ่นยนต์จึงหันมาทำเมื่อ 8 ปีที่แล้ว

หนึ่งในนวัตกรรมไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นและให้บริการในบ้านพักคนชราที่ใช้ในการให้ความบันเทิงหรืออำนวยความสะดวกให้ทั้งคนชราที่มาพักพิงในสถาน ครอบครัว หรือ แพทย์ หรือกระทั่งทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าในบ้านพักคนชรา

เฉลิมพลเล่าว่าการทำนวัตกรรมนี้ เกิดจากอุดมการณ์มันเป็นตัวขับ ที่ว่าคนไทยสู้กับคนต่างชาติได้ แต่ความคิดคนไทยถูกพันธนาการด้วยความเชื่อที่ว่าทำไม่ได้

“เราได้ทุนสกว. มาวิจัยต่อยอด ตอนแรกไม่มีใครมาสนับสนุนแต่พอเริ่มสำเร็จก็มีสนับสนุนบ้าง เราไม่เลียนแบบ คิดกฎเกณฑ์ สร้างชุดการแข่งขันของเราเองขึ้นมา หากเลียนแบบก็ไปไม่รอด ส่วนการทำแผนการค้าถ้าไม่ส่งไปญี่ปุ่นก็ยากที่จะสร้างความเชื่อใจ เพราะญี่ปุ่นเป็นชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องหุ่นยนต์ ต้องเน้นการคิดนอกกรอบแบบมียุทธวิธี” เฉลิมพลกล่าว

นายเฉลิมพลมองว่าสินค้าที่มีพื้นมาจากงานวิจัยต้องมีบริษัทที่ผลิตสินค้านวัตกรรม ถ้าเป็นไปได้ควรจะด้านการแพทย์ หุ่นยนต์ อาหารและดิจิตอล มารวมกันในการผลิตสินค้าด้านนวัตกรรมและต่อยอดโดยการคิดนวัตกรรมขั้นสูงรอวิจัยไว้ล่วงหน้า และย้ำว่าคนไทยต้องเลิกเชื่อว่าทำไม่ได้ ซึ่งมันดึงศักยภาพคนไทยไว้ หากเอาเรื่องนี้ออกได้ คนไทยจะทำอะไรได้อีกมากมาย

นาวาตรีดร.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรมสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์มองว่าไทยแลนด์ 4.0 จะลำบากเพราะทุนต่างชาติเข้ามาเยอะมากและปัญหาในอนาคตของไทยเกิดขึ้นอย่างเก่งมีความสามารถโดนดูดออกไปทำงานนอกประเทศ

ดังนั้นการมุ่งสู่ไทยแลนด์ 4.0 รัฐบาลต้องเปิดกฎหมายเรื่องนวัตกรรมบางอย่างให้ถูกกฎหมาย อย่างเรื่องง่ายๆ เช่น แท็กซี่อูเบอร์เป็นเรื่องถูกกฎหมายในมาเลเซีย

ไทยแลนด์ 4.0 จะไม่ฝันเฟื่อง ต้องมีการร่วมมือกันทำ ร่วมกันคิดพูดคุยกันเพื่อหาแนวคิดนวัตกรรม ซึ่งนวัตกรรมไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่แต่อย่างใด ที่สำคัญต้องไม่เชื่อว่าสิ่งที่มีอยู่ดี หรือใช้ได้ เผชิญหน้ากับความผิดพลาด และหาทางแก้ไขมัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน