คนโสด
“Lonely Economy” ธุรกิจเพื่อคนโสด ตอบโจทย์คนเหงา ที่ชอบอยู่คนเดียว ในยุคนี้การเป็นโสดไม่ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่คนเดียวหรือเลือกใช้ชีวิตโสดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศจีนมีคนโสดอยู่ประมาณ 260 ล้านคน และกลุ่มคนเหล่านี้เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวถึง 92 ล้านคน (มากกว่าประชากรไทยทั้งประเทศอีก) และไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลง เมื่อมีคนโสดเป็นจำนวนมาก จึงเกิดแนวคิดและรูปแบบของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อันเกิดจากค่านิยมของคนโสด เพื่อให้ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด และสิ่งนั้นเรียกว่า Lonely Economy Lonely Economy คืออะไร เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่เกิดจากค่านิยมและแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของคนโสด จนส่งผลต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทำให้สังคมและเศรษฐกิจต้องปรับตัวให้ตอบโจทย์กับความต้องการและการบริโภคของคนโสด เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผู้คนในสังคมได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น มีรายได้ทางการเงินมั่นคง และสบายใจที่จะใช้ชีวิตตัวคนเดียว เทรนด์เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ “คนโสด” ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นในหลายประเทศ การที่คนโสดหลายคนชอบอยู่คน
ไม่อยากแบกภาระหนี้! คนโสดเลือกเช่าบ้าน/คอนโด สบายใจกว่าซื้อ และโครงการนั้นต้องเลี้ยงสัตว์ได้ การขยายตัวของ Solo Economy หรือเศรษฐกิจของครัวเรือนที่อาศัยอยู่คนเดียว ในไทยส่งผลให้วิถีชีวิตผู้บริโภคปรับเปลี่ยนตามไปด้วยในหลายมิติ ซึ่งรวมทั้งเทรนด์การค้นหาที่อยู่อาศัย หลังจากก่อนหน้านี้วัยทำงานมักเริ่มวางแผนซื้อบ้านเมื่อต้องการสร้างครอบครัวเป็นอันดับต้นๆ อย่างไรก็ดี คนโสดยังคงต้องการบ้านในฝันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เช่นกัน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยเทรนด์ที่อยู่อาศัยตอบโจทย์คนโสดหรือผู้ที่อาศัยอยู่คนเดียว ดังนี้ การเช่าตอบโจทย์ ลดภาระในอนาคต ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) พบว่า ผู้ทำแบบสอบถามที่มีสถานะโสดวางแผนจะเช่าที่อยู่อาศัยใน 1 ปีข้างหน้า 14% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคทั่วไป (สัดส่วน 10%) และสูงกว่าผู้บริโภคในสถานภาพสมรสอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่า เทรนด์การเช่าบ้าน/คอนโด ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนโสดมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องกา
คนไทยโสดมากขึ้นถึง 40% เหตุเพราะทำงานหนัก ไม่มีโอกาสหาคู่ เน้นใช้จ่ายเพื่อตนเอง และเปย์หลาน ไทยกำลังเข้าสู่สังคมคนโสดมากขึ้น สภาพัฒน์เผยคนไทยวัยเจริญพันธุ์ (15-49 ปี) เป็นโสดเพิ่มแตะ 40.5% แนะพัฒนาแพลตฟอร์มส่งเสริมให้คนโสดมีคู่ หนุน Work-life Balance เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันนโยบายส่งเสริมการมีลูก โดยมีเป้าหมายไปที่คนมีคู่ เพื่อแก้ปัญหาเด็กเกิดน้อย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน (SES) ปี 2566 กลับพบว่าคนไทยในช่วงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15-49 ปี) มีคนโสดอยู่ 40.5% สูงกว่าภาพรวมประเทศเกือบเท่าตัว 23.9% และเพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่ 35.7% สอดคล้องกับสัดส่วนของคนไทยที่มีสถานะแต่งงานแล้วที่ลดลงต่อเนื่อง จากระดับ 57.9% ในปี 2560 เหลือ 52.6% ในปี 2566 ท่ามกลางอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้น โดยคนโสดในความหมายของรายงานหมายถึงผู้ที่ยังไม่เคยสมรส นายดนุชา กล่าวว่า คนโสดส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเมือง โ
ฟันธง! คนมีครอบครัว “สุขกว่า”คนโสด แม้แบกภาระทางการเงินอ่วม ศูนย์ Customer Insights by TMB Analytics คือ ศูนย์วิเคราะห์มุมมองใหม่ ด้านการพฤติกรรมทางการเงิน เพื่อสร้างการตระหนักรับรู้ ความเข้าใจ เพื่อนำไปสู่การวางแผนการเงินส่วนบุคคลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น นำเสนอผลการศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินของคนไทยตลอดเส้นทางทั้งการออม การใช้จ่าย การลงทุน ตลอดจนการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งสามารถสะท้อนอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต รวมถึงปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อพฤติกรรมในด้านต่างๆ ล่าสุด ศูนย์ Customer Insights by TMB Analytics ได้ออกมาเปิดเผยผลการศึกษา คนมีครอบครัวมีความสุขมากกว่าคนโสด แม้แบกภาระทางการเงินอ่วม แต่ถ้ามีการวางแผน บริหารจัดการหนี้ เตรียมความพร้อมให้ชีวิต ก็สามารถมีความสุขได้ยาวๆ โดยมีรายละเอียดน่าสนใจดังนี้ “อัตราการเพิ่มขึ้นของคนโสดมีเยอะก็จริง แต่กลุ่มคนแต่งงานยังเป็นโครงสร้างหลักของครอบครัวไทย” จากรายงาน UNFPA ล่าสุดพบว่ากว่าสองทศวรรษที่ผ่านมาโครงสร้างครอบครัวไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งขนาดของครอบครัวที่เล็กลง และลักษณะครอบครัวอยู่คนเดียวหรือที่กลุ่มคนโสดมีบทบาทเพิ่มขึ้น
“คนโสด” ไม่โดดเดี่ยว สารพัดแบรนด์ แห่ผุดสินค้าไซซ์เล็ก-บริการเอาใจ ยุคนี้การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกอีกแล้ว และกำลังมีบทบาทมากขึ้นในสังคมโลก จนทำให้แบรนด์ต่างๆ ไม่อาจละเลยสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ เกาหลีใต้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากในเรื่องนี้ เว็บไซต์โชซุน อิลโบ ระบุว่า บริษัทห้างร้านต่างๆ พากันปรับตัวให้ทันกับไลฟ์สไตล์ผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจากสถิติพบว่า เมื่อปีที่แล้ว ราว 28.6 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนเกาหลีใต้เป็นครัวเรือนที่อยู่คนเดียว และมีแนวโน้มที่ครัวเรือนคนเดียวจะมีจำนวนแซงหน้าครัวเรือนที่มีสมาชิกหลายคนภายในปี 2568 บรรดาคนโสดเหล่านี้ ยังเต็มใจที่จะจ่ายเงินไปกับการรับประทานอาหารและกิจกรรมสุดโปรดมากกว่า เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของสมาชิกในบ้าน เช่น ค่าเทอมลูก โดยเฉพาะคนโสดรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 40 ปี ถือเป็นประชากรส่วนใหญ่ของกลุ่มคนโสดทั้งหมด พวกเขาเหล่านี้แทบจะขาดสมาร์ตโฟนไม่ได้ และราว 57 เปอร์เซ็นต์ นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ นี่ทำให้ธุรกิจต่างๆ พากันคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อเอาใจคนโสดรุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนาระบบช็อปปิ้งออนไลน์และธุรกรรมการเงินผ่
“บุคลิกภาพนั้นเป็นส่วนสำคัญ คนที่เข้ามาใช้บริการเป็นคนที่พร้อมที่จะจ่ายเงินให้บริษัทเพื่อให้บริษัทหาคนที่เขาต้องการ และสเปคของลูกค้าผู้ชายส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานค่อนข้างสูง”คุณบอล – รชต ธรรมรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล อี-คอมมูนิตี้ จำกัด เจ้าของแบรนด์ I Like Date (ไอ ไลค์ เดท) บริษัทจัดหาคู่ลำดับต้นๆของเมืองไทย ที่สร้างความสำเร็จจับคู่มาแล้วนับไม่ถ้วน หรือที่หลายคนรู้จักในนาม “Dr.Date บุรุษสื่อรัก” เริ่มต้นบทสนทนา ก่อนย้อนให้ฟังเกี่ยวกับความเป็นมา ก่อตั้งธุรกิจนี้มาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจาก ธุรกิจสปา ที่มีกลุ่มลูกค้ามักเป็นผู้หญิง และธุรกิจรถเช่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มนี้ มักทำงานจนยุ่ง ไม่มีเวลาหาคู่ ตนจึงอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าลองจัดงานปาร์ตี้ให้ทั้งสองบริษัทมาเจอกัน ซึ่งยังไม่มีใครรู้จักกันมาก่อน และเมื่อจัดงานแล้ว ปรากฏได้ผลตอบรับที่ดี มีคนมาซักถามประวัติของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เริ่มเห็นช่องทางความเป็นไปได้ทางธุรกิจ แลยเปิดบริษัทจัดหาคู่ I Like Date ขึ้นมา ภายใต้สโลแกน “หากคุณเปลี่ยนสังคมที่คุณอยู่ คุณอาจเจอคนที่ใช่สำหรับคุณ” โด