ทรัมป์
ปี 2568 อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลก การกลับมาอย่างแข็งกร้าวของนโยบายกีดกันทางการค้าภายใต้การนำของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าเฉลี่ยของสหรัฐฯ ทะยานสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ยุค 1930s และตอกย้ำความเกี่ยวโยงอันซับซ้อนของเศรษฐกิจโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผลกระทบระลอกแล้วระลอกเล่ากำลังถาโถมสู่ตลาดทั่วโลก ดังที่รายงานล่าสุดของ Binance หัวข้อ “Tariff Escalation and Crypto Markets : Impact Analysis” ได้วิเคราะห์ถึงนัยสำคัญเหล่านี้ ในบริบทของประเทศไทยและภูมิทัศน์สินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงผลกระทบใหญ่จากสิ่งที่อาจเรียกว่า “คลื่นสึนามิภาษี” เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่จับตามอง แต่ต้องวางกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อหาโอกาสท่ามกลางการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลกครั้งสำคัญนี้ ประเด็นนี้ลึกซึ้งกว่าแค่ตัวเลขการค้า แต่เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของโลกทั้งระบบ การบังคับใช้อัตราภาษีแบบครอบคลุมควบคู่กับมาตรการที่มุ่งเป้าไปยังประเทศเศรษฐกิจหลัก นับเป็นการหักเหทิศทางครั้งสำคัญ ซึ่งท้าทายแนวทางการเปิดเสรีทางเศรษ
คู่มืออยู่รอด ยุค “ทรัมป์” ผันผวน : SMEs วางแผนระยะสั้น คุมต้นทุน ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย แถลงข่าว Trade War : Global Cost, Local Risks – มหาสงครามการค้า ‘เกมแพงของโลก เดิมพันเศรษฐกิจไทย’ ว่า คืนวันที่ 9 เมษายน 2568 ตามเวลาสหรัฐฯ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ประเทศต่างๆ ออกไป 90 วัน ส่วนจีนโดนภาษีที่ 125% เนื่องจากจีนตอบโต้เก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 84% สำหรับประเทศไทย ที่แม้จะโดนเลื่อนเก็บภาษีนำเข้า 36% ออกไปก่อน เหลือการจัดเก็บเพียง 10% เท่ากับประเทศอื่นส่วนใหญ่ แต่ก็นับว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ความไม่แน่นอน และความตึงเครียดที่ยืดเยื้อ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จึงได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2568 จาก 2.7% ลงเหลือ 1.8% อย่างไรก็ดี บนความไม่แน่นอน หากมีการจัดเก็บภาษีสูงขึ้น เศรษฐกิจไทยอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคใน Q3-Q4 และโตเพียง 1.4% แต่ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยแม้เพียงเล็กน้อย และความผันผวนทั่วโลก เศรษฐกิจไทยอาจชะลอลงหนักกว่าคาด มาตรการภาษีทรัมป์จะทำกา
คนไทยในอเมริกาสะเทือน! ทรัมป์ขึ้นภาษี 37% ร้านอาหารไทยเสี่ยงปรับราคา-เสียอัตลักษณ์ เรียกได้ว่าสะเทือนทุกหย่อมหญ้า หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีศุลกากร สินค้านำเข้าในสหรัฐฯ ทุกประเภท 10% และจะเก็บภาษีเพิ่มเติมกับหลายประเทศ พบว่า ไทย ถูกเก็บภาษีถึง 37% ในขณะที่จีน 34% เวียดนาม 46% และไต้หวัน 32% ทำให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ โดยเฉพาะคนไทยในอเมริกาที่ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าจากไทยเป็นหลัก วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณอาท-สุภกิจ ภัทรธีรานนท์ เจ้าของเพจ ร้านเด็ด อเมริกา เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคและผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในอเมริกา ไทยเสียเปรียบจากนโยบาย America First คุณอาท กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศก่อนหาเสียงอยู่แล้ว ว่าเขาจะใช้นโยบาย America First ที่จะให้อเมริกาได้ดุลการค้ากลับมา ทำให้ทรัมป์ต้องการปรับสมดุลผ่านการขึ้นภาษี ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ สินค้านำเข้าอย่างเหล็กก็เคยโดนมาตรการภาษีมาแล้ว แต่รอบนี้น่าตกใจ เพราะ อัตราภาษีสูงถึง 37% ซึ่งเกือบแตะ 50% การขึ้นภาษีรอบนี้กระทบเป็นวงกว้าง ไม
