ค่าไฟ
เปิดตัว EnergyLIB (เอเนอร์จี้ลิบ) แบรนด์ระบบโซลาร์ที่มีโซลูชันแบบครบวงจรเพื่อที่พักอาศัยครั้งแรกในไทย พร้อมช่วยคนไทยลดค่าไฟสูงสุด 70% ใช้ไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ราคาเริ่มต้น 359,000 บาท ปัจจุบันความต้องการโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ด้วยหลายปัจจัยทั้งราคาค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเทรนด์การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด ซึ่งตลาดพลังงานสำหรับภาคครัวเรือนหรือที่อยู่อาศัยในไทย มีมูลค่าราว 60,000 ล้านบาท และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมมีอัตราการเติบโตของเรทค่าไฟฟ้ามากถึง 30% การทำงานแบบ Work from home ยังคงได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ประกอบกับความนิยมใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย ทำให้แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมีแนวโน้มสูงมากยิ่งขึ้น นายทวนทอง ศรีวิเชียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, เอเนอร์จี้ลิบ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “EnergyLIB มาจาก Energy Liberty หรือเสรีภาพด้านพลังงาน เราพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเพื่อเป็นมากกว่าโซลาร์เซลล์โซลูชัน และมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบเก็บพลังงานคุณภาพสูงสำหรับครัวเรือนแบบครบวงจ
กกพ. เคาะ ลดค่าไฟเหลือ 4.45 บาท งวดที่ 3 เริ่มกันยายนนี้ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับลดลงจากงวดปัจจุบัน (พฤษภาคม-สิงหาคม 2566) จาก 4.70 บาทต่อหน่วย เหลืออยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย และให้มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนกันยายน 2566 จากการประชุมครั้งที่ 34/2566 (ครั้งที่ 862) เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟที และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ การพิจารณาดังกล่าว กกพ. ยึดหลักเกณฑ์ตามประกาศ กกพ. เรื่อง กระบวนการ ขั้นตอนการใช้สูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ พ.ศ. 2565 และได้พิจารณาประโยชน์ของประเทศ รวมถึงสภาพการแข่งขันและความสามารถในการให้บริการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงการให้บริการระยะยาวประกอบแล้ว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเพิ่มเติมที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายครัวเรือนให้ปรับเพิ่มขึ้นใน 3 หมวดหลักๆ ได้แก่ 1) ค่าไฟฟ้า ตามปริมาณการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ทำให้คาดว่าค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเฉลี่ยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. ในปี 66 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 974-1,124 บาท/ครัวเรือน เทียบกับช่วงเดือนอื่นๆ ของปี ที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 871 บาท/ครัวเรือน 2) ค่าอาหาร จากราคาวัตถุดิบที่ขยับสูงขึ้นตามสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารอาจมีต้นทุนส่วนเพิ่มจากการใช้น้ำแข็งและตู้แช่เพื่อเก็บวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ เป็นต้น และ 3) ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ จากการใช้จ่ายเพื่อรักษาโรคที่มากับความร้อน เช่น โรคไมเกรน อาหารเป็นพิษ โรคทางผิวหนัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 66 ค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนใน 3 หมวดดังกล่าว (สัดส่วนราว 39% ของค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั้งหมด) จะคิดเป็นมูลค่าราว 9,666 บาท/เรือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 65 ซึ่งอยู่ที่ราว 8,868 บาท/ครัวเรือน หรือขยายตัวร
