ขมิ้นชัน
หยิบสมุนไพรไทย มาทำเครื่องดื่มผง ชงฟื้นฟูปอด ทั้งช่วยกระตุ้นภูมิ ต้านอนุมูลอิสระได้ ในช่วงที่โควิด-19 ยังไม่จบ ไหนจะฝนตกอากาศเปลี่ยน ทำให้ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน จนทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ เพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้เปิดสูตร เครื่องดื่มผง ชงฟื้นฟูปอด โดยสมุนไพรในตำรับหลักๆ ประกอบด้วย “บัวบก” ช่วยลดการสร้างพังผืด ต้านการอักเสบ, “อบเชย” มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และ “ขมิ้นชัน” มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการอักเสบ มีสูตรและวิธีทำ ดังนี้ ส่วนประกอบ – ใบบัวบก 200 กรัม – ขมิ้นชัน 150 กรัม – อบเชย 150 กรัม – น้ำตาลทราย 250 กรัม วิธีทำ ล้างสมุนไพรทั้ง 3 ให้สะอาด ต้มน้ำ 1 ลิตร เมื่อน้ำเดือดใส่ขมิ้นชันหั่นเป็นแว่น และอบเชยลงไป ทิ้งไว้ 5 นาที จึงใส่บัวบกตามลงไป ต้มต่ออีก 15 นาที ปิดไฟกรองเอาแต่น้ำยาต้ม จากนั้น นำน้ำยาต้มมาเทลงในกระทะตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลพร้อมคนให้ละลายเข้ากันดี และกวนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนตัวยาเริ่มเกาะกันเป็นเกล็ดให้ปิดไฟ แล้วกวนต่อเนื่องให้เร็วๆ จนกลายเป็นผงยาเกล็ด เก็บผงแห้งไว้ นำมาชงน้ำกินโดยใช้ผงแห้ง 3 ช้อนชา ต่อน้ำ 150 มิลลิลิตร (ใช้ชงกาแ
น้ำขิงขมิ้นชัน สูตรน้ำสมุนไพรต้านหวัด ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แถมต้านอนุมูลอิสระ เป็นที่รู้กันดีว่า สมุนไพรไทย นั้นมีสรรพคุณทางยาหลากหลาย สามารถนำมาประกอบอาหาร ทำเครื่องดื่ม หรือประยุกต์มาทำเป็นขนมก็ยังได้ โดยวันนี้ เพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้เผยสูตรน้ำสมุนไพรต้านหวัด เสริมภูมิคุ้มกัน โดยมี ขิง และ ขมิ้นชัน เป็นส่วนประกอบหลัก โดยส่วนผสมและวิธีทำ มีดังนี้ ส่วนประกอบ ขิงสด 1 หัว ( 200 กรัม) ขมิ้นชันสด 1 แง่ง (หรือขมิ้นชันผง 1 ช้อนชา) น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร น้ำมะนาว 30 มิลลิลิตร น้ำผึ้ง 30 มิลลิลิตร เกลือเล็กน้อย วิธีทำ 1. นำขิงและขมิ้นชันสด มาฝานเป็นแว่น 2. นำไปต้มกับน้ำสะอาด ต้มจนเดือด จากนั้นต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที 3. นำน้ำขิงและขมิ้นชันที่ได้ มาผสมกับน้ำมะนาวสด น้ำผึ้ง และเติมเกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ดื่มขณะอุ่นๆ
ข้อควรรู้ของ ขมิ้นชัน สมุนไพรเสริมภูมิ ช่วยดูแลปอด พร้อมบอกสูตรเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ! เพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้เผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรทางเลือกอย่าง ขมิ้นชัน ซึ่งจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ พบว่า ขมิ้นชัน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ รวมไปถึงมีฤทธิ์ต้านฮิสตามีน ปัจจุบันในตำราสมุนไพรจากต่างประเทศได้ให้การยอมรับว่า “ขมิ้นชัน” เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้และหอบหืด อีกทั้งมีฤทธิ์ขับลม ช่วยย่อย รักษาโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ท้องอืดท้องเฟ้อ ต้านมะเร็ง นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการของระบบทางเดินหายใจด้วย โดยเฉพาะภูมิแพ้ จากการสืบค้นงานวิจัยของ “ขมิ้นชัน” พบว่า สารเคอร์คูมิน (Curcumin) เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสรวมถึงไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ และ ไข้หวัดนก ล่าสุด (มีนาคม 2563) จากการจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ของเชื้อไวรัสโค… และสารสำคัญในสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่ดำเนินการโดยนักวิจัยประเทศอินโดนีเซีย พบว่า สารเคอร์คูมิน ในขมิ้นชัน มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์โปรติเอส (Protease enzyme) ทำให้ไวรัสไม่สามารถ