ผปก.ไทย ห่วงนโยบายขึ้นภาษีจีน “มองไม่เห็นทาง เศรษฐกิจอเมริกาจะดีขึ้น” คุณหมู-ชัยวัฒน์ ศิริญาณ เจ้าของ “มณีไทย-Marnee Thai” ร้านอาหารไทยอายุกว่า 38 ปี ที่ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” เกี่ยวกับสถานการณ์ทำธุรกิจของคนไทยในสหรัฐฯ เวลานี้ว่า ตอนนี้ภาพโดยรวมยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนโยบายจับคนต่างด้าวที่อยู่แบบผิดกฎหมายแล้วมีคดีอาชญากรรมหรือยาเสพติด สำหรับกรณีคนที่อยู่แบบผิดกฎหมายแต่ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ยังไม่มีผลกระทบ “มีหลายคนพูดตอนเลือกตั้งว่า ถ้าทรัมป์มาเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่พอเขารับตำแหน่งปั๊บ ประกาศนโยบายหลายเรื่องทำให้คนไทยเจ้าของธุรกิจที่มีคนงานที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย แอบกังวลด้วยว่าอนาคตจะเป็นยังไง” คุณหมู เผยอย่างนั้น ก่อนบอกต่อกรณี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และสินค้าจากจีน 10% โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 4 ก.พ. นี้ ว่า นโยบายนี้ ย่อมจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบที่มาจากเมืองจีนสูงขึ้นตามไปด้วย มองยังไงก็ยังไม่เห็นหนทางว่าเศรษฐกิจอเมริกา
ปี 2025 ถ้า “เขา” มา เศรษฐกิจไทย-ใต้เงาทรัมป์ จะเกิดอะไรบ้าง ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 5 พ.ย. 2024 กำลังจะส่งผลให้เกิดความผันผวนและความเปลี่ยนแปลง สำนักวิจัยฯ ประเมินฉากทัศน์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากรองประธานาธิบดีแฮร์ริสชนะ คงเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่มาก เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะดำเนินนโยบายต่อเนื่องจากประธานาธิบดีไบเดน ดังนั้น หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เศรษฐกิจไทยปี 2025 จะเต็มไปด้วยทั้งโอกาสและความท้าทาย ด้านบวก (1) เศรษฐกิจโลกจะรอดจากภาวะถดถอย เพราะมาตรการลดภาษีนิติบุคคลจะกระตุ้นให้ธุรกิจในสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานและปรับขึ้นค่าแรง ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตขึ้น (2) ราคาน้ำมันดิบโลกจะลดลงจากนโยบายส่งเสริมการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ และการทำข้อตกลงที่เป็นประโยชน์กับประเทศในตะวันออกกลางและรัสเซีย เป็นผลดีต่อประเทศที่นำเข้าพลังงานอย่างไทยและจะช่วยลดค่าครองชีพของคนในประเทศ และ (3) มีการย้ายฐานการลงทุนมาไทยเพิ่มขึ้น เพราะภาษีการค้าที่กำหน
บริษัททัวร์หัวใส จัดทัวร์เฉพาะกิจ ตามรอยประชุม ‘ทรัมป์-คิม’ สองผู้นำระดับโลก การจัดทัวร์ตามรอยเหตุการณ์สำคัญ หรือเหตุการณ์ที่กำลังเป็นข่าวซึ่งอยู่ในความสนใจของสังคม กลายเป็น “สินค้าใหม่” ที่มีบริษัททัวร์หลายแห่งเล็งเห็นช่องทางโกยเงิน อย่างเช่น ฉบับที่แล้ว ที่เราเขียนถึงธุรกิจทัวร์กัญชาในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่มีบริษัททัวร์หลายเจ้าจัดขึ้น หลังจากรัฐแคลิฟอร์เนีย มีกฎหมายให้ กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย อ่านข่าว ธุรกิจ “ทัวร์กัญชา” เบ่งบาน พาไปดูตั้งแต่แปลงปลูก แถมได้สูบกับคนดัง หรือ ล่าสุด เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีบริษัททัวร์หลายเจ้า จัดโปรแกรมทัวร์ตามรอยการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่าง นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางไปประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่ 2 กันที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทันทีที่รู้ข่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะเดินทางไปประชุมสุดยอดกันที่กรุงฮานอย ลี พาร์รี นักศึกษาหนุ่มชาวอังกฤษวัย 36 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศจีน ก็รู้ทันทีว่า เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของเ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ได้ออกบทวิเคราห์ กรณีทีหากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้นโยบายกีดกันการค้าทันทีหลังถูกแต่งตั้ง ในระยะสั้นจะผลกระทบต่อไทยไม่มาก โดยสินค้าที่ไดรับผลกระทบคือ เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ แต่จะส่งผลดีต่อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร และอุปกรณ์การแพทย์ รวมแล้วคิดเป็นความเสียหายสุทธิ 16,000 ล้านบาท หรือราวร้อยละ 0.2 ของการส่งออกทั้งหมดของไทยในปีนี้ รายงานระบุว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์ ในวันรับตำแหน่งของนายทรัมป์นั้นได้ช่วยสร้างความชัดเจนในนโยบายโดยเฉพาะในด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทรัมป์มองว่านโยบายการค้าเสรีของสหรัฐฯที่มีมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีรูสเวลท์ เปิดช่องให้คู่ค้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อประโยชน์ทางการค้าและสร้างสภาวะการค้าขาดดุลกับสหรัฐฯ เฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาเป็นมูลค่ามหาศาลกว่า 8 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยขาดดุลกับจีนเป็นอันดับหนึ่ง ถึง 3 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวร้อยละ 40 ของการขาดดุลทั้งหมด (ส่วนกับไทยขาดดุลเป็นอันดับ 12 เพียง 15,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2 เท่านั้น
