ขับแกร็บ
เสียงจากผู้ใช้จริง! รถ EV (รถพลังงานไฟฟ้า) ประหยัดต้นทุน สตาร์ตไม่เหม็นไหม้ ตอบโจทย์กระแสสิ่งแวดล้อม กระแสความตื่นตัวในด้านสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกรวน ตลอดจนวิกฤตพลังงานโลก ถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่ส่งผลให้ยานยนต์ไฟฟ้าหรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า “รถ EV” (Electric Vehicle) กลายเป็นทางเลือกใหม่ของการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราไปสู่อนาคต ปัจจุบันรถพลังงานไฟฟ้า ได้กลายเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยที่กระแสความนิยมของรถ EV มาแรงอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะในกลุ่มผู้ใช้รถทั่วไป แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนขับรถที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารหรือให้บริการดีลิเวอรี ซึ่งไม่ได้มองเห็นข้อดีเฉพาะแค่การลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิง แต่ยังส่งผลดีกับโลกและสิ่งแวดล้อมของเราด้วย คุณแดน-ธนมิตร พัวพงศกร พาร์ตเนอร์คนขับแกร็บคาร์วัย 47 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่อาชีพนี้ว่า เมื่อก่อนตนเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานได้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนเงินไม่พอใช้ด้วยซ้ำ พอดีกับที่แกร็บเปิดรับสมัครคนขับอยู่ จึงได้ลองสมัครเป็นไรเดอร์ดูเพราะอยากมีรายได้เสริม
เพื่ออนาคตลูก ท้อไม่ได้ คุณพ่อนักสู้ ขับแกร็บ เลี้ยงทุกคนในครอบครัว เมื่อพูดถึงคำว่า “พ่อ” เราจะนึกถึงภาพของผู้ชายที่เข้มแข็ง คนที่หวังดีและเคียงข้างเราเสมอ ลองมาดูเรื่องราวของคุณพ่อท่านนี้ พ่อผู้เป็นเสาหลักของทุกคนในครอบครัว คุณอู-เอกลักษณ์ บุญสืบสาย หนุ่มใหญ่วัย 43 ที่ยึดอาชีพขับแกร็บมานานกว่า 7 ปี ย้อนกลับไปเมื่อปี 2525 หากใครเคยผ่านแถวสนามหลวงจะมีภาพของเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่กำลังยืนขายถุงกระดาษที่หอบเอาไว้เต็มมือ เพื่อช่วยแม่หารายได้มาจุนเจือครอบครัว เด็กชายในวันนั้นได้เติบโตมาเป็นคุณอู “ผมไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวย แม่เป็นกระเป๋ารถเมล์อยู่แถวสนามหลวง สิ่งที่เด็กในวัยนั้นอย่างผมพอจะทำได้เพื่อหาเงินมาช่วยแม่ คือการพับถุงกระดาษขาย ตอนนั้นผมอยากไปวิ่งเล่นสนุกกับเพื่อนนะ แต่พอเห็นแม่ลำบากผมก็ไม่อยากไป พอมองย้อนกลับไปสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมกลายเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ” คุณอู เล่า ก่อนเล่าต่อ แต่ทุกอุปสรรคที่เคยมีมาเทียบไม่ได้เลยกับตอนที่ลูกชายคลอดก่อนกำหนด ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต เพราะความหวังเดียวในตอนนั้นคืออยากให้ลูกมีชีวิตรอด จึงตัดสินใจให้ภรรยาลาออกจากงานเพื่อ
