กลยุทธการตลาด
โปร 1 แถม 1 ไม้เด็ดกระตุ้นยอดขาย คุ้มหรือไม่ที่จะเสี่ยงทำตาม ท่ามกลางกระแส โปร 1 แถม 1 ที่บรรดาแบรนด์อาหารฟาสต์ฟู้ดเบอร์ใหญ่ต่างแห่กระตุ้นยอดขายด้วยการแถมให้เต็มๆ แบบไม่มีข้อแม้ จนกลายเป็นว่าแบรนด์ไหนไม่ทำตามอาจมีสิทธิ์โดนทวงถามจากลูกค้า จนเกิดการรับลูกสร้างกระแส ข่มกันไปมาระหว่างแบรนด์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าเราลองย้อนกลับมามองในมุมผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ก็น่าคิดไม่ใช่น้อยว่าเราจะสามารถจัดโปรโมชันแบบนี้ได้หรือไม่ และถ้าจัดแล้วจะได้ผลกระตุ้นยอดได้หรือเปล่า รวมไปถึงความเสี่ยงที่เราต้องแบกรับไว้นั้นมีมากน้อยเพียงใด “คุ้มค่าคุ้มราคา” ปัจจัยสำคัญของ โปร 1 แถม 1 ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ การตัดสินใจจะซื้อสินค้าของผู้บริโภคมักจะขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นหลัก ยิ่งรู้สึกว่าคุ้มยิ่งทำให้ตัดสินใจที่จะซื้อง่ายขึ้น โปร 1 แถม 1 จึงถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับปัจจัยดังกล่าวได้เป็นอย่างดี อย่างที่เราจะเห็นได้จากแบรนด์พิซซ่าเจ้าหนึ่งที่ทำแคมเปญ 1 แถม 1 เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม หรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่มักจะจัดโปรแบบนี้ในช่วงสิ้นเดือน รับกับพฤติกรรมของผู้บริโภค
ธุรกิจขายตรงกว่า 7 หมื่นล้านบาท เป็นที่จับตามองอีกครั้ง เมื่อ “เอวอน”ขายตรงสัญชาติอเมริกา ประกาศถอนทัพออกจากตลาดเมืองไทย ตามหลัง สุพรีเดอร์ม และนูทรี เมติคส์ ที่ทยอยปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดย”ศุภราภรณ์ เอสซีเปา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้บอกถึงสาเหตุในการตัดสินใจครั้งนี้ ว่า หลังการทบทวนธุรกิจในไทยอย่างละเอียด แม้ว่าทีมงานจะทำงานหนักและใช้ความพยายามอย่างมาก แต่เอวอน ประเทศไทย ยังประสบปัญหาและไม่มีผลกำไรมาหลายปี ขณะที่มีรายงานด้วยว่า มาร์เก็ตไซซ์ของเอวอนในไทยมีขนาดเล็กกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ทำตลาดอยู่ ทั้งในแง่ของยอดขายและจำนวนนักขาย และก่อนหน้านี้ เอวอนได้ทยอยปิดกิจการในหลาย ๆ ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม ฝรั่งเศส เป็นต้น ขณะที่รายได้และกำไรในภาพรวมเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2555 แม้บริษัทแม่จะพยายามใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ที่มา มติชนออนไลน์