จีดีพี
สศช. เผยหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งอันดับ 11 ของโลก มูลค่ารวม 12.97 ล้านล้านบาท ใกล้แตะภาวะวิกฤตที่ 80% ของจีดีพี ส่วนหนี้เสียไตรมาส 2/2562 ก็พุ่ง 10% โดยเฉพาะบัตรเครดิต เร่งจับตาใกล้ชิด หนี้ครัวเรือนไทยพุ่งอันดับ 11 โลก – นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช. กำลังจับตาสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดจากตัวเลขหนี้ครัวเรือนในไตรมาสแรกปี 2562 พบว่ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2560 โดยปัจจุบันมีมูลค่ารวมถึง 12.97 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.3% และคิดเป็นสัดส่วน 78.7% ต่อจีดีพี เข้าใกล้ภาวะวิกฤตที่ 80% ต่อจีดีพีแล้ว ซึ่งการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ สศช. มองว่า เป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล เพราะสัดส่วนหนี้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นการเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว โดยปัจจุบันตัวเลขหนี้ครัวเรือนของไทยก็ติดอยู่ในอันดับที่ 11 จาก 74 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นอันดับที่ 2 ของเอเชีย รองจากประเทศเกาหลีใต้ ขณะเดียวกัน หากพิจารณาตัวเลขภาพรวมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลในไตรมาสสองปี 2562 พบว่า
ศูนย์วิจัยฯ ม.หอการค้า ชี้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ช่วงขาลง ประเมินส่งออกติดลบ จีดีพีไทยโตไม่ถึง 3.5% คาดเห็นความชัดเจนด้านเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงเดือนต.ค.นี้ เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ช่วงขาลง – นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนเม.ย. 2562 ว่า ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 375 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-6 พ.ค. 2562 โดยผลการสำรวจที่น่าสนใจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ 46 ส่วนการคาดการณ์ในอนาคตอยู่ที่ 49.6 เป็นครั้งแรกที่มีการปรับตัวต่ำกว่า 50 จุดทั้งปัจจุบันและอนาคต ซึ่งดัชนีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงขาลง โดยมีผลตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จากปัจจัยทางเรื่องของการเมืองไม่นิ่ง และสภาพเศรษฐกิจ เห็นได้จากการประเมินของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทย ในไตรมาส 1 อยู่ที่ 2.8% ทำให้ศูนย์พยากรณ์ฯ ประเมินไตรมาส 2 น่าจะเติบโตได้ที่ 3-3.2% ทำให้ครึ่งปีแรกของโตอยู่ที่ประมาณ 2.8-3% ขณะที่ครึ่งปีหลังมองว่าหากไม่สามารถทำให้เติบโตได้ที่ 4
เมื่อวานนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวในการแถลงผลงานครบรอบ 2 ปีรัฐบาลว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จีดีพีอยู่ที่ 0.8 % ปัจจุบันโตขึ้น 3.5% ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะอยู่ที่ 3.2% ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ คาดว่าจีดีพีปีอยู่ที่ 3.4-3.5% เราพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว เราไม่ได้หลงทาง เรามาถูกทางแล้ว นายสมคิดยอมรับว่า แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีพอ เพราะการเติบโตยังไปไม่ถึงประชาชนรากหญ้า โดยเฉพาะเกษตรกรที่เผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ น้ำท่วม น้ำแล้ง เมื่อเกษตรกรยังลำบากอยู่ ทำให้เงินหมุนไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงต้องหาทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและลดรายจ่าย โดยเฉพาะภาวะหนี้สิน การปรับโครงสร้างหนี้ ฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำอย่างแรกคือ การพัฒนาโครงการต่างๆ ในชนบทให้เข้มแข็งขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า ดึงการท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ที่รัฐบาลหมดงบประมาณไปกับการพัฒนาฐานรากจำนวนมาก อย่างที่สองคือ การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งทางรถไฟ สนามบิน มอเตอร์เวย์ที่จะเพิ่มอีก 3 เส้นทา