คุณแม่นักสู้ คว้ามอไซค์ขับแกร็บ หาเงินส่งลูกเรียนสูงๆ ไม่ต้องลำบากเหมือนแม่ วันแม่ปีนี้ บรรยากาศความอบอุ่นของหลายครอบครัวคงเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนไกลบ้านที่ออกมาทำงานหาเงิน ท่ามกลางวิกฤตแบบนี้คงไม่สามารถกลับบ้านได้ เช่น คุณอ้อย-ศิริพร สีขำ วัย 35 ปี สาวสุพรรณบุรี เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาตายเอาดาบหน้าตั้งแต่อายุ 15 โดยมีความรู้ติดตัวแค่ ป.3 แต่ก็สามารถผลักดันตัวเองให้เรียน กศน. จนจบ ม.3 ได้ ชีวิตของคุณอ้อย ผ่านการทำงานมาแล้วหลายอย่าง ทั้งสาวโรงงาน งานก่อสร้าง ฯลฯ แต่ด้วยความโชคดี ได้เพื่อนมาสอนนวดแผนไทย จึงมีวิชาติดตัวยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงตัวเองมาตลอด 20 ปี แต่พอเจอโควิดก็ได้รับผลกระทบโดยตรง “เราต้องหยุดงานจากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนจนปีกว่าแล้วที่ไม่ได้กลับไปนวด ไปสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟช่วงหนึ่ง แต่ร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ตอนที่กำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะหารายได้ทางไหนดีก็มีเพื่อนมาชวนขับแกร็บส่งอาหาร เลยคิดว่าอยากลองดูสักตั้งไม่เสียหายอะไร ขับมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ 7 เดือนกว่าแล้ว” เมื่อต้องเริ่มต้นทำอาชีพใหม่ที่ไม่คุ้นเคยหลายคนอาจท้อและถอดใจ แต่ไม่ใช่กับคุณแม่นักสู้คนนี
หนุ่มเจนวาย ขยันหาเงิน ตอนเช้าทำอาชีพหลักเป็นนักลงทุน ตอนเย็นขับแกร็บ คุณฟีฟ่า-จิระวัฒน์ ธาดาพิทักษ์ทรัพย์ บัณฑิตหนุ่มจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ วัย 23 ปี ที่หลงใหลในการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจจนยึดเป็นอาชีพหลักถึงทุกวันนี้ โดยกิจวัตรประจำวันคือการติดตามข่าวสารเพื่อวิเคราะห์ตลาดและเทรด Forex ก่อนที่จะออกมาขับแกร็บต่อในช่วงเย็นๆ “ผมเคยลองทำงานประจำมาก่อนหน้านี้ และเพราะตอนนั้นที่ออฟฟิศมีจัดอบรมเรื่องวิเคราะห์ตลาดและเทรดให้ เลยเป็นเหมือนการเปิดโลกให้ผมรู้จักกับการลงทุนมากขึ้น ยิ่งพอได้ลองเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ผมก็พบว่าการลงทุนเป็นศาสตร์ที่ต่อยอดได้เรื่อยๆ แล้วช่วงนี้ผมก็สนใจศึกษาเรื่องหุ้นและทองด้วยเพราะเป็นตลาดที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน อีกแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมสนใจเรื่องการลงทุนอย่างจริงจังคือซีรีส์เรื่อง Start-Up ของเกาหลีครับ ผมว่าเป็นซีรีส์ที่เนื้อเรื่องทันสมัยและน่าสนใจมากๆ เพราะพูดถึงเรื่องการลงทุน หุ้น บริษัทสตาร์ตอัพและเทคโนโลยีที่สร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับคนยุคนี้เลยครับ” หนุ่มวัย 23 ยังบอกอีกว่า นอกจากอาชีพนักลงทุนแล้ว ยังขับแกร็บเป็นงานเสริม ซึ่งทำมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ปี 3 แล้ว
ทหารหนุ่ม ใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน ขับแกร็บ เป็นงานเสริมนาน 4 ปี การทำอาชีพเสริมเพื่อเป็นรายได้สองทางในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เช่น คุณเสก-จ่าสิบตรีเอกอาทิตย์ แฟมไธสง วัย 32 ปี นอกจากเป็นทหารแล้ว ยังขับแกร็บเป็นงานเสริมอีกด้วย จ่าสิบตรีเอกอาทิตย์ เล่าว่า รับข้าราชการทหารบกมากว่า 7 ปี ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นทุนเดิมและอยากใช้เวลาหลังเลิกงานให้เป็นประโยชน์ เป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ตนเองเลือกขับแกร็บเป็นงานเสริมมานานกว่า 4 ปีแล้ว “ผมชอบความรู้สึกของการเป็นอิสระและได้ผจญภัยตอนที่ขับมอเตอร์ไซค์ไปยังที่ต่างๆ ก่อนหน้าโควิดระบาดผมก็มีรวมตัวกับเพื่อนๆ ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆ แต่ช่วงนี้คงต้องพับทริปเที่ยวไปยาวๆ ก่อน ตอนนี้ผมมีมอเตอร์ไซค์อยู่ 4 คัน ซึ่งแต่ละคันก็แบ่งใช้งานแตกต่างกัน อย่างคันที่ใช้ขับแกร็บก็จะมีที่วางกระเป๋าด้านหลังโดยเฉพาะ ทำให้คล่องตัวเวลาขับทำงานได้มากขึ้น” ก่อนเล่าต่อว่า จุดเริ่มต้นที่อยากมาขับแกร็บ เพราะด้วยอาชีพหลักมีเวลาเข้า-ออกงานตรงเวลาตามระเบียบราชการ ทำให้มีเวลาว่างหลังเลิกงานเยอะ ถ้าปล่อยทิ้งไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ประกอบก
ยุคนี้ต้องมีสองอาชีพ! แม่ค้าทุเรียน ขับแกร็บเป็นงานเสริม ตั้งเป้าเก็บเงินให้ลูก นอกจากงานประจำแล้ว หลายคนยังมองหาโอกาสใหม่ให้ตัวเองด้วยอาชีพที่สอง เพราะการมีรายได้มากกว่าทางเดียวย่อมเป็นหลักประกันให้เรามั่นใจได้กว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเรายังต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้นในเร็ววัน คุณแบ๋ม-กมลรัตน์ รังษี คุณแม่หัวใจแกร่ง วัย 25 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยประกอบอาชีพมาหลายอย่าง เพราะเป็นคนชอบทำงานหาประสบการณ์ใหม่ๆ และหารายได้มาดูแลลูกชาย ไม่ว่าจะเป็น ช่างแต่งหน้า งานดูแลอีเว้นต์แสงสีเสียง นักแสดงอิสระ นักพากย์เสียงหุ่นละคร และมาขับแกร็บเพิ่มด้วยในตอนนี้ ส่วนอาชีพหลักที่ยึดคือขายทุเรียน อยู่แถวถนนจันทน์ “พื้นเพบ้านเราทำธุรกิจรถขนส่ง มีรายได้ปานกลางพอเลี้ยงปากท้อง มีงานหลักอีกอาชีพคือขายทุเรียน เราเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่งมาตั้งแต่เด็กแล้ว มักจะหาอะไรทำตลอดตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เป้าหมายหลักตอนนี้คือการเก็บเงินให้ลูก เขาจะได้มีทุนเรียนต่อและสามารถใช้ชีวิตตามแบบที่ต้องการ ที่สำคัญเราไม่อยากปิดกั้นความฝันของลูกด้วยคำว่าไม่มีเงิน ทุกวันนี้เราพยายามเป็นต้นแบบที่ด
อายุเป็นเพียงตัวเลข! ลุงชวนป้าขับแกร็บหารายได้ เพราะไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน อีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Phakhanut Blackbox เจ้าของร้านซูชิที่หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้โพสต์ภาพลุงกับป้าคู่หนึ่งที่ทำอาชีพแกร็บมารับอาหารที่ร้าน โดยลุงเป็นคนหาลูกค้า ส่วนป้านั่งซ้อนท้ายช่วยสะพายกระเป๋าใส่อาหาร ผู้โพสต์ระบุว่า ความน่ารักของพี่ Grab วันนี้ มาเป็นคู่เลย “ลุงไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ยังมีแรงก็ทำไป ป้าแกอยู่บ้านคนเดียวกลัวแกเหงาชวนมาเป็นเพื่อน” อายุเป็นเพียงตัวเลข ลุงแกว่างี้ น่ารักที่สุด หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ต่างมีคนเข้ามาให้กำลังใจลุงกับป้าเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งอวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรง
อยากทำธุรกิจกับแกร็บต้องรู้! “แกร็บมินิ-จีซี” โมเดลธุรกิจเพื่อเอสเอ็มอี ลงทุนเริ่มต้น 3 หมื่นบาท บุกตลาดภูธร GRAB (แกร็บ) ประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์เจ้าใหญ่ ทั้งการเดินทาง ส่งพัสดุ ชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้บริการส่งอาหาร ล่าสุด เปิดโมเดลธุรกิจใหม่ “แกร็บมินิ-จีซี” Grab Mini-GC เป็นศูนย์อบรบ รับสมัครงานผู้ที่ต้องการขับแกร็บ จำหน่ายสินค้าของแกร็บ ซึ่ง “แกร็บมินิ-จีซี” ลงทุนเริ่มต้น 