เกษตรกรรู้ยัง ‘เห็ดน้ำแป้ง’ เห็ดพื้นเมืองอีสาน มีสรรพคุณทางยา- ยับยั้งเซลล์มะเร็ง เพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้เกษตรกร ช่วยเสริมแกร่งเศรษฐกิจประเทศ ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า จากความเชี่ยวชาญในการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรของ วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระจากสารสำคัญของสมุนไพรที่นำมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้น ทั้งนี้หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์แพร่หลายทั้งภายในและต่างประเทศ จะเป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มโอกาสการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับเกษตรกรจากการปลูกสมุนไพรนำส่งโรง งานอุตสาหกรรม และจะส่งผลต่อเนื่องให้เศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งในที่สุด อันเป็นผลจากการ นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปช่วยแก้ปัญหาและสร้างโอกาสให้กับห่วงโซ่ธุรกิจของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระผลงานวิจัยพัฒนาของ วว. มีดังนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดเม็ดจากขมิ้นชัน หรือ “TISTRAMIN” ผลสำเร็จจากการดำเนิน “โครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสรรพ
“ขมิ้นชัน” ฮีโร่พิทักษ์หัวใจและหลอดเลือด จาก PM2.5 ฝุ่น PM2.5 – ในช่วงนี้อากาศเย็นๆ เหมือนจะมีหมอกในตอนเช้า แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือ ฝุ่น PM2.5 ที่กลับมาอีกครั้ง แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งทำงานสัมพันธ์กันกับระบบภูมิคุ้มกันของคนเรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวทางระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และหลอดเลือด ถือเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องหลีกเลี่ยงมลพิษ PM2.5 เพื่อป้องกันการกำเริบของโรค ที่เพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า ในต่างประเทศมีความสนใจในการทำวิจัยสมุนไพรไทยอย่าง “ขมิ้นชัน” เป็นอย่างมาก โดยในปี 2012 ได้มีการตีพิมพ์ในวารสารชื่อดัง โดยสรุปได้ใจความว่า การได้รับสาร curcumin ที่เป็นสารสำคัญในขมิ้นชัน สามารถช่วยปกป้องระบบหัวใจหลอดเลือด-ปอด จากการสูดดมมลพิษจากเครื่องยนต์ดีเซล อันเป็นแหล่งกำเนิดหลักที่สร้าง PM2.5 ให้กับสิ่งแวดล้อมได้ โดยจะช่วยลดการอักเสบและลดความไวต่อการตอบสนองปฏิกิริยาภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจ ปกป้องเซลล์ทางเดินหายใจ ลดการอักเสบของระบบหลอดเลือดโดยรวม และในปี 2017 มีอีกการศึกษาที่ยืนยันว่า การได้รับขมิ้นชันก
อภัยภูเบศร แจกสูตร “น้ำขมิ้น” ยาบำรุงสตรี รสชาติดี สรรพคุณไม่แพ้น้ำขิง น้ำขมิ้น – เป็นที่ทราบกันดีว่าสมุนไพรไทยมีสรรพคุณชวนอัศจรรย์ใจหลากหลาย โดยเฉพาะในหมู่สตรีเพศแล้ว สมุนไพรไทยแทบจะเรียกว่าเป็นยาบำรุงคู่กายเลยทีเดียว เพราะสมุนไพรหลายๆ ชนิด มีสรรพคุณบำรุงโลหิต ดีต่อระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง ยกตัวอย่างที่เห็นง่ายๆ คือ น้ำขิง นอกจากจะมีฤทธิ์ระบายอ่อนๆ บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน แก้อาการหวัดแล้ว บรรดาคุณแม่ก็นิยมดื่มน้ำขิงเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำนมด้วยเช่นกัน แต่นอกจากขิงแล้ว “ขมิ้น” ก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ดีต่อสตรีเช่นกัน เพจ สมุนไพรอภัยภูเบศร ได้แจกสูตรวิธีการทำน้ำขมิ้นไว้ดื่มบำรุงสุขภาพ ช่วยบำรุงเลือดลม ปรับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ส่งเสริมการมีบุตร บำรุงผิว รวมถึงช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ โดยวัตถุดิบและวิธีการทำ มีดังนี้ วัตถุดิบ ขมิ้นสด 3 – 4 หัว หรือ เงี่ยงที่ยาวประมาณ 3 ข้อนิ้วมือ 2. น้ำตาลกรวด 30 กรัม 3. น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา 4. น้ำสะอาด 1 ลิตร 5. ขิงแก่ซอย 1 หยิบมือ 6. พริกไทยล่อน 14 ช้อนชา วิธีทำ นำขมิ้นสดมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด
