ทุเรียนป่าละอู
นายตติย อัครวานิชตระกูล ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ผ่านมาร้านหนูจวบ ศูนย์โอทอปประจวบคีรีขันธ์ ริมถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เปิดจำหน่ายข้าวหลามทุเรียนป่าละอู สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานข้าวหลาม และรสชาติทุเรียนป่าละอู โดยนำจุดเด่นของข้าวหลามที่ผลิตจากข้าวเหนียว ถั่วดำ ผสมกับกะทิจากมะพร้าวทับสะแกที่มีคุณภาพหวานมัน ไม้ไผ่จาก อ.ทับสะแกที่มีเยื่อหนา ผสมกับเนื้อทุเรียนจากบ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ จากนั้นนำมารวมกันแล้วตักใส่กระบอกไม้ไผ่ ใช้วิธีการเผาแบบโบราณ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ข้ามหลามที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในประเทศ ที่มีความหอมของกลิ่นทุเรียน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ “ หลังจากผลิตได้ไม่นาน ปรากฏว่าก่อนหน้านี้ทุเรียนป่าละอูหมดฤดูกาล ไม้ไผ่เริ่มหากยาก มีราคาสูง แต่ล่าสุดหลังจากมีทุเรียนป่าละอู มีไผ่เพียงพอในการผลิตต่อเนื่อง ศูนย์โอทอปได้ผลิตข้าวหลามจำหน่ายตามปกติ โดยใช้สูตรเดิม มีให้เลือกรับประทาน 2 แบบ ทั้งแบบข้าวเหนียวธรรมดาและ ข้าวเหนียวดำ สำหรับข้าวเหนียวที่นำมาผลิตในขณะนี้ เป็นข
นาวาตรี ประสิทธิ์ กาญจนวณิชย์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากสมาชิกสหกรณ์กลุ่มผู้ปลูกทุเรียนหมอนทองพันธ์ป่าละอู ซึ่งเป็นสินค้าที่ผ่านการขั้นทะเบียน จีไอ หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ประสบปัญหามีผลผลิตลดลงจากปีก่อนกว่าร้อยละ 50 เนื่องจากประสบกับสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ดอกร่วงผลผลิต บางส่วนถูกช้างป่าบุกเข้าทำลาย นอกจากนั้น ผลผลิตจะออกสู่ท้องตลาดช้ากว่าปกติ จากเดิมปลายช่วงเดือนพฤษภาคม จะเลื่อนไปแก่จัดในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ดังนั้น ผู้บริโภคต้องระวังถูกพ่อค้าหลอกขาย เนื่องจากมีบางรายอ้างทุเรียนหมอทนทองจากแหล่งอื่นเป็นทุเรียนป่าละอู เพื่อจำหน่ายในราคาแพง ขณะที่ผลผลิตในสวนที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่มีน้อยมาก “ที่ผ่านมาผู้ประกอบการรายใหญ่จากประเทศประเทศจีน และญี่ปุ่น สนใจสั่งซื้อผลผลิตไปจำหน่าย โดยให้ราคาสูงกว่าปกติ หลังจากพบว่ามีทุเรียนมีรสชาติดี เนื้อแห้ง ล่าสุดได้แจ้งให้ทราบว่า สหกรณ์ไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ตามต้องการ เนื่องจากมีสัญญาซื้อขายกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในประเทศปีละกว่า 50 ตันเท่านั้น และยืนยันว่า ทุเรียนป
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นายศิวกภณ รตนรุ่งเรือง อายุ 47 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ป.ป่าละอู หมู่ 3 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เพื่อสร้างจุดขายความแปลกใหม่นอกเหนือจากความนิยมด้านรสชาติหวานมัน เนื้อแห้งมีเอกลักษณ์เฉพาะของผลผลิตด้านการเกษตรที่มีการรวมกลุ่มผู้ปลูกเพื่อจดสิทธิบัตรเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า IG ล่าสุด หลังจากใช้มีดเลาะหนามทุเรียนออกทั้งหมด และใช้มีดกรีดตามพูตามความต้องการของลูกค้าที่เดินทางมาเลือกซื้อที่แผง ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากหลังจากมีการแชร์ข้อมูลในสังคมโซเชียล ทำให้ลูกค้าเดินทางมาซื้อถึงแผงเพิ่มขึ้นจำนวนมาก สำหรับการเลาะหนามจะไม่คิดค่าจ่ายเพิ่ม และยืนยันว่าไม่ได้ทำให้รสชาติเปลี่ยนแปลง แต่การเลาะหนามออกทำให้สะดวกกับการนำไปบริโภคและไม่ได้สงวนสิทธิกรณีผู้ค้ารายอื่นจะเลาะหนามออกทั้งหมด และขณะนี้ได้นำทุเรียนหมอนทอง ก้านยาว พวงมณี และชะนี ตัดมีดแรกประมาณ 4 ตัน จำหน่ายราคาเฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 250 บาท โดยจัดส่งขายทางไปรษณีย์ให้ลูกค้าทั่วประเทศ โดยจะเลาะหนามออกหากลูกค้าต้องการ ซึ่งไม่มีผลกระทบกับทุเรียนที่มีผลแก่จัด ส่วนการเปิดแผงขายตร
