เข้าสู่ช่วงโค้งท้ายๆ ของปี 2560 ค่ายวันพลัสจากประเทศจีนซึ่งนิยมเปิดตัวผลิตภัณฑ์โดดเด่นปีละ 2 เครื่องแบบหัวปีท้ายปี ได้ฤกษ์เปิดตัวเรือธงตัวใหม่
สำหรับปลายปีนี้ส่ง วันพลัส 5 ที (OnePlus 5T) มีจุดเด่นตามเทรนด์ของปี นั่นคือหน้าจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้าในอัตราส่วน 18 ต่อ 9
เว็บไซต์ข่าวไอทีแอนดรอยด์อูธอริตี รายงานผลการสัมผัสกับเครื่องและนำประสบการณ์แฮนด์ส-ออนมาให้พิจารณากัน
การเปิดตัวเครื่อง วันพลัส 5 ที นั้นเกิดขึ้นแม้ทางค่ายควอลคอมม์ ผู้พัฒนาชิพประมวลผล หรือ SoC ยังไม่ได้อัพเดตไลน์อัพใหม่ต่อจาก SoC เรือธง ของทางค่ายรุ่น Snap dragon 835 ส่งผลให้ทางค่ายวันพลัสชูจุดเด่นของเครื่องไปที่หน้าจอแสดงผลซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยเทคโนโลยีจอ AMOLED (อะโมเลด) ที่ได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในสมาร์ตโฟนขณะนี้
เพราะ AMOLED ให้สีสันที่จัดจ้าน ความสว่างที่มหาศาล และสีดำแท้ เนื่องมาจากการทำงานแบบรายพิกเซล มีผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด คือ ซัมซุง แห่งเกาหลีใต้
หน้าจอแสดงผลของวันพลัส 5 ที มีขนาด 6.01 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี AMOLED ความละเอียดหน้าจอแบบ Full HD+ บนอัตราส่วนจอภาพ 18 ต่อ 9 แลดูเกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้าของเครื่อง
แม้ความหนาแน่นพิกเซลจะไม่ได้โดดเด่น แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วกับผู้ใช้ทั่วไป โดยทางค่ายวันพลัสยังออกแบบมุมทั้ง 4 ด้านของเครื่องให้มีความโค้งเว้าไม่เหมือนกับเครื่องวันพลัส 5 แต่เนื่องด้วยจอภาพที่เกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้าทำให้ทางค่ายต้องย้ายเซ็นเซอร์ตรวจลายนิ้วมือไปไว้ด้านหลังตรงกึ่งกลาง
ตำแหน่งของเซ็นเซอร์ก็เรียกว่าแล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่วันพลัส ระบุว่า เซ็นเซอร์ดังกล่าวของค่ายมีความเร็วสูงที่สุดในแวดวงสมาร์ตโฟน สามารถรับรู้ลายนิ้วมือผู้ใช้ได้ภายในเวลาไม่เกิน 0.2 วินาที
นอกจากนี้ วันพลัส 5 ที ยังมาพร้อมกับระบบปลดล็อกเครื่องด้วยใบหน้า โดยเครื่องจะใช้กล้องถ่ายภาพด้านหน้าในการตรวจสอบใบหน้าผู้ใช้ โดยจากการทดสอบของแอนดรอยด์อูธอริตีพบว่า ทำงานได้รวดเร็วมาก แต่ยังขาดความแม่นยำ เพราะบางครั้งกล้องไม่สามารถตรวจสอบใบหน้าได้ถูกต้อง แต่ทางวันพลัสระบุว่าหากใช้บ่อยๆ ก็จะดีขึ้นเอง เพราะซอฟต์แวร์นั้นเรียนรู้ได้
อีกหนึ่งการออกแบบที่เห็นถึงความแตกต่างชัดเจนกับรุ่นวันพลัส 5 นั่นคือ ความนูนของกล้องถ่ายภาพแบบคู่ที่ด้านหลังของวันพลัส 5 ที ซึ่งมีความนูนออกมาจากตัวเครื่องมากกว่าเล็กน้อย โดยทางวันพลัสชี้แจงว่าเป็นผลมาจากการเพิ่มอัตราส่วนจอภาพต่อเครื่องทำให้เหลือพื้นที่น้อยลงสำหรับใส่ชิ้นส่วนของกล้องถ่ายภาพ ผู้ที่รับไม่ได้กับความนูนของกล้องด้านหลังสมาร์ตโฟนสามารถข้ามรุ่นนี้ไปได้เลย
