บีบีซีรายงานว่า ซัมซุง เจ้าแห่งวงการอุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นนำของโลก สัญชาติเกาหลีใต้ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซัมซุง โอดิสซีย์ (Samsung Odyssey) เป็นแว่นตาเวอร์ชวล เรียลลิตี หรือวีอาร์ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของค่ายไมโครซอฟท์ได้ จะวางขายวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ในราคา 500 ดอลลาร์ หรือราว 16,500 บาท
ซัมซุงระบุว่า จุดเด่นของแว่นตาโอดิสซีย์อยู่ที่การใช้จอแสดงผลเทคโนโลยี OLED ส่งผลให้สีสันฉูดฉาด มีสีดำลึกสมบูรณ์ และมีองศาการมองที่กว้างกว่าแว่นตาวีอาร์ของแบรนด์อื่น
การเปิดตัวแว่นตาวีอาร์สำหรับโอเอส วินโดวส์ เกิดขึ้นหลังการเปิดตัวอย่างเกรียวกราวของค่ายเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อื่นๆ อาทิ เดลล์ เอชพี เลอโนโว เอเซอร์ และเอซุส ซึ่งทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ควบคุมสื่อวีอาร์บนแพล็ตฟอร์ม
ทางไมโครซอฟต์เรียกรวมว่า มิกซ์ เรียลลิตี้ (Mixed Reality) หรือเอ็มอาร์ ที่รวมเอาทั้งวีอาร์ ที่เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมใหม่ให้ผู้ใช้ และอักเมนต์ เรียลิตี้ หรือเออาร์ ที่เป็นการผสมภาพจำลองเข้ามาในสภาพแวดล้อมจริง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตั้งคำถามถึงขนาดของตลาดผู้บริโภคแบบเอ็มอาร์ที่อาจยังมีไม่เพียงพอกับบรรดาผู้ดำเนินธุรกิจ โดยแว่นตาวีอาร์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีเพียง 2 แบรนด์ ได้แก่ เอชทีซี ไวฟ์ (HTC Vive) และออคคูลัส ริฟต์ (Oculus Rift) จากเฟซบุ๊ก
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยการตลาด ซูเปอร์ดาต้า รีเสิร์ช บ่งชี้ว่า แว่นตาทั้งสองแบรนด์เพิ่งขายไปได้รวมกัน 1 ล้านชุดทั่วโลก และอยู่ระหว่างการปรับลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่แว่นตาวีอาร์จากซัมซุงซึ่งใช้ร่วมกับสมาร์ตโฟนของทางค่ายอย่างซัมซุง เกียร์ วีอาร์ (Samsung Gear VR) ขายไปแล้วกว่า 8 ล้านชุดทั่วโลก
นายเควิน จอยซ์ นักวิเคราะห์เว็บไซต์ วีอาร์ โฟกัส กล่าวว่า เทคโนโลยีวีอาร์เป็นสื่อที่มีประโยชน์ แต่ยังมีอุปสรรคขวางกั้นการเข้าถึงของผู้บริโภคอยู่ เช่น ราคาแพง และซอฟต์แวร์ที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมไปถึงคอนเทนต์หลายอย่างที่ยังไม่น่าดึงดูด แต่ในระยะยาวอุปสรรคเหล่านี้จะทยอยได้รับการแก้ไข
ในระยะสั้นผู้พัฒนาบางค่ายอาจประสบปัญหาผลตอบแทนที่ไม่ดีจนต้องยุติโครงการพัฒนา โดยเฉพาะค่ายที่กำลังต้องการผลกำไรตอบแทนในระยะสั้น