ทะเล
จัดระเบียบหาดบางแสน ตั้งตู้สูบบุหรี่ บริการนักท่องเที่ยว ลดควันมือสอง เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2563 เทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จัดกิจกรรมโครงการการพัฒนาพื้นที่ชายหาดบางแสนให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ “ปอดสะอาด ตับแข็งแรง ใจแสนสุข ณ หาดบางแสน” ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการ “การพัฒนาพื้นที่ชายหาดบางแสนให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสร้างประสบการณ์ต้นแบบส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ” มีกิจกรรมสำคัญที่ร่วมกันขับเคลื่อน ได้แก่ 1. การส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้มีบทบาทในการลดปัจจัยเสี่ยงแอลกอฮอล์และยาสูบ 2. สนับสนุนนโยบายการลดปัจจัยเสี่ยงแอลกอฮอล์ และยาสูบในพื้นที่ชายหาดบางแสน 3. เชื่อมประสานผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่สนับสนุนการลดปัจจัยเสี่ยงแอลกอฮอล์และยาสูบ และ 4. จัดกิจกรรมส่งเสริมการลดปัจจัยเสี่ยงแอลกอฮอล์และยาสูบ “จากรายงานการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราขอ
เก็บมา 25 ปี! เพิ่งรู้ว่ามีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท สองพ่อลูกหอบ อ้วกปลาวาฬ หนัก 11 กิโลกรัม ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เผยทีแรกที่เก็บได้คิดว่าเป็นก้อนขี้เทียน คิดจะนำไปหลอมทำเทียนพรรษาหลายครั้ง แต่ก็มีอะไรมาดลใจ กระทั่งมารู้ว่าเป็นของมีค่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายวิชาญ หรือ ลุงอ๊อด อินทอง อายุ 64 ปี ชาวต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย น.ส.วรรษา หรือ น้องฝน อินทอง อายุ 23 ปี สองพ่อลูก ได้นำอำพันทะเล หรือ อ้วกปลาวาฬ น้ำหนัก 11 กิโลกรัม มีลักษณะสีส้มคล้ายหินอ่อน ใส่ถุงหิ้วพลาสติกเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี เพื่อยืนยันแสดงความเป็นเจ้าของ หลังพบเจอเมื่อปี 2537 หรือเมื่อ 25 ปีก่อน บริเวณชายหาดใกล้บ้านพัก ซึ่งล่าสุดได้มีการโพสต์ลงประกาศทางสื่อสังคมออนไลน์และสอบถามผู้เชี่ยวชาญจนนักธุรกิจชาวฝรั่งเศสทราบและเห็น จึงติดต่อมาขอซื้อในราคากิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ต่อมาเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงนำมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายวิชาญ กล่าวว่า เมื่อปี 2537 หรือประมาณ 25 ปี ครอบครัวของตนเปิดกิจการร้านอาหารอยู่ริมทะเลบ้านหาดทรายรี