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม น.ส.วงเดือน จุดจันทึก อายุ 48 ปี อยู่บ้านคลองน้อย ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของสวน “ทุเรียนป่าละอู” เปิดเผยว่า หลังจากเปิดรับจองทางเฟซบุ๊ก “ทุเรียนป่าละอูสวนบุญอินทร์” ล่าสุด มีผู้สนใจสั่งจองผลผลิตล่วงหน้าจำนวนมาก และคาดว่าทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ชะนี และก้าวยาว อายุต้นเกิน 12 ปี ภายในสวนที่หุบเสือโฮก พื้นที่ 40 ไร่ จะตัดจำหน่ายได้ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้อย่างแน่นอน และจะออกจำหน่ายในท้องตลาดได้ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคมนี้ โดยมีการติดป้ายที่ขั้วทุเรียนทุกผล พร้อมบาร์โค้ด ซีรีส์นัมเบอร์ป้องกันการปลอมแปลง วันตัดและวันบริโภค เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าได้รับประทานทุเรียนป่าละอูของแท้ จากการตัดจำหน่ายที่ความสุก 80% หากได้รับผลผลิตไม่มีคุณภาพพร้อมเปลี่ยนให้ลูกค้าทุกราย “ที่ผ่านมา สวนบุญอินทร์ไม่ผลิตทุเรียนทวายนอกฤดูกาล แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่รสชาติไม่เหมือนกับทุเรียนในฤดูปกติ สำหรับผู้สนใจจองทุเรียนป่าละอู โดยไม่ต้องซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง สอบถามรายละเอียดที่เพจเฟซบุ๊ก พร้อมค่าจัดส่ง 250 บาททั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเล่นเกมจากกิจกรรมการกดไลค์และแชร์ในเฟซบุ๊ก โดย
วันที่ 29 เมษายน 2560 น.ต.ประสิทธิ กาญจนวนิชย์ (รน.) ประธานกรรมการการสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสหกรณ์ฯและองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่ ร่วมกันถือครองทะเบียนสิทธิบัตร “ทุเรียนป่าละอู” ผลผลิตที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งมีความสำคัญในฐานะทรัพย์สินจากภูมิปัญญาของเกษตรกรในท้องถิ่น ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สินค้าจากแหล่งอื่นไม่สามารถลอกเลียนได้ โดยมีทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์ชะนี ที่มีลักษณะเนื้อหนา สีเหลืองอ่อน เนื้อแห้งละเอียด กลิ่นอ่อน รสชาติหวานมัน เมล็ดลีบเล็ก ปลูกเฉพาะบริเวณพื้นที่ป่าละอู ใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่เท่านั้น และ ขอยืนยันว่าทุเรียนป่าละอู รุ่นทวายได้ตัดจำหน่ายหมดรุ่นแล้วในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับทุเรียนในฤดูปกติจะเริ่มออกจำหน่ายได้ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป “ ขณะนี้สหกรณ์ได้ดูแลการรับซื้อผลผลิตทุเรียนจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก 52 ราย เพื่อกำหนดราคาซื้อขายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างอำนาจต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง หากตรวจพบว่าสมาชิกใครละเมิดลิขสิทธิ์ จะต้องเสียค่าปรับวงเงิน 200,000 บาท หลังจากกำหนดให้ชาวสวนตัดผ