30,000 บาท ใช้พื้นที่ขั้นต่ำ 48 ตารางเมตร บุกพื้นที่ต่างจังหวัด ตั้งเป้าปีนี้ขยายครอบคลุม 30 จังหวัด คุณเมธิณี อนวัชกุล ผู้อำนวยการแกร็บไบค์ และศูนย์ส่งเสริมธุรกิจแกร็บสาขาย่อย แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึง โมเดลธุรกิจ “แกร็บมินิ-จีซี” ว่าจะช่วยสร้างโอกาสธุรกิจให้กับผู้ประกอบการต่างจังหวัด เพราะพันธกิจหลักของแกร็บ คือ การสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้คนไทย ที่ผ่านมาได้เพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และร้านอาหาร ล่าสุด แกร็บเล็งเห็นกลุ่มผู้ประกอบการต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของแกร็บเติบโตขึ้น แกร็บมินิ-จีซี ใช้เกณฑ์ในการพิจารณาผู้ประกอบการ 3 ส่ว
ทั้งฝุ่น ทั้งไวรัส! อาชีพน่าเห็นใจ “พนง.ส่งอาหาร” โอด “ต้องดูแลตัวเองไปก่อน” นอกจากเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ประเทศไทยประสบปัญหามาเนิ่นนาน คือ ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของประชาชนจำนวนมาก เมื่อรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ประชาชนจึงต้องออกมาเรียกร้องผ่านเว็บไซต์ change.org โดยเรียกร้องให้แอพส่งอาหารส่งของอย่าง แกร็บ, ไลน์แมน, ฟู้ดแพนด้า และ เก็ตฟู้ด แจกหน้ากากกันฝุ่น PM2.5 และให้ข้อมูลกับคนขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารเพื่อเป็นการป้องกันและดูแลตัวเอง เพราะคนขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารเป็นกลุ่มคนที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนวันละนานๆ สูดดมทั้งควันและฝุ่น โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมทั้งประเทศ ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวมากขึ้น เส้นทางเศรษฐีออนไลน์สอบถามไปยังกลุ่มคนขับรถดีลิเวอรี่ หนึ่งในอาชีพเสี่ยงซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องขับรถบนท้องถนน และพบเจอผู้คนมากมาย คุณภานุวัฒน์ มานะศรี หรือ คุณบอล พนักงานแกร็บฟู้ด วัย 26 ปี เผย
“ขับแกร็บ 5 ชม.ได้ค่าก๋วยเตี๋ยวชามเดียว” ชี้เพราะขับไม่เป็น แนะต้องรู้ที่-เวลา ขับแกร็บ – หลังจากมีข่าวว่า คมนาคมพิจารณาแนวทาง การกำหนดรถส่วนบุคคลที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นให้เป็นรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหารถแท็กซี่ในปัจจุบัน ก็เริ่มเห็น มอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถยนต์ส่วนตัว หันมารับจ๊อบขับแกร็บกันมากขึ้น บ้างก็ว่าดี บ้างก็รู้สึกไม่คุ้มที่จะทำต่อ สมาชิกผู้ใช้พันทิป นาม ribbin69 ตั้งกระทู้ ขับ grab car 5 ชั่วโมง ได้ค่าก๋วยเตี๋ยวชามเดียวจริงๆ บอกเล่าเรื่องราวในการรับจ๊อบขับแกร็บของเพื่อนคนหนึ่ง ให้ชาวพันทิปได้ฟัง โดยระบุว่า เพื่อนบอกผมว่า ขับ grab car เฉลี่ยวันละ 5 ชั่วโมง ได้ค่าก๋วยเตี๋ยวชามเดียวจริงๆ รับคนเฉลี่ยได้ 1 เที่ยวต่อ 1 ชั่วโมง เพราะตอนนี้ grab เต็มเมือง คือขับจริงเฉลี่ยเที่ยวละครึ่งชั่วโมง รอคนอีกครึ่งชั่วโมง เท่ากับ 1 ชั่วโมง ขับ 5 ชั่วโมงได้เงินคร่าวๆ 500 โดน grab หัก 25% เหลือคร่าวๆ 380 ค่าแก๊ส 200 ถ้าน้ำมัน 300 สรุปได้แค่กินก๋วยเตียวชามเดียว ยังไม่รวมค่าซ่อมบำรุงรถ ค่าเสื่อมรถ เพื่อนไม่เหลือกำไร ส่วนผมได้ลองมาแล้ว 2 วัน วันแรกได้รอบเดียวไ