เมื่อ 14 พ.ย. บีบีซีรายงานว่า จากการประเมินตัวเลขอุณหภูมิโลกถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ประจำองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO คาดการณ์ได้ว่า ปี 2559 หรือค.ศ.2016 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุด ทำลายสถิติเดิมของปีก่อน
อุณหภูมิเดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้สูงเกินช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.2 องศาเซลเซียส เทียบกับปี 2558 ที่สูงเกินค่าเฉลี่ยของช่วงปี 2503-2533 ที่ 0.77 องศา ดังนั้นถึงจะไม่นับ 3 เดือนที่เหลือ สถิติของปีนี้จะแซงปีที่แล้วอย่างแน่นอน
สำหรับสาเหตุ แม้มาจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนิโญ แต่ปัจจัยหลักยังคงเป็นเรื่องปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง
เพ็ตเทรี ทาลาส เลขาธิการ WMO กล่าวว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่เกิดสถิติใหม่ อุณหภูมิของปี 2558 ถูกทำลายโดยสถิติของปี 2559 หลังจากพื้นที่บางส่วนฝั่งอาร์กติกรัสเซีย อุณหภูมิสูงกว่า 6-7 องศาเป็นเวลานาน ส่วนพื้นที่อื่นๆ ฝั่งขั้วโลกเหนือ ทั้งในรัสเซีย รัฐอแลสกาของสหรัฐ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา มีอุณหภูมิสูงกว่าค่าเฉลี่ย 3 องศา
รายงานดังกล่าวตอกย้ำถึงสถานการณ์น้ำแข็งในทะเลอาร์กติกละลายสูงมาก และสะท้อนว่า ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงมากขึ้น ทั้งคลื่นความร้อน และน้ำท่วม จะเกิดขึ้นถี่มากกว่าปกติ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะก่อพายุไซโคลนมากขึ้น
ความน่าวิตกนี้ซ้ำเติมจากที่นักวิทยาศาสตร์พากันกังวลกับการมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา เพราะทรัมป์มีแนวนโยบายไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ต้องอาศัยมาตรการลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง
