ทุเรียน
“วิมานหนาม” กฎหมายไทยพร้อมแค่ไหน กับธุรกิจของคู่รักเพศเดียวกัน? การทำธุรกิจร่วมกับคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นชาย-หญิง หรือคู่รัก LGBTQ+ ก็ตาม ล้วนเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นการร่วมกันสร้างสิ่งต่างๆ ด้วยกันแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การทำธุรกิจร่วมกับคนที่เรารัก อาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด และยังมีปัจจัยต่างๆ นำมาซึ่งความขัดแย้งบางประการก็เป็นได้ หากไม่มีการเตรียมพร้อมหรือวางแผนอย่างรอบคอบ ภาพยนตร์เรื่อง “วิมานหนาม” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิทางกฎหมาย สิทธิทางสังคม หรือแม้กระทั่งความเท่าเทียมทางเพศ เนื้อหาในภาพยนตร์ล้วนสะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับการทำธุรกิจร่วมกันระหว่างคู่รักเพศทางเลือก ที่ในบางครั้งเส้นทางของธุรกิจอาจไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แต่อาจจะโรยไปด้วยหนามทุเรียนก็เป็นได้ เรื่องย่อของภาพยนตร์ “วิมานหนาม” จากเว็บไซต์ majorcineplex เล่าว่า ทองคำ ที่นำแสดงโดย เจฟ ซาเตอร์ และ เสก (เต้ย พงศกร) คู่รักต่างเพศที่ทุ่มเทสร้างชีวิตขึ้นมาด้วยกัน ทั้งคู่เป็นเจ้าของบ้านและสวนทุเรีย
กลับมาอีกครั้ง! บุฟเฟต์ทุเรียนหมอนทอง ส่งตรงจากสวน ที่ Great Harbour ICONSIAM ชั้น 6 เกรท ฮาร์เบอร์ (Great Harbour International Buffet) ร้านอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ เอาใจทุเรียนเลิฟเวอร์ ด้วยบุฟเฟต์ทุเรียนหมอนทองคุณภาพ หลังได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ครั้งนี้กลับมาแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิม กับโปรโมชันสุดพิเศษ! รับประทานอาหารบุฟเฟต์ราคาเต็ม และเพิ่มเงินเพียง 199 บาท สามารถรับประทานทุเรียนได้ไม่อั้น นอกจากนี้ เชฟมากฝีมือของร้านเกรท ฮาร์เบอร์ ยังรังสรรค์เมนูของหวาน อาทิ ชีสเค้กทุเรียน, มาการองทุเรียน, และข้าวเหนียวทุเรียน เพื่อให้ลูกค้าลิ้มลองรสชาติเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2567 เกรท ฮาร์เบอร์ ยังสร้างความเพลิดเพลินในสไตล์บุฟเฟต์นานาชาติกับอาหารจาก 6 สเตชัน จาก 4 สัญชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น ตะวันตก จีน และไทย กว่า 100 เมนู ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรมสด, กุ้งแม่น้ำเผา, ซูชิ, ซาชิมิ, สเต๊ก, สลัด, เครปเป็ดย่าง, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, สปาเกตตี, เมนูอาหารไทยยอดฮิต อย่าง ผัดไทย ไปจนถึงขนมหวานหลากหลายเมนู ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,099++ เท่านั้น (เพิ่มเติมค่า Vat 7% และ Service Charge 10%) พร้อมรองรับสา
บัณฑิตป้ายแดง ไม่ทิ้งอาชีพครอบครัว ต่อยอด ขายทุเรียนออนไลน์ คว้ารายได้กว่า 6 ล้านบาท ใน 5 เดือนแรก หลายปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่จำนวนมาก เลือกเดินออกจากอาชีพเกษตรกรรม เพราะบางคนมองเป็นงานหนัก บางคนมองว่าไม่เท่ รวมถึงเป็นงานยากในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่สำหรับ คุณนิ้ง-สิริยากร ธรรมจิตร์ บัณฑิตป้ายแดง เธอเลือกกลับมาสานต่อธุรกิจสวนทุเรียนของครอบครัว ด้วยการสร้างแบรนด์ลูกสาวกำนัน คุณนิ้ง เล่าให้ฟังว่า แต่เดิมเธอเป็นเด็กที่ชื่นชอบงานด้านวิชาการ จุดเปลี่ยนสำคัญคือ ช่วง ม.6 คุณพ่อของเธอไปเห็นทุนการศึกษา ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อเข้าศึกษาต่อคณะเกษตรนวัตและการจัดการ (IAM) คณะที่ช่วยให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ ที่สร้างรายได้สูง “ตอนแรกเคยตั้งคำถามว่า ถ้าเรียนด้านเกษตรกรรมเฉยๆ จะไหวหรือไม่ แต่ที่บ้านบอกเราชัดเจนว่า ไม่ได้อยากให้เรากลับมาเพื่อทำสวน แต่อยากให้มาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม คณะก็ให้เราเรียนรู้ด้านเกษตรควบคู่กับธุรกิจ ไม่ใช่เรียนแค่ทฤษฎี แต่ให้เราได้เข้าสู่ภาคปฏิบัติจริงๆ ตลอด 4 ปี ทั้งการฝึกงานที่สวนทุเรียนในจังห
ตลาดไท สานต่อนโยบายภาครัฐ ยกระดับทุเรียนและผลไม้ไทยคุณภาพออกสู่ตลาด จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการให้พ่อค้าแม่ค้าและผู้สนใจร่วมอบรมในหลักสูตร “กูรูทุเรียน เซียนมังคุด” โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมบรรยายทั้งภาคทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง เจาะลึกเทคนิคการศึกษาสรีระ การตัด การคัดทุเรียนและมังคุดคุณภาพออกจำหน่ายเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น ตอกย้ำการเป็นตลาดค้าส่งผลไม้คุณภาพและตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตของผลไม้ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ออกสู่ตลาด จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การออกดอกติดผลของผลไม้ทั้ง 4 ชนิด ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด ประจำปี 2567 พบว่า มีปริมาณผลผลิตรวม 1,114,070 ตัน เพิ่มขึ้น 6.48% จากปี 2566 ที่มีจำนวน 1,046,254 ตัน โดยไม้ผลทั้ง 4 ชนิด จะออกมาสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งคิดเป็น 51% ของผลผลิตทั้งหมด สำหรับทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้หลักนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดมาตรการค
เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2567 กลับมาอีกครั้ง พร้อมบุฟเฟต์ทุเรียน อิ่มไม่อั้น! บิ๊กซี จับมือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน จัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2567” คัดสรรผลไม้สดและผัก ส่งตรงจากสวนสู่ผู้บริโภค พร้อมจัด ‘บุฟเฟต์ทุเรียนและผลไม้ไทย อิ่มไม่อั้น’ ในราคาสุดคุ้ม สมาชิกบิ๊กพอยต์เพียง 599 บาทตั้งแต่วันนี้ – 19 พฤษภาคม 2567 ที่บิ๊กซีสาขารัชดาภิเษก และบิ๊กซี 9 สาขา ที่ร่วมรายการ นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี และคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ประธานในพิธีเปิดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย สดจากสวน สู่บิ๊กซี ปี 2567” เพื่อส่งเสริมผลผลิตกลุ่มผลไม้ไทยในฤดูกาล ช่วยยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นเมืองหลวงผลไม้โลก และบิ๊กซีสนับสนุนการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร พร้อมเป็นช่องทางกระจายผลผลิตผลไม้ไทยคุณภาพดีราคาประหยัดสู่ผู้บริโภค อาทิ ทุเรียนหมอนทอง ราชาผลไม้ไทย, มังคุด ราชินีผลไม้ไทย, เงาะ, ลอ
ผู้ช่วยเชฟ รับช่วงต่อร้านทุเรียน ใจดีช่วยคนไม่มีทุนแต่อยากขาย ยืนไลฟ์หน้าร้านก่อนได้ ปัจจุบันการทำ 2 งานควบคู่กันไป ไม่ใช่เรื่องแปลก บางคนอาจทำเพราะรายได้จากงานงานเดียว ไม่เพียงพอ หรือบางคนทำเพื่อช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวให้เดินต่อไป เช่นเรื่องราวของ คุณทศพล อุ่นสกุล อายุ 40 ปี ลูกเขยเจ้าของร้านทุเรียนวิกานดา เขาได้ช่วยแม่ยายขายทุเรียน ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ คือ ผู้ช่วยเชฟที่โรงเรียนสอนทำอาหารนานาชาติ กระทั่งแม่มีอายุมากขึ้น จึงได้ส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนนี้เข้ามาดูแลกิจการเต็มตัว คุณทศ เล่าให้ฟังว่า คุณแม่ถวิลคือรุ่นแรกที่บุกเบิกร้านทุเรียนวิกานดา โดยเริ่มต้นจำหน่ายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ถึงปัจจุบันนับเวลาได้ราวๆ 30 กว่าปี ซึ่งกว่าจะยืนหยัดมาได้ยาวนานเช่นนี้ คุณแม่ถวิลต้องผ่านทุกแรงทดสอบมามากมาย ไม่ใช่ว่าประสบความสำเร็จภายในชั่วข้ามคืน เพราะการทำธุรกิจต้องมีขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้างสลับกันไป “แม่ยายผมเปิดร้านขายทุเรียน ส่วนผมทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟที่โรงเรียนสอนทำอาหารนานาชาติแห่งหนึ่งแถวสวนดุสิต แต่ก็มาช่วยท่านดูแลกิจการด้วย ผมทำงาน 2 งานควบคู่กันไปจนท่านเริ่มมีอายุมากขึ้นท่านก็อยากส่ง
ทุเรียนโลเป็นหมื่น! คุยกับเจ๊นิด เจ้าของร้านดังใน อ.ต.ก. ทำอย่างไรให้ลูกค้ายอมจ่าย แม้ราคาสูง “เราไม่ได้ผันตัวมาเป็นเกษตรกร แต่เราเป็นเกษตรกรตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว” คำพูดของ เจ๊นิด-พุธชาติ ลาภผล อายุ 50 ปีต้นๆ เจ้าของร้านทุเรียนน้องนิด ระยองฮิ! หากพูดถึงร้านทุเรียนเจ้าดังที่เป็นกระแสอยู่ตลอดๆ ต้องนึกถึงร้านเจ๊นิด ที่เปิดขายในองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ ตลาด อ.ต.ก. ที่เรารู้จักกันดี ทุกคนรู้หรือไม่ว่า ทุเรียนพันธุ์หมอนทองร้านเจ๊นิดมีราคาที่สูงถึงกิโลกรัมละ 12,000 บาท เลยทีเดียว ต้องบอกว่าขณะที่นั่งคุยกับเธอ ได้ทั้งแนวคิด วิธีการจัดการร้านมากมาย และในระหว่างที่นั่งฟังเจ๊นิดเล่า ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อกันอยู่ตลอดๆ บ้างก็ราคา 20,000 บาท บ้างก็ 10,000 บาทต้นๆ เรื่องราวของเจ๊นิด กับการเริ่มต้นอาชีพเกษตรกรตั้งแต่วัย 13 ปี ย้อนไปเมื่อเธอยังเด็ก เจ๊นิดก็เริ่มทำสวนทุเรียนมา อยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดระยอง เพราะเป็นการทำจากรุ่นสู่รุ่น แต่การทำสวนทุเรียนในรุ่นปู่รุ่นย่า ผลผลิต หรือรายได้ไม่ได้ดีมากเท่าไหร่นัก ทั้งกำหนดราคาเองไม่ได้ และโดนกดราคาอยู่ตลอด ทำแล้วไม่คุ้มราคาเหมือนการทำนาในสมัยนี้ “พี่นิด
เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ : ภัยจากธรรมชาติ และ ภัยจากตัวผู้ผลิตเอง “เราไม่ได้ผันตัวมาเป็นเกษตรกร แต่เราเป็นเกษตรกรตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว” คำพูดของ เจ๊นิด-พุธชาติ ลาภผล อายุ 50 ปีต้นๆ เจ้าของร้านทุเรียนน้องนิด ระยองฮิ! กระแสทุเรียนตอนนี้กำลังมาแรง และมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของทุเรียนไทยตีตลาดจีน เพราะคนจีนรู้สึกว่าทุเรียนจากประเทศไทยมีรสชาติที่กลมกล่อม หรือแม้แต่ทุเรียนเวียดนามเข้ามาเป็นคู่แข่งแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด และสภาพอากาศ แต่วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับเจ๊นิด ในมุมผู้ประกอบการ ทำให้เห็นถึงมุมมอง แนวคิด ของเธอ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุเรียนเจ๊นิด ถึงไม่เคยหายไปจากกระแสเลย ภัยจากธรรมชาติ สภาพอากาศต้องบอกว่ามีผลอย่างมากในการทำการเกษตร เพราะผลผลิตจะไม่ได้ตามยอดที่ตั้งเอาไว้ อย่างปีนี้ที่สภาพอากาศค่อนข้างสร้างผลกระทบต่อผลผลิตอย่างมาก ผลผลิตลดลงไปถึง 80% เลยทีเดียว นอกจากอากาศที่แปรปรวนแล้ว ศัตรูพืชก็สำคัญเช่นกัน อย่าง แมลง ก็มีการพัฒนามากขึ้น ทั้งมีโรค กินใบ กินต้น เพราะฉะนั้น คนจะต้องพัฒนาและศึกษากับธรรมชาติให้มากขึ้น ภัยจากตัวเอง ในมุมของเจ๊นิด เธอมองว่
“ทุเรียนไทย” ครองใจผู้บริโภคและโตต่อเนื่องในตลาดจีน แต่อาจจะเผชิญการแข่งขันจากเวียดนาม หนานหนิง, 16 เม.ย. (ซินหัว) — ยามฤดูเก็บเกี่ยวและจำหน่าย “ราชาแห่งผลไม้” อย่างทุเรียนเวียนมาถึง ทุเรียนจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทยอยเข้าสู่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง โดยรสชาติที่อร่อยและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทุเรียนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้น กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ตัวเลือกของหลายครอบครัวชาวจีน “ไทย” ถือเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตและส่งออกทุเรียนแห่งสำคัญของโลก แต่ละปีส่งออกทุเรียนสู่จีนเป็นปริมาณมาก โดยปริมาณการส่งออกทุเรียนของไทยสู่จีนในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.7 เมื่อเทียบปีต่อปี และทุเรียนที่ส่งออกสู่จีนคิดเป็นร้อยละ 70 ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย ขณะความนิยมทุเรียนในจีนเพิ่มขึ้นไม่หยุดและความต้องการของตลาดยังคงแข็งแกร่งในปี 2024 “ทุเรียนไทยอร่อยและมีกลิ่นหอมมาก แต่ละปีครอบครัวต้องซื้อทุเรียนหมอนทองของไทยมารับประทานกัน โดยตอนนี้นอกจากทุเรียนไทยแล้วยังมีทุเรียนเวียดนามให้เลือกซื้อ นี่เป็นเหมือนโบนัสของคนรักทุเรียนR
ทุเรียนไทย เร่งบุกตลาดจีน ปลุกกระแสผู้บริโภคแห่ซื้อ หนานหนิง, 23 เม.ย. (ซินหัว) — “กดเปิดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนแล้วเลือกทุเรียนพันธุ์ที่ถูกใจ รออยู่ที่บ้านไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ได้ทุเรียนอร่อยๆ มาแล้ว” คำบอกเล่าจากหวงหรงเซิง ชาวเมืองชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ผู้สั่งซื้อทุเรียนทางออนไลน์เป็นครั้งที่ 3 ในฤดูทุเรียนปีนี้ “ทุเรียนไทยพูสวยและรสชาติหวานมันกลมกล่อม” หวงกล่าว พร้อมเสริมว่าคนขายบางส่วนให้บริการสั่งทางออนไลน์และจัดส่งถึงที่หรือไปรับที่หน้าร้าน ทั้งยังมีการรับประกันการชดเชยหรือเปลี่ยนสินค้าที่เสียหายเพื่อควบคุมคุณภาพ ทำให้เลือกซื้อได้อย่างสบายอกสบายใจ บ้านของหวงนั้นอยู่ไม่ไกลจากซูเปอร์มาร์เก็ตโลตัส มาร์เก็ต (Lotus Market) ที่ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ได้เปิดบูธวางจำหน่ายทุเรียนหลายพันธุ์นำเข้าจากไทยภายใต้แบรนด์ซีพี เฟรช (CP Fresh) ทั้งพันธุ์หมอนทอง พันธุ์พวงมณี และพันธุ์มูซังคิง โดยกลิ่นหอมเตะจมูกและรูปลักษณ์เตะตาดึงดูดผู้คนเดินเข้าดูและเลือกซื้อ พนักงานประจำแผนกผลไม้ของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้เผยว่า ตอนนี้ทุเรียนสดจากไทยทยอยเข้ามาตลาดจีนแล้