ตาบอด
หนุ่มกะเหรี่ยงตาบอด สู้ไม่ท้อ ตั้งโรงงานผลิตเนยถั่วคุณภาพ ทำส่งขายห้างใหญ่มีสาขาทั่วประเทศ อย่าง เทสโก้ โลตัส ‘พอลร์ ผู้พิชิตไพร’ ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง วัย 40 กว่า พิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง ที่ความมืดมัวไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ต่อสู้จนวันนี้มีโรงงานขนาดย่อมผลิตเนยถั่ว น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากงา จัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ พอลร์ ฟู้ด ที่สำคัญ ยังเป็นพาร์ตเนอร์ผลิตเนยถั่วส่งขายห้างยักษ์ใหญ่อย่าง เทสโก้ โลตัส “ย้อนไปเมื่อปี 2541 ขณะศึกษาปริญญาตรีด้านบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม ตาของผมค่อยๆ พร่ามัว บอดลงช้าๆ เป็นผลมาจาก โรคเบเซ็ต (Behcet’s) ซึ่งทำให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรังในหลอดเลือดทั่วร่างกาย เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เข้าออกโรงพยาบาลอยู่ 3 ปี กระทั่งปี 2544 ตาบอดสนิททั้งสองข้าง จำเป็นต้องหยุดพักการเรียนไป” เมื่อตาบอดสนิทจะให้ใช้ชีวิตในเมืองหลวงเพียงลำพังคงไม่ใช่เรื่องง่าย คุณพอลร์ตัดใจกลับบ้านเกิด จังหวัดเชียงใหม่ ขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นาน 2 ปี ร่างกายซูบผอม จนคนในครอบครัวคิดว่าอาจจะอยู่ได้ไม่นาน “โชคดีที่ผมได้กำลังใจจากพ่อแม่ ทำให้ฮึดสู้กลับมาเรียนต่อปริญญาตรี ครั้งนี้เลือกเรียนด้าน
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมสร้างโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ในโครงการ ติดปีกเติมฝัน “ทำดีให้คน (มอง) เห็น” ชวนทุกคนร่วมกันมอบแสงสว่างให้ผู้ป่วยโรคตา คุณทำได้ นายประภาส ทองสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว เป็นโรงพยาบาลของรัฐที่ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของภาครัฐ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในประเทศไทยที่ขอแยกตัวออกมาได้ แพทย์และพยาบาลมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทุกคนถูกฝึกให้สามารถผ่าตัดต้อกระจก โดยหมอหนึ่งคนจะใช้เวลาเพียง 8 นาทีในการผ่าตัดคนไข้ เหตุที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการผ่าตัดเป็นเพราะผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการมีมากมายมหาศาล ความตั้งใจของโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้วคือต้องการสร้างอาคารไว้เป็นพื้นที่สำหรับรักษาคนไข้ จะได้ไม่ต้องลำบากเดินทางไปรักษาในกรุงเทพฯ บางคนจองคิวกว่าจะได้ผ่าใช้เวลานาน 3 ปี ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงเข้าร่วมสนับสนุนการหาทุนก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว เนื่องจากเล็งเห็นถึงปัญหาของจำนวนผู้ป่วยภาวะตาบอดที่ต้องทนทุกข์ในโลกอันมืดมิดมากกว่า 100,000 ราย ทั้งที่โรคเหล่านี้แก้ไขหรือชะลอไม่ให้เกิดภาวะตาบอดได้ หากได้รับการรักษาอย่
รู้จัก ‘พอลร์ ผู้พิชิตไพร’ หนุ่มกะเหรี่ยงตาบอด สู่เจ้าของกิจการเนยถั่ว “ความพิการทางสายตา ไม่สามารถทำร้ายจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนหินผาของเขาได้เลยพี่” ฉันได้ยินเรื่องราวของผู้ชายคนนี้จากน้องรักคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่สู้ชีวิตยิบตาน่าชื่นชม แต่เธอบอกฉันว่าเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตเธอเบาหวิวยิ่งนัก “เขาสู้มากจริงๆ พี่ ฟังแล้วรู้สึกตัวเองจะท้อไม่ได้เลย” “พอลร์ ผู้พิชิตไพร” ผู้ชายเชื้อสายกะเหรี่ยงที่เราพูดถึงวันนี้ เป็นรุ่นน้องเรียนมัธยมต้นมากับเธอ เขาเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี ท่าทางร่าเริงแจ่มใส แยกย้ายกันไปกว่า 20 ปี เธอจำได้เลือนรางเท่านี้ จนไม่นานนี้พี่ชายของพอลร์มาขอเบอร์โทรศัพท์เธอไป บอกว่าพอลร์ต้องการติดต่อเพื่อขอให้ช่วยเรื่องสื่อโฆษณาในกิจการที่เขาทำ วันหนึ่งเขาก็โทรกลับมา “ผมพอลร์นะ พี่จำผมได้ไหม?” แน่นอนเธอจำได้ดี เสียงเขาไม่เปลี่ยน ยังคงร่าเริงอยู่เช่นนั้น 2 คนพูดคุยสนุกสนาน เธออธิบายงานให้เขาฟัง พยายามอธิบายให้เขาเห็นภาพ กระทั่งประโยคหนึ่ง ทำให้เธอนิ่งอึ้ง “พี่ ผมตาบอด” พอลร์ เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นโรคเบเซ็ต (Behcet’s) ซึ่งทำให้เกิดอาการอักเส
หัวใจน่ากราบ แม่ครูไอซ์ เปิดใจ กว่าจะมาถึงวันนี้ เคยเกือบฆ่าตัวตาย (คลิป) กลายเป็นเรื่องราวซาบซึ้งเมื่อโลกออนไลน์มีการเผยแพร่เรื่องของครูไอซ์ นายดำเกิง มุ่งธัญญา อายุ 25 ปี ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ที่ถึงแม้จะเป็นผู้พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง แต่มีความเพียรพยายามในการศึกษา จนจบการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู สอนหนังสือนักเรียนตามความฝันได้สำเร็จ ซึ่งล่าสุดได้รับการติดต่อบริจาคดวงตาให้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ประสาทตาของหนุ่มนั้นเสียหายมาตั้งแต่เด็กจึงไม่สามารถรับดวงตาที่บริจาคได้ โดยล่าสุด มีการเผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ของครูไอซ์ และคุณแม่ ซึ่งทุ่มเทเต็มที่เพื่อดูแล ครูไอซ์อย่างดี ทั้งทำงานไปด้วย และดูแลลูกไปด้วยอย่างเต็มที่ โดย คุณแม่บุญเรือน สร้อยทอง ได้เปิดใจว่า ตั้งแต่คลอดลูกต้องเปลี่ยนงานถึง 4 ครั้ง เคยครั้งหนึ่งที่คิดว่า จะฆ่าตัวตาย โดยเอาไอซ์ไปด้วย เพราะเครียดมาก ไม่มีทางออกว่าจะเลี้ยงลูกได้ยังไง ส่วนครูไอซ์ นั้น เปิดใจว่า ถ้ามองเห็นได้ สิ่งแรกที่อยากเห็นก็คือหน้าคุณแม่นั่นเอง