จัดพระราชพิธีฯ
เปิดบันทึก พระมงกุฎเกล้าฯ ทรงเล่าความรู้สึก ขณะประทับพระราชยาน ‘แบบคิงแท้ๆ’ เมื่อวานนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.40 น. จนถึงเกือบเวลา 24.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค จากพระบรมมหาราชวัง ไปยังวัดบวรนิเวศราชวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม รวมระยะเวลาเสด็จพระราชดำเนินกว่า 6 ชั่วโมง Thailand’s newly crowned King Maha Vajiralongkorn and Queen Suthida are seen during the coronation procession, in Bangkok, Thailand May 5, 2019. REUTERS/Soe Zeya Tun พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย สายสะพายจักรี สายสร้อยจุลจอมเกล้า ทรงพระมาลาเส้าสูง และทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ประทับพระราชยานพุดตานทอง นับเป็นริ้วขบวนเสด็จพระดำเนิน โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ที่สง่างาม สมพระเกียรติยศยิ่ง สร้างความประทับใจแก่พสกนิกรชาวไทย ทั้งปวง เสียง “ทรงพระเจริญ” จากประชาชน กึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งทำเอาหลายคนที่รับเสด็จฯ ตลอดเส้นทาง ต้องเก็บภาพประทับใจไว้ในกล้องส่วนตัว และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุด
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งแก่นายกฯ จัดพระราชพิธีฯ ให้ประหยัด-ไม่หรูหราเกิน เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่ห้องประชุม 1 อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แถลงข่าวงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 1/2562 โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายพิธีการ เป็นประธาน และมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ร่วมแถลงข่าว นายวิษณุ กล่าวว่างานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่กำลังจะมีขึ้นในอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้านี้ ถือว่าเป็นพระราชพิธีสำคัญยิ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เนื่องจากไม่ต้องมีการก่อสร้างถาวรวัตถุใด เพียงแต่นำโบราณวัตถุเดิมที่มีอยู่มาบูรณะซ่อมแซมใหม่ ส่วนใหญ่หนักในเรื่องของขั้นตอนพิธีซึ่งเป็นพิธีพราหมณ์ตามโบราณพระราชประเพณี แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ได้แก่ พระราชพิธีเบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องปลาย เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิ