ขายสัตว์เลี้ยง
จากคนเกลียดแมว สู่นักอนุรักษ์แมวไทยโบราณ เสริมโชคลาภ สร้างรายได้ตัวละ 7 พัน ทุกคนรู้จักแมวไทยโบราณกันบ้างไหม รู้ไหมว่าประเทศไทยก็มีแมวไทยโบราณอยู่เหมือนกันนะ แมวนอกบางตัวยังเป็นลูกครึ่งไทยอีกด้วย แล้วนอกจากการเลี้ยงแมวเฉยๆ อยู่บ้านก็กลายเป็นธุรกิจ และอาชีพได้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ คุณลุงปรีชา วัฒนา จากคนที่เคยเกลียดแมว สู่ผู้อนุรักษ์แมวไทยโบราณ โดยปัจจุบันคุณลุงอนุรักษ์แมวไทยโบราณที่เหลืออยู่ 5 สายพันธุ์จาก 17 สายพันธุ์แมวมงคลโบราณตามตำราแมวไทย เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น ก่อนที่จะมาเป็นนักอนุรักษ์แมวไทยโบราณ คุณลุงเคยเป็นผู้จัดการจัดซื้อของภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งมาก่อน ซึ่งคุณลุงปรีชาอยู่ในวงการอาหารญี่ปุ่นมาหลายปี ทำมาเรื่อยๆ จนเกษียณอายุทำงานในวัย 55 ปี หลังจากเกษียณเจอกับแมวจรตัวหนึ่งเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ระหว่างรั้วบ้าน “ผมเกลียดแมวมาก ไม่ชอบ ไม่เคยคิดที่จะเลี้ยงแมวเลยด้วยซ้ำ เห็นแมวตัวนี้เดินผ่านบ้านทุกวันก็เอาน้ำสาดไล่ ว่าตลอดอย่ามาบ้านนี้” แต่ก็ไม่ได้ผลแมวมันก็ยังไปๆ มาๆ จนเวลาผ่านไปนาน 2 เดือน วันหนึ่งคุณลุงเดินออกมาจากห้องน้ำ แมวตัวที่เคยไล่อยู่ทุกวันก
ไม่ใช่เรื่อง มดเท็จ สิงคโปร์มีร้านขายมดเป็น สัตว์เลี้ยง ร้านแรกแล้วนะ เมื่อพูดถึงสัตว์เลี้ยง เรามักจะนึกถึง สุนัข แมว หรือ กระต่าย หรือ หนูแฮมสเตอร์ แต่ “มด” คงไม่มีใครกล้าคิดว่าจะนำมาเป็น สัตว์เลี้ยง ได้ แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ย่อมมี “คนคิดต่าง” เสมอ เรื่องเลี้ยงมดก็เช่นกัน ที่สิงคโปร์ ก็มี จอห์น ยี วัย 41 ปี ที่เกิดความรู้สึกทึ่ง และลุ่มหลงเสน่ห์ของมดตัวเล็ก ตัวน้อย ถึงขนาดยอมลาออกจากงานประจำพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ออกมาเปิดร้านจัสต์ แอ๊นต์ (Just Ants) ร้านขายมด และอุปกรณ์เลี้ยงมดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเป็นร้านแรกในสิงคโปร์ตั้งแต่ต้นปี 2563 ยี เล่าว่า ตัวเขาเองเกิดความรักในมด หลังจากได้ดูหนังสารคดีเกี่ยวกับมดในช่องยูทูบของแคนาดา ที่ทำให้เขาได้รู้จักมดหลากหลายพันธุ์ และยังได้เรียนรู้อะไรมากมายจากมดตัวจิ๋ว ที่ยี บอกว่า “เราสามารถเรียนรู้บทเรียนชีวิตหลายอย่างจากมดเหล่านี้ ได้เห็นถึงความบากบั่น พยายามของพวกมันที่จะมีชีวิตรอดในป่า มันเป็นการเปิดมุมมองใหม่ครั้งใหญ่ให้กับผมเลยล่ะ” หลังจากนำไอเดียไปปรึกษากับภรรยา จนมั่นใจว่าที่สิงคโปร์ยังไม่มีร้านขายมด และอุปกรณ์เลี้