แม้ว่าจะถูกสบประมาทเอาไว้ว่า ไม่น่าจะทำได้ตามที่หาเสียง แต่ล่าสุดว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ “นายโดนัลด์ ทรัมป์” ควงคู่กับ “นายไมก์ เพนซ์” ว่าที่รองประธานาธิบดีและผู้ว่ารัฐอินเดียนา ก็ได้เริ่มก้าวแรกด้วยการเจรจากับยักษ์เครื่องปรับอากาศ “แคเรียร์” (Carrier) ให้คงฐานผลิตในรัฐอินเดียนา จากที่ก่อนหน้าบริษัทมีแผนย้ายฐานไปยังเม็กซิโก ผลการเจรจาสัญญาณบวก ทรัมป์สามารถดึงฐานการผลิตให้ยังดำรงอยู่ในประเทศ เท่ากับรักษาตำแหน่งงานให้แก่ชาวอเมริกันกว่า 1,000 ตำแหน่งไว้ โดยแคเรียร์เผยข้อมูลว่า ได้รับข้อเสนอที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจที่จะไม่ย้ายฐานการผลิตออกไป แต่ไม่ได้ระบุว่าข้อเสนอนั้นคืออะไร โดยถ้อยคำแถลงสื่อถึงการเจรจาต่อรองที่เป็นมิตร แม้ว่าระหว่างการหาเสียง นายทรัมป์เคยขู่ว่าจะเก็บภาษีศุลกากรชนิดขูดเลือดขูดเนื้อถึง 35% หากย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศ ก้าวแรกที่สำคัญนี้อาจเป็นสัญญาณให้เห็นว่า ทั้งนายทรัมป์และทีมจะพูดจริงทำจริงในการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% เป็น 15% ตามที่เคยประกาศไว้ ขณะเดียวกันก็น่าจะเอาจริงเรื่องการควบคุมชายแดนประเทศ รื้อการเจรจาการค้าที่เค
เป็นข่าวที่เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 4 พ.ย. จนวันนี้ 9 พ.ย. พิสูจน์แล้วว่าเจ้าจ๋อหมอดู ชื่อเก่อต้า ทำนายดวงชะตาราศีในเหตุการณ์ดังๆ ของโลกอย่างแม่นยำ โดยล่าสุดมันเพิ่งทายว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทั้งๆ ที่ตอนนั้นยังไม่มีวี่แววใดๆ This file photo taken on November 3, 2016 AFP PHOTO / STR รายงานระบุว่า เจ้าเก่อต้า อายุ 5 ปี ประจำที่สวนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สือเยี่ยนหู เมืองฉางชา มณฑลหูหนาน เคยทำนายมาก่อนว่า โปรตุเกสจะคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 ด้วยการเดินไปกินกล้วยตรงธงของโปรตุเกส ซึ่งต่อมาทีมฝอยทองเอาชนะเจ้าบ้านฝรั่งเศสได้จริงๆ 1-0 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ AFP PHOTO / STR / China OUT ส่วนล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. เจ้าลิงน้อยทำนายว่าทรัมป์จะเป็นผู้ชนะด้วยการเดินไปจูบแผ่นไม้ที่ทำเป็นรูปทรัมป์ เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดากองเชียร์ในตอนนั้น เจ้าเก่อต้าจึงกลายเป็นสัตว์หมอดูที่ดังต่อจากหมึกพอล แห่งสวนน้ำในเยอรมนี หลังจากหมึกพอลทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2012 ที่ทีมชาติเยอรมันแข่งกับทีมอื่นๆ ถูกหมด จนกระทั่งนัดชิงก็ยังทำนายถูกว่า สเปนจะเอาชนะเนเธอร
เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่าในขณะที่ยังไม่มีการประกาศผลแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่มีแนวโน้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มีรายงานว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คน รวมตัวกันเพื่อประท้วงทรัมป์บริเวณด้านหน้าทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา บางคนปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ บางคนตะโกนด่าทอนายทรัมป์ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่พากันประท้วงนโยบายเรื่องผู้อพยพของนายทรัมป์ ที่เคยประกาศไว้ว่าจะเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย และจะสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเม็กซิโก เพื่อกันไม่ให้ผู้อพยพชาวเม็กซิโกเข้าไปในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่เว็บไซต์ kron4.com รายงานว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงนายทรัมป์หลายร้อยคนพากันเดินขบวนจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์คลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนเทเลกราฟ หลังจากที่เริ่มมีแววว่านายทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ด้าน latimes.com รายงานว่า ชัยชนะของทรัมป์ได้ทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงขึ้นทั่วรัฐแคลิฟอร์เนี