4 ปัจจัยใหญ่ ทำต้นทุนผลิตน้ำพุ่ง ผู้ประกอบการ รับมืออย่างไร หาก ค่าน้ำ ปรับขึ้น? เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานข่าว นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กปน. ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลักการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบด้วย 1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน. ต้องเสีย 150 ล้านต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย 2. ค่าน้ำดิบจ่ายให้กับกรมชลประทานวันละ 3 ล้านบาท 3. ค่าไฟเพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟทีของรอบเดือนมกราคม-เมษายน 2566 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์ 4. ค่าธรรมเนียมการวางท่อเป็น 100 ล้านบาทต่อปี แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ กปน. จะตรึงค่าน้ำไว้ให้นานที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาลยังไม่ต้องการให้ขึ้นค่าน้ำ ขณะเดียวกัน พยายามบริหารจัดการต้นทุนทุกด้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การใช้ไฟฟ้า โดยจ่ายน้ำตามความต้องการใช้ เป็นต้น “ปัจจุบันกำลังพิจารณาอัตราค่าน้ำให้สอดรับต้นทุนเพิ่มขึ้น หลังไม่ได้ขึ้นค่าน้ำมา 23 ปี เพื่อบริหารสภาพคล่องด้านการเงิน เพราะใช้เงินลงทุนไป 42,000 ล้านบาท
เห็นบิลค่าไฟแล้วหนาว! เปิดใช้เท่าเดิม แต่ทำไม ค่าไฟแพงขึ้น MEA การไฟฟ้านครหลวง ชี้แจงค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นช่วงเดือนเมษายน 2566 นี้ ไม่ได้เป็นการขึ้นค่าไฟฟ้า เหตุเกิดจากอากาศร้อนสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้าเพิ่ม ยืนยันคิดคำนวณตาม คณะกรรมการ กกพ. พร้อมแนะวิธีประหยัดพลังงาน วันที่ 19 เมษายน 2566 นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง MEA ในฐานะโฆษก MEA เปิดเผยว่า จากในช่วงเดือนเมษายน 2566 นี้ที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าสงสัยว่าค่าไฟสูงขึ้นเพราะการไฟฟ้าขึ้นค่าไฟนั้น ทางการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดย MEA ยืนยันว่ายังใช้หลักเกณฑ์วิธีการคิดค่าไฟฟ้าจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าในอัตราตามที่นโยบายของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนด ทั้งนี้ สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่ https://www.mea.or.th/profile/109/111 สำหรับสาเหตุที่ทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นนั้น เนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ในบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำความเย็นต้องทำงานมากขึ้นและใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เห็นได้จากค่าพลังความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Maxim
ขนลุกหน้าร้อน! ค่าไฟบ้าน งวด พ.ค.-ส.ค. ปรับเป็น 4.77 บาท/หน่วย ภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรม ปรับลดลง วันที่ 18 เมษายน 2566 เว็บไซต์ ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เผยว่า ในงวดเดือนพ.ค.-ส.ค. 2566 กกพ. มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเป็นอัตราเดียวกันสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ กกพ. ได้พิจารณาหนังสือยืนยันจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึงความเหมาะสมของอัตราค่าไฟฟ้า 4.77 บาทต่อหน่วย สำหรับ ค่าเอฟที งวด ม.ค.-เม.ย. 66 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ในระดับ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเฉลี่ยรวมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น (ได้แก่ ประเภทธุรกิจ อุตสาหกรรม บริการ) อยู่ที่ 154.92 สตางค์ต่อหน่วย หรือเฉลี่ยที่ 5.33 บาทต่อหน่วย โดยในงวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 66) ที่เป็นอัตราเดียวทำให้ค่าไฟประเภทบ้านที่อยู่อาศัยปรับขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.05 บาทต่อหน่วย ขณะที่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ฯลฯ จะปรับลดลง 0.56 บาทต่อหน่วย
เคาะแล้ว! กกพ. แจ้งส่วนลดค่าไฟ อัตราใหม่ บ้านอยู่อาศัย เหลือ 24.62 บาทต่อเดือน วันที่ 6 ม.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แจ้งว่า ค่าบริการรายเดือนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายเล็ก กิจการขนาดเล็ก และกิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร มีผลบังคับใช้แล้ว โดยจะได้รับส่วนลดค่าบริการรายเดือนในอัตราใหม่ มีผลในรอบบิลเดือน ม.ค. 