รู้หรือไม่! ขมิ้นชันที่ปลูกในภาคใต้ถือเป็นขมิ้นชันที่ดีที่สุดในโลก และข้อจำกัดของการกินขมิ้นชันที่อันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์อ่อนๆ กินขมิ้นชันอาจจะแท้งได้ “ขมิ้นชัน” เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดีในทุกภาค มีการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนิยมนำมาปรุงช่วยเพิ่มสีสันแต่งกลิ่นและรสชาติของอาหาร มีตำรับอาหารและตำรับยามากมายเป็นทั้งยาภายนอกและยาภายใน สำหรับยาภายในใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นต้น ส่วนยาภายนอก เชื่อว่าขมิ้นชันช่วยรักษาและสมานแผล ทำให้แผลไม่เป็นหนอง ต้นขมิ้นชัน และขมิ้นชันยังเป็นสมุนไพรเครื่องสำอางได้ดีอีกด้วย “ขมิ้นชัน” เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่ใช้กันมายาวนานของคนไทย กล่าวได้ว่าคนในตระกูลไตที่กระจายกันอยู่แถบเอเซีย ทั้งในรัฐอัสสัม พม่า ไทย จีน ลาว ต่างรู้จักในชื่อเดียวกันทั้งสิ้น “ขมิ้นชัน” ไม่ใช่ยารักษาโรคแต่ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรเครื่องเทศ ที่ใส่ในอาหารในชีวิตประจำวัน โดยนำมาปรุงแต่งและใช้ประกอบอาหารซึ่งพบมากทางภาคใต้ จะเห็นได้ว่าอาหารปักษ์ใต้มักมีสีออกเหลืองแทบทุกอย่าง สำหรับคนใต้ขมิ้นชันเป็นเครื่องเทศที่แทบจะขาดไ
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า แอนติออกซ์ สารสกัดขมิ้นชันในรูปแบบแคปซูลของ อภ.ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นยาแผนปัจจุบัน ที่สามารถใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งไม่เคยมีสมุนไพรได้รับการขึ้นทะเบียนในกลุ่มนี้มาก่อน ที่ผ่านมายาสมุนไพรจะนำมาใช้เป็นยาเสริมร่วมกับยาแผนปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์นี้เป็นสมุนไพรตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันสามารถใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันตัวอื่นที่มีสรรพคุณเช่นเดียวกันได้ คือ บรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งนี้ ควรใช้ตามแพทย์แนะนำ สตรีมีครรภ์หรือระยะให้นมบุตรไม่ควรใช้ และผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีควรระวังในการใช้ โดยสารสกัดขมิ้นชัน 1 แคปซูลจะเทียบเท่าเคอร์คูมินอยด์ 250 มิลลิกรัม นพ.นพพรกล่าวอีกว่า อภ.ได้ศึกษาทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของแคปซูลสารสกัดขมิ้นชัน โดยการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยเปรียบเทียบกับยาต้านอักเสบไอบูโปรเฟนในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่ รพ.ศิริราช จำนวน 367 คน แบบสหสถาบัน แบ่งการทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับแคปซูลสารสกัดขมิ้นชัน ข
ปฏิทินใกล้จะเลื่อนหน้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2559 แล้ว เดือนที่มากด้วยวันหยุดและมาพร้อมกับงานเลี้ยงสังสรรค์ของคนในครอบครัว สังสรรค์กับเพื่อน สังสรรค์กับผู้ร่วมงาน และส่วนใหญ่จะมีกิจกรรมสังสรรค์ยอดฮิต คือการ “กิน” “กินเลี้ยง” หรือ “กินบุฟเฟ่” เมื่อถึงเวลากินบุฟเฟ่หรือสังสรรค์กับครอบครับและเพื่อนสนิททุกคนจะสนุกกับการกินและเป็นตัวของตัวเองแบบสุดๆ ทำให้กินในปริมาณที่มาก และอีกทั้งยังเร่งรีบในการกินอาหาร โดยทำให้เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด พฤติกรรมเหล่านี้หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สิ่งที่จะตามมาคือ ปัญหาด้านสุขภาพและหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่มักเกิดจากพฤติกรรมเหล่านี้ก็คือ อาการของโรคระบบทางเดินอาหาร นั่นเอง อาการของโรคระบบทางเดินอาหารที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ คือ แสบร้อนท้อง ปวดท้อง แน่นหรืออึดอัดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ มีลมในท้อง เรอเหม็นเปรี้ยว ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้มีหลายอย่างด้วยกัน อาทิ กระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ มีแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ หรือกระเพาะอาหารไวต่ออาหารบางชนิด เช่น อาหารรสจัด เหล่านี้ล้วนส่งผลให้การย่อยอาหารในกระเพาะอาหารและการเคลื่อนตัวของอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กเป็นไปด้วยความลำบาก เกิดก