ควาย
ควาย ขายง่ายกว่าที่ดิน เพราะคนซื้อไปเลี้ยงกันมากขึ้น ตัวเป็นล้านก็มี วันที่ผมไปที่ ตลาดนัดโคกระบือ ที่อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี นั้น ตรงกับวันพุธซึ่งมีแต่กระบือ หรืออีกชื่อก็คือ ควาย วัวไม่มี ผมจึงได้เห็นควาย รวมแล้วน่าจะกว่าร้อยตัว แต่จะเป็นจำนวนจริงเท่าไรผมไม่รู้ เพราะไม่ได้เดินนับควาย ควายทุกตัวเดินทางมาที่ตลาดแห่งนี้ด้วยการยืนมาบนรถบรรทุกสี่ล้อก็มี หกล้อก็มี เท่าที่ผมสังเกต ควายแต่ละตัวเนื้อตัวสะอาด สุขภาพดี รูปร่างงดงามกันทุกตัว ผมมารู้ตอนหลังจากนางประจำ ต้นทุน ซึ่งเป็นคนที่มีอาชีพซื้อขายควายว่า ที่ควายทุกตัวมีหน้าตาหล่อและสวยก็เพราะผู้นำควายมาขายจะต้องเลือกควายตัวที่แข็งแรง สมบูรณ์ที่สุดมาขาย ถูกแล้ว ถ้าเอาควายผอมโซมาขายคงไม่มีใครซื้อ นางประจำ ซึ่งมีอาชีพซื้อขายควาย ให้ความรู้แก่ผมอีกว่า ตลาดนัดโคกระบือแห่งนี้ มีการซื้อขายควายกันทุกวันพุธ มีเงินหมุนเวียนเป็นล้านๆ บาท คนที่นำควายมาขาย มาจากแทบทุกจังหวัดทั้งที่อยู่ใกล้เคียงและจังหวัดไกลๆ แต่ที่มีควายมากที่สุดก็ที่จังหวัดอุทัยธานีนี้แหละ สำหรับการซื้อขายควายสมัยนี้ ให้ควายขึ้นรถไม่ต้องจูงควายไปขายเหมือนอดีต นางประจำเอง นอกจากไปซ
กินนม ชมควาย ที่ “ลาว บัฟฟาโล เดรี่” ฟาร์มควายแห่งเดียวใน สปป.ลาว ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ไปเยือน สปป.ลาว ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่วัฒนธรรมหลายอย่างคล้ายกันกับไทย แวะเวียงจันทน์แล้วไม่ลืมที่จะแวะหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่ยังคงวัฒนธรรม ประเพณีพื้นบ้าน และวิถีชีวิตไว้ได้ครบถ้วนทุกย่างก้าว ที่หลวงพระบางนอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจออกแนวเกษตรนิดๆ ไว้สำหรับศึกษาดูงาน เที่ยวแบบชิลๆ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Laos Buffalo Dairy หรือ ลาว บัฟฟาโล เดรี่” ฟาร์มควายแห่งเดียวใน สปป.ลาว ก่อตั้งโดย คุณซูซี่ มาร์ติน สาวชาวออสเตรเลียที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของ สปป.ลาว จนเกิดเป็นฟาร์มควายแห่งนี้ขึ้นมา ฟาร์มควาย ลาว บัฟฟาโล เดรี่ มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาด มากันแบบครอบครัว เป็นคู่ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกรุ๊ปจากต่างประเทศ เมื่อมาถึงทีมงานของฟาร์มจะออกมาต้อนรับอย่างดี มีโต๊ะสำหรับนั่งพัก พร้อมนมควายปรุงแต่งรสกาแฟ โกโก้ ขนมที่ทำจากนมควาย เสิร์ฟให้ทานก่อนเยี่ยมชมฟาร์ม ระหว่างนั่งพัก คุณซูซี่เจ้าของฟาร์มพร้อมล่ามจะออกมากล่าวต้อนรับ พร้อมเล่าประวัติของฟาร์มให้ฟังคร่าวๆ
กระบือในยุคนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงเพื่อไว้ไถนาเหมือนเช่นเก่าก่อน แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาและเลี้ยงได้หลากหลาย โดยมุ่งเน้นการทำตลาดได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งเกษตรกรหรือผู้สนใจเลี้ยงต้องมีทิศทางและเป้าหมายของการสร้างตลาดว่าจะไปในทิศทางใด จึงส่งผลให้กระบือเป็นสัตว์ที่นับวันตลาดกำลังเติบโตได้ไม่แพ้สัตว์เศรษฐกิจอื่นๆ คุณจิราภัค ขำเอนก อยู่บ้านเลขที่ 193 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองโสน อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเกษตรกรที่เลี้ยงกระบือจนประสบผลสำเร็จ สามารถผลิตลูกพันธุ์และสร้างกระบือสวยงาม พร้อมทั้งเริ่มมีการพัฒนาแปรรูปนมกระบือพร้อมดื่ม สร้างเป็นอีกหนึ่งสินค้าน่าซื้อเพื่อให้ตลาดมีทางเลือก จึงเกิดการทำตลาดที่หลากหลายสร้างรายได้ให้กับเธอได้เป็นอย่างดีทีเดียว จากอดีตลูกจ้าง สู่เกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือ คุณจิราภัค เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างอยู่ในหน่วยงานราชการ และได้ลาออกมาภายหลังเพื่อช่วยครอบครัวเลี้ยงสุกร ซึ่งในช่วงที่กลับไปเลี้ยงสุกรนั้น ครอบครัวได้มีกระบือเลี้ยงไว้ 4-5 ตัว และเมื่อการเลี้ยงกระบือไม่ติดปัญหาเจออุปสรรคมากนัก จึงได้ตัดสินใจมาทำฟาร์มสำหรับเลี้ยงกระบือโดยเฉพาะในปี 2554 “ช่