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ถือเป็นการสะท้อนต้นทุนการจดหน่วยพิมพ์บิลที่การไฟฟ้าสามารถลดได้จริงเพื่อให้มีความเหมาะสม นอกจากจะเป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้าแล้วยังสามารถช่วยลดค่าครองชีพได้อีกทางหนึ่ง โดยผู้ได้รับสิทธิ์ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า 3 ประเภท 1. ประเภทบ้านอยู่อาศัย ใช้มากกว่า 150 หน่วย และบ้านอยู่อาศัย แรงดันต่ำ อัตรา TOU คิดในอัตรา 24.62 บาทต่อเดือน จากเดิม 38.22 บาทต่อเดือน 2. กิจการขนาดเล็ก แรงดันต่ำคิดอัตรา 33.29 บาทต่อเดือน จากเดิม 46.16 บาทต่อเดือน 3. กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร อัตรา TOU คิดอัตรา 204.07 บาทต่อเดือน จากเดิม 228.17 บาทต่อเดือน ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เตือนแล้วนะ ค่าไฟแพงถึงปีหน้า กฟผ. แนะช่วยกันประหยัด ต้นทุนจะได้ต่ำลง วันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าปี 2566 จะทรงตัวระดับสูงต่อไป เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงหลักโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติผันแปรตามราคาน้ำมัน ขณะที่ไทยต้องพึ่งพาก๊าซแอลเอ็นจีนำเข้าถึง 20% ที่มีราคาสูงมาก หากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อต่อเนื่องจะยิ่งทำให้ราคาก๊าซแอลเอ็นจีมีแนวโน้มแพงมาก อาทิ หากราคาก๊าซแอลเอ็นจีอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู เมื่อเทียบเป็นหน่วยค่าไฟฟ้าของไทยจะสูงถึงกว่า 13.30 บาทต่อหน่วย ดังนั้น หากผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันประหยัด หรือใช้ไฟฟ้าให้น้อยลงมากที่สุด จะทำให้ใช้ก๊าซแอลเอ็นจีน้อยลง ต้นทุนค่าไฟฟ้าก็จะต่ำลง “การบริหารต้นทุนค่าไฟฟ้า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างดำเนินการปรับแผนเชื้อเพลิงให้เหมาะสม ทั้งใช้ดีเซลทดแทนแอลเอ็นจีที่แพงกว่า ยืดอายุโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ และ กฟผ. ได้สั่งจ่ายจากโรงไฟฟ้าต้นทุนต่ำที่สุดก่อน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ พร้อมปรับระบบไฟ
จะเกินลิมิตแล้ว! กฟผ. วอนรัฐช่วยดูแล ภาระค่าเชื้อเพลิง ใกล้ทะลุ 1 แสนล้าน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 65 เฟซบุ๊ก กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โพสต์ระบุ กฟผ. เผย แบกรับภาระค่าเชื้อเพลิง ใกล้ทะลุ 1 แสนล้านบาท วอนรัฐช่วยดูแล พร้อมแจง กำไรสะสมไม่ใช่เงินสด ไม่สามารถนำมาช่วยพยุงค่าไฟฟ้าได้ กฟผ. เผยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ร่วมแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้กู้เงินนับหมื่นล้านมาเสริมสภาพคล่องแล้วแต่ยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องขอกู้เงินเพิ่ม วอนรัฐช่วยดูแล เพื่อมิให้กระทบความมั่นคงทางพลังงานในระยะยาว ส่วนกำไรสะสมเป็นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานในรูปของสินทรัพย์เพื่อผลิตและส่งไฟฟ้ามิใช่เงินสดจึงไม่สามารถนำมาช่วยพยุงค่าไฟฟ้าได้ นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาวิกฤตราคาพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมรับภาระค่าไฟฟ้ากับประชาชนตามแนวทางบริหารค่าไฟฟ้าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่งวดเดือนกันยายน 2564 จนถึงปัจจุบันรวมแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้ กฟผ. จะพยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการก
แพงจนอยากกรี๊ด! ค่าไฟ FT เตรียมปรับขึ้น 5 บ./หน่วย เริ่มงวด ก.ย. – ธ.ค. 65 วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าว แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน และปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) ในงวดใหม่เดือนก.ย.-ธ.ค. 2565 ซึ่งมีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย และอาจทำให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับเพิ่มสูงขึ้นถึงเกือบ 5 บาทต่อหน่วยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ จากงวดเดือนพ.ค.-ส.ค. อยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย โดย กกพ. จะประกาศค่าเอฟทีอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนก.ค.นี้ หรือต้นเดือนส.ค. เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติต้นทุนต่ำในอ่าวไทย และยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน “ปลายสัปดาห์นี้ กกพ. จะประชุมทบทวนอีกครั้ง เพื่อประกาศค่าเอฟที ราคาแอลเอ็นจีนำเข้าตอนนี้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนพุ่งสูงแตะระดับ 30 กว่าเหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูแล้ว จากเดิมอยู่ที่ 20 กว่าเหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู เป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุม ซึ่ง