ด้านกล้องถ่ายภาพของวันพลัส 5 ที เริ่มที่กล้องถ่ายภาพด้านหลังทางวันพลัสยังคงเซ็นเซอร์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลไว้เหมือนเดิมสำหรับเลนส์หลัก แต่เปลี่ยนเซ็นเซอร์ของเลนส์เทเลโฟโต้ หรือเลนส์ซูม ให้มีความละเอียดเป็น 20 ล้านพิกเซล และรูรับแสงขนาด เอฟ/1.7 เพื่อต้องการให้สามารถถ่ายภาพในที่ แสงน้อยได้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้เห็นความต่างระหว่างการซูมด้วยฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์มากขึ้น
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ คือ ควิก ช็อต (quick shot) ผู้ใช้กดปุ่มที่กำหนดไว้ 2 ครั้ง จะส่งผลให้เครื่องเปิดแอพ พลิเคชั่นถ่ายภาพพร้อมกับถ่ายภาพให้ทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่เหมือนกับสมาร์ตโฟนของค่ายอื่นที่ฟีเจอร์นี้จะเปิดแอพฯถ่ายภาพขึ้นมาให้เท่านั้น
ถือว่าสร้างสรรค์และเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาเล็งเพราะต้องการถ่ายภาพแบบปัจจุบันทันด่วน
เดวิด อิเมล ผู้ทดสอบจากแอนดรอยด์อูธอริตี กล่าวว่า ดีไซน์ตัวเครื่องของวันพลัส 5 ที ค่อนข้างเหมือนกันกับวันพลัส 5 ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งช่องเสียบหูฟังมินิแจ๊กนาด 3.5 มิลลิเมตร ช่องเสียบสาย USB Type-C และลำโพงแบบโมโนที่ด้านล่างตัวเครื่อง วัสดุอะลูมิเนียมที่ตัวเครื่องให้ความรู้สึกเหมือนกันกับวันพลัส 5 ผู้ที่ต้องการอัพเกรดควรพิจารณาเรื่องจอภาพเป็นหลัก
นายอิเมลกล่าวว่า วันพลัส 5ที ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.1 นูเก็ต จากกูเกิ้ลของสหรัฐอเมริกา และยังคงความดั้งเดิมของแอนดรอยด์ไว้ (วานิลลา) ไม่ได้ปรับแต่งหน้าตาแต่อย่างใด
ทางวันพลัสระบุว่าจะปล่อยอัพเดตโอเอสแอนดรอยด์ 8.0 โอรีโอ ให้กับวันพลัส 5 ที ภายในไตรมาสแรกของปี 2561 ต่อจากรุ่นวันพลัส 3ที และ 5 ที่จะได้รับโอรีโอกันภายในสิ้นปีนี้
วันพลัส 5 ที ใช้ขุมพลังจาก SoC ของค่ายควอลคอมม์ รุ่น Snapdragon 835 มีหน่วยความจำแรม 2 แบบ ได้แก่ 6 และ 8 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูล 64 และ 128 GB ตามลำดับ โดยโมเดลแรก (6GB RAM/32GB ROM) สนนราคาที่ 499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,000 บาท
ส่วนท็อปโมเดล (8GB RAM/128GB ROM) ราคา 559 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 18,000 บาท (ไม่รวม VAT) วางจำหน่ายแล้ววันนี้
สนใจศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://oneplus.net/5t
